เรามาทำความเข้าใจกับโมเดลของโบรกเกอร์กันบ้าง ท่านทราบหรือไม่ว่าโบรกเกอร์มีอยู่สองแบบ คือ โบรกเกอร์ แบบ STP (Straight Through Processing, STP) และแบบ MM (Market Making, MM)
ซึ่งแต่และแบบมีส่วนที่คล้ายกันและต่างกันอยู่ ปกติแล้วโบรกเกอร์จะเก็บค่าสเปรตจากการเทรดแต่ล่ะครั้งของเราซึ่งโบรกเกอร์ทั้งสองแบบก็เก็บค่าสเปรตเหมือนกันขึ้นอยู่กับว่าใครจะมากจะน้อย ส่วนที่ต่างกันของโบรกเกอร์แบบ STP และแบบ MM คือ โบรกเกอร์แบบ STP นั้น เวลานักเทรดอย่างเราเปิดคำสั่งซื้อขายทางโบรกเกอร์แบบ STP จะส่งคำสั่งต่อไปให้ Prime Brokers(ก็คือ Lehman Brothers, Merrill Lynch ฯลฯ)หรือธนาคารอีกทีหนึ่ง ซึ่งทางโบรเกอร์จะได้ค่าสเปรตแค่นั้น แต่โบรกเกอร์แบบ MM จะไม่ส่งคำสั่งซื้อขายต่อ แต่จะรับไว้เอง ซึ่งหมายความว่าถ้าเราได้เงินโบรกเกอร์แบบ MM จะเสียเงิน ถ้าเราเสียเงินโบรกเกอร์แบบ MM จะได้เงิน ท่านคงเห็นแล้วว่าเทรดเดอร์อย่างเรากับโบรกเกอร์คิดแบบสวนทางกันอยู่ ท่านคงเคยได้ยินว่าบางทีราคาวิ่งมาชน TP แล้วแต่ไม่รู้ทำไมมันไม่ปิดออเดอร์ให้หรือคำว่า ”เกิดอะไรขึ้น! จู่ๆ เส้นราคาเคลื่อนตัวมาแถวนี้ก็มาชนเส้น SL เฉยเลย” อะไรทำนองนี้
แต่โบรกเกอร์ STP นั้นเวลาเราเทรดเสียโบรกเกอร์ STP ก็จะไม่มีส่วนได้เสียกับเรา หรือเราเทรดได้ก็ไม่มีส่วนได้เสียกับเรา เพราะถ้าเทรดเดอร์อยู่ในตลาดได้โบรกเกอร์ STP ก็อยู่ได้ เพราะโบรกเกอร์ได้เงินจากค่า สเปรตที่เราเทรด และเมื่อนักเทรดอย่างเราเริ่มมีกำไรมากขึ้น เราก็จะเทรด Lot ที่ใหญ่ขึ้นโดยธรรมชาติดังนั้นโบรกเกอร์แบบ STP จะรักษาลูกค้าให้ได้นานที่สุดและจะทำให้ลูกค้าเทรดให้ได้กำไรมากที่สุด จากที่กล่าวมาท่านคงจะเห็นแล้วว่าเราควรเลือกโบรกเกอร์แบบไหนมาเทรดกับเรา
คำถามก็คือแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรล่ะ ว่าโบรกเกอร์ไหนเป็นโบรกเกอร์แบบ MM และแบบ STP เพราะโบรกเกอร์มีมากมายหลายโบรก บางโบรกก็ยอมเปิดเผยว่าดำเนินธุรกิจแบบ MM โมเดล แต่ก็ยังมีอีกหลายโบรกเกอร์ที่ไม่ยอมเปิดเผย ต่อไปเป็นคำแนะนำสามประการที่จะช่วยให้ท่านรู้จักโบรกเกอร์ได้มากขึ้น
ประการแรกถ้าเป็นไปได้ให้ท่านโทรไปหาโบรกเกอร์บ้าง ถามว่าสำนักงานใหญ่อยู่ไหน จากนั้นก็อาจจะขออนุญาตเข้าเยี่ยมชมสำนักงาน และให้สังเกตว่าท่านเห็นห้องซื้อขายหรือไม่ ถ้าท่านเจอเพียงห้องเดียวแสดงว่าโบรกเกอร์แห่งนี้ดำเนินธุรกิจแบบ MM โมเดล
ประการที่สองประสบการณ์ในการเปิดบัญชี โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะอนุญาตให้ท่านเปิดบัญชี 3 ประเภทคือ แบบมาตรฐาน มินิและไมโคร กรณีแรก ถ้าโบรกเกอร์ไม่ให้ตัวเลือกบัญชีมินิกับไมโคร โบรกเกอร์นี้ดำเนินธุรกิจแบบ MM โมเดล กรณีที่ 2 ถ้าโบรกเกอร์ต้องการให้คุณเปิดบัญชีแยกสำหรับการเทรดมาตรฐาน มินิ หรือไมโคร โบรกเกอร์รายนี้อาจจะกำลังดำเนินธุรกิจ MM โมเดล เหตุผลที่ต้องเปิดบัญชีแยกกันก็เพราะว่าแต่ละบัญชีอยู่บนเซิร์ฟเวอร์คนละตัว โดยปกติแล้วโบรกเกอร์เหล่านี้จะให้ความสนในผู้ถือบัญชีมาตรฐานมากกว่าเพราะนักลงทุนกลุ่มนี้จะช่วยเพิ่มผลกำไรให้ได้มากกว่า
ประการที่สามการถอนทำได้ยาก สิ่งนี้เป็นสัญญาณบงบอกที่ดีที่สุด ถ้าท่านฝากเงินอย่างราบรื่นแต่ตอนถอนเงินมีอุปสรรค ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าโบรกเกอร์รายนี้จะดำเนินธุรกิจแบบ MM คือเป็นคู่สัญญาการเทรดของท่านโดยตรงถ้าท่านเทรดได้เขาก็ขาดทุน ถ้าคุณต้องเผชิญกับอุปสรรคในการถอนเงินส่วนที่เป็นกำไร นั้นหมายความว่าโบรกเกอร์กำลังมีปัญหากับกระแสเงินหมุนเวียนทั้งหมดในบริษัท นี่คือจุดที่คุณต้องระมัดระวังและควรถอนเงินทั้งหมดออกจากบัญชีถ้าทำได้
