สัญญาทองคำในตลาด COMEX ปิดร่วงลงอย่างมากในวันจันทร์ (11 พ.ย.) เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย นอกจากนี้ ความกังวลเกี่ยวกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ราคาบิตคอยน์ทะลุระดับ 80,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในเช้าวันนี้ (11 พ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า หากโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เขาจะสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี ด้วยนโยบายผ่อนคลายกฎระเบียบ ซึ่งอาจดึงดูดการลงทุนในบิตคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ

Geoff Kendrick นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered ได้คาดการณ์ว่า ราคาของ Bitcoin ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะพุ่งขึ้นไปถึง 80,000 ดอลลาร์ก่อนการเลือกตั้ง และจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี โดยเขาคาดว่าราคาจะสูงถึง 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่ "ทำได้ง่ายๆ"

ในช่วงเวลาที่ Jan Van Eck ซีอีโอของ VanEck ให้สัมภาษณ์กับ CNBC ว่า Bitcoin (BTC) อาจทำสถิติสูงสุดตลอดกาล หากมันทะลุ 77,000 ดอลลาร์ในวันนี้ ความเชื่อมั่นที่ VanEck มีต่อ Bitcoin ก็ยิ่งชัดเจนขึ้น โดยเขาคาดว่า BTC จะสามารถพุ่งขึ้นไปถึง 100,000 ดอลลาร์ในที่สุด และกล่าวว่า Bitcoin ควรมีมูลค่า

จากการสำรวจของศูนย์วิจัยทองคำ (GRC Gold Survey) ในช่วงวันที่ 11-15 พฤศจิกายน 2567 พบว่าผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับทิศทางของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ โดยในจำนวนผู้เชี่ยวชาญที่ตอบแบบสำรวจทั้งหมด 14 ราย มี 4 ราย (29%) คาดว่าราคาทองคำจะปรับขึ้น

จากการวิเคราะห์ของนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ในบทสัมภาษณ์กับ ประชาชาติธุรกิจ, เขาได้กล่าวถึงทิศทางตลาดหุ้นไทยและหุ้นต่างประเทศภายใต้ผลกระทบจากการเลือกตั้งของ โดนัลด์ ทรัมป์ และมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลสหรัฐ รวมทั้งแนวโน้มในช่วงไตรมาส 3 และ 4/2567 ของตลาดหุ้นไทย:

ราคาบิตคอยน์ในวันนี้ (11 พฤศจิกายน 2567) ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเพิ่มขึ้น 4.67% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มาอยู่ที่ราคา 80,464 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,761,845.72 บาท ซึ่งราคาบิตคอยน์ได้เพิ่มขึ้นถึง 17.31% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สะท้อนถึงแรงซื้อที่เข้ามาอย่างต่อเนื่องในตลาดคริปโตเคอเรนซี

ข้อมูลล่าสุด (9 พ.ย. 67) ราคาของบิตคอยน์ (BTC) ขยับขึ้น 0.66% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ 76,470 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2,616,419.91 บาท อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงในช่วง 7 วันที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นถึง 9.93% แสดงให้เห็นถึงความผันผวนที่เพิ่มขึ้นในตลาดคริปโต

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดลดลงในวันนี้ (11 พ.ย.) หลังจากจีนเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงในเดือนตุลาคม ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเป็นสัญญาณที่ก่อให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดภูมิภาคเอเชียอ่อนตัวลงตามไปด้วย

ในสัปดาห์หน้า (11-15 พ.ย.) ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) คาดการณ์ว่า ค่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 33.60-34.50 บาทต่อดอลลาร์ จากปัจจัยหลายประการที่อาจส่งผลกระทบทั้งในและต่างประเทศ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินบาทมีความผันผวน โดยเริ่มแข็งค่าขึ้นตามการปรับตัวของราคาทองคำในตลาดโลก