ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะดัชนี S&P500 ที่เพิ่มขึ้นรายสัปดาห์ในระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี จากปัจจัยหนุนด้านการเมืองและนโยบายเศรษฐกิจ โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,988.99 จุด เพิ่มขึ้น 259.65 จุด (+0.59%) ส่วนดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,995.54 จุด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (7 พ.ย.) โดยราคาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากที่ลดลงอย่างมากในวันก่อนหน้า โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 29.50 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 2,705.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ (8 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 2 ในปีนี้ โดยส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (7 พ.ย.) ซึ่งเป็นแรงหนุนต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย

การประกาศของวุฒิสมาชิก Cynthia Lummis ในการจัดตั้งคลัง Bitcoin สำรองแห่งชาติถือเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง ซึ่งอาจเปลี่ยนแนวทางของกลยุทธ์การเงินของสหรัฐฯ หากประสบความสำเร็จ แนวคิดนี้ยังถือว่าเป็นความท้าทายและมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะเนื่องจาก Bitcoin

วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2567) บล. กรุงศรีแนะนำว่า ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์จากบรรยากาศเชิงบวกจากทั้งฝั่งสหรัฐและจีน โดยการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 4.5-4.75% ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับลง ดอลลาร์อ่อนค่าลง

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 6 พฤศจิกายน หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า “ทรัมป์เทรด” โดยดัชนีทั้ง Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

วันนี้ (8 พ.ย. 67) ราคาบิตคอยน์ขยับขึ้น 0.48% เมื่อเทียบกับราคาเมื่อ 24 ชั่วโมง โดยอยู่ที่ประมาณ 76,004 เหรียญสหรัฐ หรือราว 2,583,375.96 บาท ซึ่งราคาบิตคอยน์มีการเปลี่ยนแปลง 8.09% ในช่วงเวลา 7 วันที่ผ่านมา ข้อมูลอัพเดตเมื่อเวลา 6.59 น. ส่วนเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีอื่น ๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นกัน โดยราคา Ethereum (ETH) ปรับขึ้น 6.39% 

ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้าที่ 1,473.65 จุด เพิ่มขึ้น 6.23 จุด (+0.42%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 31,979.58 ล้านบาท โดยดัชนีรีบาวด์หลังจากเมื่อวานร่วงแรง จากข่าวที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ในตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อย โดยลดลงเพียง 0.59 จุด หรือ -0.001% ปิดที่ 43,729.34 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 44.06 จุด (+0.74%) ปิดที่ 5,973.10 จุดและ Nasdaq เพิ่มขึ้น 285.99 จุด (+1.51%) ปิดที่ 19,269.46 จุด

ยอดซื้อขายที่เกิดขึ้นกับ iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ สะท้อนถึงความต้องการที่สูงและความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อ Spot Bitcoin ETF ในตลาด นักลงทุนคาดการณ์ว่าชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล จะสร้างบรรยากาศที่เป็นบวก