กฎ 5% เพื่อการเทรดให้สำเร็จ กฎนี้สามารถใช้ทำกำไรในตลาด Forex ด้วยทุน 100 เหรียญ สามารถสร้างกำไรมากกว่า 50000 เหรียญภายในเวลา 10 เดือน ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นโดยใช้หลัก 5% หมายถึงมีเงิน 100 เหรียญ แล้วทำกำไรวันละ 5% ของต้นทุนในแต่ละเดือน เราลองมาดูกันความจริงแล้วการเทรดที่มีประสิทธิภาพไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากหรือเข้าเทรดในปริมาณมากๆ ซึ่งใช้เพียงแค่ 5% ก็สามารถประสบความสำเร็จได้
| ตั้งเทรดที่ Lot | เดือนที่ | เงินทุน | กำไร 5%/วัน | คูณ 20 วัน | กำไร/เดือน |
| 0.05 | 1 | 100 | 5$ | 5x20 | 100 |
| 0.10 | 2 | 200 | 10$ | 5x20 | 200 |
|
0.20 |
3 | 400 | 20$ | 5x20 | 400 |
| 0.40 | 4 | 800 | 40$ | 5x20 | 800 |
| 0.80 | 5 | 1,600 | 80$ | 5x20 | 1,600 |
| 1.00 | 6 | 3,200 | 160$ | 5x20 | 3,200 |
| 2.00 | 7 | 6,400 | 320$ | 5x20 | 6,400 |
| 3.00 | 8 | 12,800 | 640$ | 5x20 | 12,800 |
| 6.00 | 9 | 25,600 | 1,280$ | 5x20 | 25,600 |
| 8.00 | 10 | 51,200 | 25,60$ | 5x20 | 51,200 |
รวมกำไรทั้งหมด 102,400$ x 33.7(June 2015) = 3,450,880 บาท(ซึ่งสะสมครบ 10 เดือนแบบไม่ถอน
ทฤษฎีนี้เป็นการคิดแบบตัวเลขทางสถิติให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นว่าเราไม่จำเป็นต้องได้กำไรมากต่อวันแต่ค่อยๆ สะสมประสบการณ์และเงินไปเรื่อยๆ อย่างไม่ประมาทก็สามารถประสบความสำเร็จได้ซึ่งหากวัดกันในหลักของ Money Management แล้วอาจเป็นจำนวนที่สูงเกินกว่าหลักการทำกำไรแบบปลอดภัยไปเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นอัตราความเสียงที่พอรับได้
เป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าตลาดการเงินและการธนาคารนั้นเขาปิดทำการในวันเสาร์-อาทิตย์ ซึ่งเป็นกฎหมายเหมือนกันทั่วโลก ในการทำงานประจำของทุกคนในโลกนี้ก็เช่นกัน จะต้องมีอย่างน้อย 1 วันไว้หยุดพักเพื่อให้ชีวิตมีที่ว่าง ได้ชาร์จแบตเติมพลังเพื่อจะได้มีแรงออกไปทำงานต่อไป นักเทรดมือใหม่หลายคนเมื่อเข้าสู่ตลาดในช่วงแรงจะเริ่มเสพติดการเทรด อยากจะดูกราฟ นั่งวิเคราะห์ให้เป็นเร็วๆ เทรดเร็วๆ และรวยเร็วๆ แม้ในวันหยุดก็ไม่อยากให้หยุด ซึ่งเป็นทัศนคติที่ไม่ถูกต้องในการเทรดและการใช้ชีวิต การรู้จักพักหายใจก็เพื่อให้เกิดสติที่สงบนิ่ง ได้นั่งทบทวนตัวเองความผิดพลาดต่างๆ แล้วรู้จักปล่อยวาง จากนั้นจึงจะสามารถกลับมาทำการเทรดได้ คนที่ไม่หยุดพักการเทรดก็เหมือนคนที่พยายามวิ่งมาราธอนอยู่ตลอดเวลาโดยไม่หยุด ซึ่งวิ่งได้ไม่นานก็ต้องล้มลงเพราะใช้แรงขับทางลบเป็นตัวผลักดันคือ โลภที่จะรู้ให้เร็วแต่ไม่ได้เข้าใจจริงๆและโลภที่จะได้เงินเร็วๆ จะได้รีบลาออกจากงานประจำมานั่งเทรดอย่างเดียวอยู่บ้าน
FXhanuman.com เป็นเว็ปไซต์รีวิวโบรกเกอร์ Forex สรุปข้อดีข้อเสีย ค่าสเปรต Leverage โปรโมชั่นที่น่าสนใจของแต่ล่ะโบรกเกอร์ วิธีสมัคร วิธีการฝากเงิน วิธีการถอนเงิน ซึ่งวิธีการต่างๆ ทางทีมงาน Fxhanuman.com ได้ทดลองทำทดลองใช้ทดลองเทรดด้วยตัวเอง ไม่ได้คัดลอกบทความจากที่อื่นแม้แต่น้อย บางหัวข้อที่ยังไม่ได้จัดทำรีวิวแสดงว่าทางเว็ปกำลังทดลองและจัดทำ เพื่อจัดหาโบรกเกอร์ที่เหมาะกับความต้องการของสมาชิกของเราอย่างเต็มที
คำถามคือ "ทำไมต้องเลือกโบรกเกอร์ที่ดี? และโบรกเกอร์ที่ดีเป็นแบบไหน?" ก็เพราะเงินที่เราเทรดเป็นเงินของเราที่เราหามาด้วยความยากลำบาก เราจำเป็นต้องมั่นใจในโบรกเกอร์เพราะเราต้องเอาเงินนี้ไปฝากไว้ที่โบรกเกอร์เพื่อที่จะสามารถเริ่มต้นเทรดได้ อย่างน้อยที่สุดที่เราควรจะศึกษาโบรกเกอร์ที่เราจะเทรดกับเขาเพื่อเงินทุนของเราจะได้ปลอดภัยอยู่ในโบรกเกอร์ที่ดีและไว้ใจได้ ปัจจุบันนี้โบรกเกอร์มีมากมายหลายโบรกเกอร์และการแข่งขันระหว่างโบรกเกอร์นั้นมีสูงมาก ดังนั้นแต่ละโบรกก็จะมีโปรโมชั่นต่างๆ ที่เร้าใจและดึงข้อดีของตัวเองออกมาทำให้เป็นสิ่งที่ดีต่อเทรดเดอร์อย่างเรา ดังนั้นการเลือกโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดมาเทรดนั้นเป็นสิทธิของเทรดเดอร์อย่างเรา แล้วโบรกเกอร์ที่ดีควรจะเป็นแบบไหนล่ะ ? เราได้รวบรวมคุณสมบัติของโบรกเกอร์ที่ดีไว้บางส่วนแล้ว คลิก
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
วิธีถอนเงินออก Swissquote
มีคำถามมากมายว่าใครที่เทรดเก่งที่สุด เทพที่สุด วิธีการเทรดแบบไหนที่ดีที่สุด ได้กำไรชัวร์ๆ ไม่มีขาดทุน ไม่มีติดลบในตลาดนี้บ้างไหม คำตอบคืออาจจะมี แต่เราไม่รู้ว่าคือใคร เขาคนนั้นอาจจะมีพลังหยั่งรู้อนาคต 5 นาทีก็เป็นได้ แบบประมาณว่าหลับตาแล้วเห็นว่ากราฟจะพุ่งไปทางไหน เหมือนในภาพยนตร์ ซึ่งเรียกได้ว่าหาตัวยากกว่างมเข็มในมหาสมุทร
เมื่อเราพบเขาแล้ว เราอาจจะขอร้องให้เขาถ่ายทอดวิชาหยั่งรู้อนาคตให้ อาจจะต้องกราบกรานจ่ายค่าเรียนเท่าไหร่ก็จ่ายเพื่อให้รู้อนาคตซัก 5 นาที ถึงกับยอมขายที่ดินขายทรัพย์สินเพื่อเรียนวิชาหยั่งรู้นี้ แต่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นไปไม่ได้ที่คนเราจะรู้อนาคตอย่างแน่นอน เพระฉะนั้นคนที่เก่งจริงในตลาด Forex คือคนที่ใช้ Money Management เท่านั้นเองที่สามารถอยู่ในตลาดนี้ได้ เพราะการเทรดผิดทางเป็นเรื่องปกติที่แสนธรรมดาของคนเรา
วิธีการเทรดที่ได้กำไรสูงสุดก็ยังไม่มีวิธีใดในโลกที่สามารถรับประกันได้ว่าได้กำไรแน่ๆ ร้อยเปอร์เซ็นมีแต่วิธีที่ทำให้ได้เงินมากและก็ได้เงินน้อยเท่านั้น คนเก่งจริงในตลาด Forex คือคนที่รู้จัก Cut Loss เป็น ไม่ยอมแพ้ แล้วก็ยืนหยัดในตลาดด้วยความเชื่อมั่นในความรู้ และมีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง คุณผู้อ่านที่เคยเทรดหุ้นหรือ Forex มาสักระยะบางทีก็คงอาจจะกลายพันธุ์เป็นยอดมนุษย์ที่รู้อนาคตได้ แต่เมื่อเวลาแห่งวิวัฒนาการนั้นยังมาไม่ถึงและไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวเรา เราก็ต้องใช้วิชา Money Mangagement ไปก่อนซึ่งถือเป็นสุดยอดวิชาในตลาด Forex
“แล้วคุณล่ะครับคุณใช้วิชาไหนอยู่ คุณมีวิชา Money Management แล้วหรือยัง ถ้าคุณมีคุณคือคนที่เก่งที่สุดในตลาด Forex”
1. เรียนรู้พื้นฐานทุกอย่างให้เข้าใจด้วยตัวเอง
นักเทรดหน้าใหม่ มือใหม่ส่วนมากจะมองข้ามความเข้าใจพื้นฐานไป แล้วรีบกระโดดเข้าไปสู่สงครามอย่างเต็มรูปแบบทันที ซึ่งมันส่งผลร้ายแรงอย่างมากหากรีบกระโจนสู่ตลาดโดยที่ความรู้ยังไม่มากพอ เปรียบเหมือนการีบลงสนามแข่งกับนักกีฬามืออาชีพโดยที่ไม่เคยเล่นหรือฝึกซ้อมในกีฬาชนิดนั้นมาก่อนเลย
2. ประสบการณ์เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จ ไม่มีใครรวยข้ามคืน
หากคุณเข้ามาเทรดเพราะอยากจะรวยเร็ว ก็เปรียบเหมือนนักเดินทางที่ไม่มีเข็มทิศ ไม่มีทั้งประสบการณ์และเครื่องบอกทิศทาง ทำให้หลงทางได้ไม่ยากเลย การเทรดเป็นเรื่องของประสบการณ์ ยิ่งคุณมีประสบการณ์มากเท่าไรคุณก็จะเทรดได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีคำถามมากมายเกี่ยวกับวิธีการทำกำไรที่กราฟวิ่งไปเท่ากันแต่ได้เงินไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่นกราฟวิ่งไป 100 จุดเหมือนกันคนหนึ่งได้เงิน 10 เหรียญ แต่บางคนได้เงิน 100 หรือ 1000 เหรียญ การได้เงินมากหรือน้อยมันเป็นเพราะประสบการณ์หากเราเทรดมา 5 ปี เป็นนักเทรดที่มีประสิทธิภาพ เราย่อมจะเห็นสิ่งที่มือใหม่มองไม่เห็นเพราะประสบการณ์เป็นตัวชี้นำเส้นทางของการเป็นเทรดเดอร์เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่ยาวไกล ดังนั้นไม่มีใครรวยเร็วในตลาด Forex เช่นเดียวกับการทำงานอื่นๆ เราต้องเตรียมตัวไว้ 1-3ปี กว่าที่เราจะสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ก็ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและการพยามยามเก็บประสบการณ์เทรดของตนเอง เพราะ Forex ก็เป็นอาชีพหนึ่ง ไม่ใช่หนทางลัดไปสู่การรวยเร็ว
3. ผู้เชี่ยวชาญอาจเป็นผู้หลอกลวง
การรับฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ปัญหาที่แท้จริงก็คือ ตลาดการค้าเงินเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนที่สุดในโลก มือใหม่ทุกคนที่เข้ามาเทรดได้สักระยะแล้วเริ่มได้กำไรต่อเนื่องมักจะชอบคิดว่าตัวเองนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีคนอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอายุตั้งแต่ 30-60 ปีนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือหญิง ที่ชอบใส่สูทแต่งตัวดีบอกตัวเองว่าเป็นนักเทรดมืออาชีพและขอให้มือใหม่ช่วยซื้อหนังสือของพวกเขามากๆ
คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นเทรดเดอร์ที่ล้มเหลวมาก่อน โดยบุคคลอ้างตัวว่าเป็นมืออาชีพที่ไม่ใช่มืออาชีพจริงมักจะมีลักษณะนิสัยดังนี้
- ชอบให้ข้อมูลเก่าซ้ำไปมาแล้วข้อมูลเหล่านั้นใช้ไม่ได้จริงๆ
- พวกเขามักจะบอกว่าพวกเขาเป็นนักเทรดมืออาชีพที่รวยมากและพยายามขายหนังสือให้กับคุณ
- พวกเขาจะบอกถึงสิ่งที่เขาทำได้แบบดูเกินความจริง เช่น เขาสามารถทำเงิน 1 พันเหรียญให้กลายเป็น 1 ล้านเหรียญภายในเวลาสั้นๆ
- พยายามพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นนักเทรดที่ได้กำไรสูงโดยการโพสต์ภาพที่แต่งขึ้นโดยใช้โปรแกรมแต่งภาพอย่าง Photoshop
- ชอบใช้หลักคณิตศาสตร์เพื่อให้ตัวเองดูเหมือนเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมากว่าที่เขาเป็นอยู่จริง ตัวอย่างเช่น พูดถึงแต่ออร์เดอร์ที่กำไรหลายครั้ง แต่ไม่เคยพูดถึง ออร์เดอร์ที่ขาดทุนเท่าใดนัก ซึ่งผู้ที่เป็ฯมืออาชีพจริงจะถ่ายทองได้เพียงวิธีการบริหารเงินที่ถูกต้องและกล้าพูดถึงสิ่งที่ไม่ถูกต้องในการเทรดที่นำไปสู่ความล้มเหลวเพียงเท่านั้น ดังนั้นการเดินตามคนอื่นหรือเชื่อว่าเขาหรือเธอที่ให้คำแนะนำคุณอยู่และเชื่อแบบสนิทใจ กลับเป็นเส้นทางสู่ความล้มเหลว เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของคุณก็คือการเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เป็นนักลอกแบบตามใครสักคนอย่างไม่ลืมหูลืมตา นักเทรดเดอร์ที่ดีจำเป็นต้องมีวิธีการขั้นตอนในการวิเคราะห์ตลาด และสามารถทำการวิเคราห์ด้วยตัวเองซึ่งจะทำให้คุณเขาใกล้ความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
การวิเคราะห์กราฟและทุกอย่างด้วยตัวเองจะทำให้
3.1 ทำให้คุณเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง
3.2 ได้เรียนรู้ในการเทรด ถ้าคุณเอาแต่ทำตามคนที่บอกว่าขาเป็นมืออาชีพอย่างไม่ลืมหูลืมตา คุณก็ไม่ต่างอะไรกับการโดนจูงจมูกไปเรื่อย และคุณก็ไม่สามารถทำกำไรได้หากวันหนึ่งมืออาชีพเหล่านั้นไม่ได้ให้เคล็ดลับใดๆ อีก หรือเคล็ดลับของเขาใช้ไม่ได้อีกต่อไป
4. อย่าเอาแต่ฝึกซ้อมเพื่อเป็นตำนาน Demo
การฝึกซ้อมเป็นสิ่งที่ดี แต่หากเอาแต่ฝึกมากไปจนไม่กล้าลงสนามจริงมันก็ไม่มีประโยชน์ เหมือนกับการที่คุณอยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพแต่เวลาซ้อมดันไปซ้อมแต่ในเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็เหมือนกับการเอาแต่เทรดเดโมแล้วคุณหวังว่าคุณจะกลายเป็นนักเทรดมืออาชีพได้ การเทรดบัญชีเดโม่นานเกิน 3 เดือนจึงไม่เหมาะสม ด้วยเหตุผมสองประการคือ
4.1 บัญชีเทรดเดโมทำให้มือใหม่มั่นใจแบบผิดๆ และทำให้พวกเขาติดนิสัยการเทรดที่ไม่ดี เพราะเขาจะเกิดความมั่นใจเกินไป ซึ่งในสถานการณ์จริงมันต่างกันกับเดโมมากนัก
4.2 บัญชีเดโมเรามักจะเทรดได้ดีกว่าบัญชีจริงเสมอ เพราะมีองค์ประกอบที่ดีกว่าหลายอย่าง เช่น ส่งออร์เดอร์ได้เร็วกว่า ไม่เครียดเพราะไม่ใช่เงินจริง และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย
บัญชีเดโมไว้สำหรับเรียนรู้พื้นฐานในการเทรดเท่านั้นและเมื่อคุณพร้อมคุณควรเทรดเงินจริงเท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้เงินแค่ 5$ ก็สามารถเทรดได้แล้ว
5. ยึดมันในวิธีการของตัวเอง
วิธีการเทรดไม่ว่าวิธีใดก็ตามย่อมมีขึ้นมีลง ไม่มีระบบเทรดวิธีการใดหรือการเทรดแบบไหนที่จะได้กำไร 100% ตลอดไป วิธีการเช่นนี้มีโอกาสกำไรเฉลี่ยเท่ากับ 80% บางช่วงของปีควรจะได้กำไร 60% หรือบางทีในช่วงอื่นๆ ของปีก็ได้กำไร 100% สักหนึ่งหรือสองเดือน ฉะนั้นควรรู้ว่าแต่ละปีจะต้องเจอช่วงที่แย่ และต้องเสียมากกว่าที่เคยเสีย แต่เราจะต้องไม่สูญสิ้นศรัทธาและยังเทรดมันต่อไปเพราะปัญหาของมือใหม่คือมักจะยอมแพ้หลังจากเพียงแค่สัปดาห์แรกเท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่าทิ้งระบบของคุณเองเมื่อเวลาแย่ๆ ผ่านมาถึง
6. พยายามทำให้การเทรดเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด
การเทรดไม่จำเป็นต้องยุ่งยากหรือซับซ้อน ค่อนข้างธรรมดาและมีประสิทธิภาพ ใช้เวลา 2-5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการเทรดโดยส่วนใหญ่เทรดเดอร์มืออาชีพจะใช้ชีวิตตามปกติซึ่งวิธีการเทรดของเขาไม่ต้องซับซ้อนและไม่ยากต่อการทำความเข้าใจ ไม่ต้องเฝ้ากราฟมาก
7. พยายามเทรดเพียงเงินเพียงคู่เดียวในตลาดเท่านั้น
วิธีหนึ่งที่ง่ายที่สุดคือการทำให้การเทรดของคุณเป็นธรรมชาติที่สุดก็คือการเทรดแค่คู่เงินเดียว ข้อนี้เป็นเรื่องธรรมดามากที่จะช่วยให้เราสำเร็จได้เพราะคู่เงินเดียวจะทำให้คุณมีสมาธิและพยายามเรียนรู้เกี่ยวกับค่าเงินคู่นั้นๆ ดังนั้นมันจะทำให้คุณเข้าใจว่ามันมีพฤติกรรมซ้ำซากและเคลื่อนไหวแบบใดเป็นปกติวิสัย การเทรดค่าเงินหลายคู่ คุณจะต้องเรียนรู้ลักษณะพิเศษของค่าเงินแต่ล่ะคู่ เช่น
7.1 มีปฏิกิริยากับข่าวที่แตกต่างตามค่าเงิน
7.2 อัตราการวิ่งของแต่ละคู่ที่บางคู่ช้า บางคู่เคลื่นไหวเร็ว
7.3 เวลาที่คู่เงินเคลื่อนไหวแตกต่างกันในช่วงวันหนึ่ง
7.4 ต้องจัดการออร์เดอร์ที่เปิดอยู่แตกต่างกันไป
การกระโดดเข้าไปเล่นหลายคู่เงินแบบนี้จะทำให้มีความกดดันสูงและทำให้เรียนรู้พฤติกรรมของกราฟได้ช้า ฉะนั้นควรเริ่มด้วยการเทรดคู่เดียว
8. กราฟสะอาดเรียบง่ายแต่ทรงพลัง
มือใหม่ส่วนใหญ่จะใส่ Indicator เต็มไปหมดในกราฟของพวกเขาซึ่งตอนที่เข้าเทรด Indicator จะช่วยคุณในการเทรดได้ส่วนหนึ่ง แต่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์พวกเขาจะพบว่า “ยิ่งน้อยก็ยิ่งดี” เพราะ Indicator ที่มากจะทำให้คุณสับสนมากขึ้น ยิ่งคุณมี Indicator มากเท่าไรก็จะทำให้
8.1 กราฟยุ่งเหยิง ยากต่อการวิเคราะห์ในการเข้าซื้อขาย
8.2 ทำให้คุณต้องคิดมากกว่าปกติและการตัดสินใจแย่ลง
8.3 เพิ่มความขัดแย้งของสัญญาณมากขึ้น ระหว่าง Indicator แต่ละตัว
การฝึกเหล่านี้เป็นวิธีฝึกทั้งความคิดและในแง่การปฏิบัติ หากคุณปรับวิธีคิดและการฝึกได้ คุณก็เข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ
ในอดีตนั้นเมื่อโลกกำลังฟื้นตัวจากยุคหลังสงครามทุกประเทศก็มีความจำเป็นเร่งด่วนในเรื่องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับประเทศของตนเอง
ตัวแทนจากประเทศต่างๆ รวมกันกว่า 29 ประเทศจึงได้มาเจรจากันที่เมือง Bretton Woods และตกลงกันในระบบเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งข้อสรุปที่จะต้องปรับเปลี่ยนกันในเวลานั้นก็คือต้องมีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเกิดขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงได้เกิดองค์กรสำคัญของโลกขึ้นมาอย่าง “กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF)” ถูกก่อตั้งขึ้นภายใต้ข้อตกลง Bretton Woods และดำเนินการในปี พ.ศ. 2492 และเริ่มมีการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศให้มีความชัดเจนมากขึ้น
ต่อมาปลายปี พ.ศ. 2503 ระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราคงที่เริ่มต้นต้องสลายตัวลง สืบเนื่องมาจากปัจจัยทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศที่มีมากมาย
ในปีพ.ศ.2014 ประธานาธิบดีนิกสันแห่งสหรัฐอเมริกาได้ระงับการผูกเงินดอลลาร์สหรัฐไว้กับทอง โดยเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขการล่มสลายของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่รู้จักกันว่า นิกสัน ช็อก(Nixon Shock) จนนำไปสู่การเกิดตลาดระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราลอยตัว
Forex จึงเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ.2014 (ค.ศ.1971) เมื่อการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเปลี่ยนจากระบบตายตัวเป็นแบบลอยตัวเป็นการแลกเปลี่ยนโดยคนกลาง ในการแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างสกุลต่างๆ ในอัตราและวันที่กำหนดในการแลกเปลี่ยนนั้น
อัตราแลกเปลี่ยนกำหนดขึ้นจากพื้นฐานของความต้องการของตลาดซึ่งแต่ละฝ่ายยอมรับ ตลาดของการแลกเปลี่ยนเงินตราในตลาดโลก ได้ขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการค้าระหว่างประเทศและการล้มเลิกอัตราแลกเปลี่ยนแบบตายตัวในหลายๆ ประเทศ
ต่อมาในกลางปี ค.ศ. 1998 มีปริมาณการแลกเปลี่ยนเงินตราคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 1,982 พันล้านเหรียญสหรัฐต่อวัน (การแลกเปลี่ยนนี้เกิดขึ้นในตลาดลอนดอนกว่า 32% ตลาดนิวยอร์ก 18% และตลาดเยอรมันประมาณ 10%)
ไม่เฉพาะเพียงแค่ขนาดของการแลกเปลี่ยนเงินตราที่เติบโตขึ้น แต่รวมไปถึงอัตราของการแลกเปลี่ยนด้วย ในปีพ.ศ.2520 มีการทำธุรกรรมประมาณกว่า 5,000 ล้านเหรียญ และเพิ่มขึ้น เป็น 600 พันล้านเหรียญสหรัฐ และเข้าสู่หลัก 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปีพ.ศ. 2535 ซึ่งการเติบโตนี้ ผู้ดำเนินการในการแลกเปลี่ยนสามารถเพิ่มรายได้ขึ้นกว่า 80% ซึ่งมีทั้งสถาบันการเงินและนักลงทุนทั่วไป
เมื่อมีการพัฒนาขึ้นอย่างมากของระบบคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ก็ได้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงกับตลาด Forex เป็นอย่างมากเช่นกัน และในการนี้ตัวกลางมืออาชีพ(Broker) ได้มีความสำคัญขึ้นอย่างมาก การแลกเปลี่ยนเงินตราซึ่งเมื่อก่อนต้องขึ้นอยู่กับธนาคารขนาดใหญ่นั้นได้เปลี่ยนไปเป็นผลโดยตรงจากการเติมโตของการตลาดบนอินเตอร์เน็ต ธนาคารได้เริ่มนำเสนอบริการแบบอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลทั่วไป
โบรกเกอร์ออนไลน์จึงเข้ามามีส่วนแบบกว่า 11% ของตลาด ปริมาณการแลกเปลี่ยนของธนาคารขนาดใหญ่ (เช่น Deutsche Bank, Barclays Bank, Union Bank of Switzerland, Citibank, Chase Manhattan Bank, Standard Chartered Bank) จึงเพิ่มขึ้นมาเป็นกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐ ความน่าสนใจของ Forex คือ ไม่ว่าตลาดทุนจะแปรฝันอย่างไรก็ตามก็ไม่ได้กระทบกับตลาด ตัวอย่างเช่น เงินเยนญี่ปุ่นแข็งคาขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในช่วงปี ค.ศ.1988 ทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐตกลงกว่า 12% แต่ตลาด Forex ก็ไม่ได้ร่วงลงทีใดที่หนึ่ง การแลกเปลี่ยนเงินตรายังคงเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ทำให้นักลงทุนสามารถเข้าออกตลาดได้อยู่เรื่อยๆ Forex เป็นตลาดการเงินที่เปิดตลาด 24 ช.ม. การแลกเปลี่ยนระหว่างธนาคารเกิดขึ้นตลอดเวลาทั่วโลก และอัตราแลกเปลี่ยนจะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลาดเวลา ซึ่งสามารถทำการซื้อ-ขายได้หลายครั้งต่อวัน
และด้วยเทคโนโลยีทำให้การลงทุนในตลาดแห่งนี้จึงมีความแตกต่างอย่างมากกับการลงทุนในตลาดอื่นอย่างเทียบไม่ได้ และถึงแม้ธนาคารขนาดใหญ่จะมีเครื่องมือที่ทันสมัย มีพนักงานนับร้อย ก็ไม่ได้ทำให้เกิดความได้เปรียบ/เสียเปรียบกับนักลงทุนโดยทั่วไปเลย
ต้นทุนในการเข้าตลาดนี้ก็ลดลงเป็นอย่างมากเมื่อเทียบกับในอดีตเพราะสมัยก่อนอาจจะต้องใช้เงินนับพันเหรียญสหรัฐในการเข้าคอร์สอบรมเรียนรู้ ซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์หรือซื้อหาข้อมูลการลงทุน และเปิดบัญชีซื้อขายซึ่งไม่มีธุรกิจอื่นที่สามารถเริ่มต้นได้ด้วยทุนที่ต่ำมากเพียง 100-200 ดอลลาร์ก็เริ่มลงทุนได้
ดังนั้นการค้นหาโบรกเกอร์ที่มีความมั่นคงและน่าเชื่อถือ ก็เป็นเรื่องสำคัญ ทางเว็บ FXhanuman ได้จัดทำรีวิวของโบรกเกอร์ต่างๆ ที่เหมาะสมกับคนไทยไว้แล้วในเว็บไซต์นี้ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจในการซื้อขาย ของนักลงทุนเองแล้วล่ะครับ
ตัวแทนการซื้อขายในระบบหรือที่เรียกว่า “Broker” ซึ่งจะมีหน้าที่เป็นตัวแทนในการนำผู้ค้าเงินหรือเทรดเดอร์เข้าสู่ตลาด โดยมีหน้าที่รับคำสั่งซื้อขายออร์เดอร์ที่มาจากเทรดเดอร์ โดยโบรกเกอร์จะได้เงินจากค่าคอมมิชชันหรือค่าธรรมเนียมจากการบริการ
โบรกเกอร์ที่ถูกกฎหมายนั้นจะต้องมีการจดทะเบียนและผ่านการรับรองจากองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ องค์กรที่ทำหน้าที่กำกับดูแลโบรกเกอร์เหล่านี้มีมากมายเช่น National Futures Association(NFA) และ Commodity Futures Trading Commission(CFTC) ซึ่งทั้งสองเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลโบรกเกอร์สหรัฐอเมริกาและเป็นผู้ออกใบจดทะเบียนให้แก่โบรกเกอร์ต่างๆ
ถ้าโบรกเกอร์ที่อยู่ประเทศอังกฤษก็จะมีหน่วยงานกำกับดูแลที่ชื่อว่า “Financial Services Authority(FSA)” เป็นผู้ออกใบจดทะเบียนให้ เป็นต้น
หากโบรกเกอร์ใดที่ได้รับการรับรองจากองค์กรหลักๆ 3 องค์กรนี้ก็พอมีความมั่นใจได้ในเรื่องมาตรฐานในการดูแลความปลอดภัยของผู้ค้าเงินระหว่างประเทศ โดยจะมีการออกใบรับรองให้และต้องมีการตรวจสอบระบบความปลอดภัยรวมถึงระบบการดูแลเงินของผู้ค้าเงินที่มีประสิทธิภาพ
รายชื่อองค์กรที่มีหน้าที่กำกับดูแลโบรกเกอร์ในแต่ล่ะประเทศสำคัญๆ ได้แก่
- Australla: Australian Securities and Investments Commission
- Canada: British Columbia Securities Commission, Ontario Securities Commission
- Denmark: The Danish Financial Supervisory Authority
- Germany: Bundesanstalt Für Finanzdienstleistungsaufsicht
- Hong Kong: The Securities and Futures Commission
- Japan: Financial Services Agency
- Spain: Comisión Nacional Del Mercado de Valores
- Sweden: Swedish Financial Supervisory Authority (Finansinspektionen)
- Switzerland: Groupement Suisse des Conseils en Gestion Independants, Polyreg, Organisme d’autre parle GSCGI, Association Romande des intermediares financiers, Swiss Federal Department of Finance, Commission federale des banques, Swiss Federal Banking Commission
- United Kingdom: Financial Services Authority
- United States: Securities and Exchanges Commission, Commodities and Futures Trading Commission, National Futures Association
ในแต่ล่ะประเทศก็จะมีตัวแทนหรือโบรกเกอร์ต่างๆ ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนขององค์กรเหล่านี้ โดยแต่ละโบรกเกอร์ก็จะมีหน้าที่ดำเนินงานในการคอยดูแลผู้ค้าเงินที่มีประสิทธิภาพแตกต่างกันไปตามแต่ล่ะโบรกเกอร์
ในโลกของการทำเงินออนไลน์มีการค้าและการลงทุนหลากหลายรูปแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็มีความเสี่ยงและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไปเพราะปัจจัยแตกต่างกัน
การเทรด Forex เป็นทางเลือกหนึ่งในโลกของการลงทุน ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีแพร่หลายมากขึ้นจากที่เคยเป็นการทดลองเล่นกันในกลุ่มคนที่ใฝ่ศึกษาด้านการลงทุนเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้สูง ก็เริ่มแพร่หลายไปสู่กลุ่มบุคคลทั่วไปที่มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อยก็เริ่มเดินเข้าสู่ตลาด Forex กันมากขึ้น
แล้ว Forex คืออะไร Forex ย่อมาจาก Foreige Exchange Market ซึ่งเป็นตลาดการค้าเสรีสกุลเงินระหว่างประเทศโดยการจับคู่ค่าเงินมาซื้อขายและเปลี่ยนกันโดยมีผู้ซื้อและผู้ขาย เรียกว่าเทรดเดอร์ หรือผู้ค้าเงิน ผู้ค้าเงินอาจต้องการซื้อเงินยูโรและกับดอลลาร์สหรัฐโดยจะใช้บริการผ่านตลาด Forex เพื่อทำการแลกเปลี่ยน โดยที่ในตลาดการซื้อขายเงินของ Forex นับเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีปริมาณการซื้อขายต่อวัน มากกว่า $4 ล้านล้านเหรียญต่อวัน ซึ่งถ้ารวมทั้งสัปดาห์ก็มากกว่าค่า GDP ของอเมริกา ซึ่งมีสกุลเงินหลักในการซื้อขายแลกเปลี่ยนคือตระกูลเงินดอลล่าร์สหรัฐ
1. ก่อนที่เราจะเริ่มเข้าสู่ตลาด Forex ผมอยากให้ท่าานถามคำถามกับตัวเองก่อน เพื่อที่จะให้ท่านฉุดคิดถึงสิ่งที่ท่านกำลังจะเขาตลาด Forex คำถามแรกท่านเข้ามาตลาด Forex เพื่ออะไร? คำถามนี้สำคัญมากเพราะว่าบางท่านตอบว่าอยากรวยเร็ว อยากมีเงินเร็ว อยากประสบความสำเร็จเร็วๆ แต่ในทางกลับกันท่านก็สามารถเสียเงินได้รวดเร็วเช่นกัน เพราะสำหรับคนใหม่ที่เข้ามา เรายังไม่มีความชำนาญในการเล่นต้องใช้เวลาศึกษาหาความรู้ ลงทุน ลองผิดลองถูกเก็บประสบการณ์ซักระยะถึงจะสามารถชนะตลาดได้ ดังนั้น Forex ไม่ใช่หนทางแห่งการรวยเร็ว คำถามที่สอง ท่านรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน? ถ้าท่านรับความเสียงได้น้อยผมแนะนำว่าอย่าเล่น Forex ดีกว่า เพราะ Forex เป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูงสุดในตลาดค้าเงิน แต่สำหรับท่านที่ชอบเสี่ยงก็ดีครับ เพราะความเสียงสูงผลตอบแทนก็สูง แต่ Forex จะมีความเสี่ยงน้อยลงมากถ้าท่านเข้าใจว่าความเสี่ยงส่วนใหญ่เกิดจากปลายนิ้วของเราหรือตัวของเราเองหรืออารมณ์ของเราถึง 90% และอีก 10% เป็นของสภาวะตลาด หมายความว่าถ้าเราควบคุมตัวเราให้เทรดตามกฎรวมถึงอารมณ์ได้เท่ากับเราชนะตลาดได้
2. เลือกโบรกเกอร์ที่ดีมาเทรด เรื่องนี้สำคัญมากเพราะถ้าเราเลือโบรกเกอร์ที่ไม่มีคุณภาพ ก็เสี่ยงแล้ว อย่าลืมว่าเราต้องโอนเงินของเราเข้าไปในบัญชีของโบรกเกอร์ที่เราจะเทรด ประวัติการดำเนินงานของโบรกจึงจำเป็นที่ต้องศึกษา ดังนั้นทางเว็บของเราได้รวบรวมโบรกที่น่าเชื่อถือไว้บางส่วนแล้ว อ่านเพิ่มเติม
3. เมื่อเลือกโบรกเกอร์ได้แล้วให้เปิดบัญชีจริงกับโบรกเกอร์นั้น ทำการอัฟโหลดเอกสารตามที่โบรกเกอร์บอก หรือบางท่านอาจทดลองเทรดด้วยบัญชี Demo ก่อนเพื่อสร้างความมั่นใจ ก็ดีครับแต่อย่าเป็นเทพ Demo นานเกิน แต่ผมแนะนำว่าให้เปิดบัญชีจริงไปเลยและเปิดบัญชีประเภท Cen ซึ่งสามารถเทรดเงินเงินในจำนวน Lot น้อยๆได้ เพราะว่าความรู้สึกในการเทรดจริงจะเกิด ความกดดัน ความโลภจะเกิดขึ้นจริงซึ่งอารมณ์เหล่านี้สำคัญต่อการเทรดมากๆ เราจำเป็นจึงต้องบริหารอารมณ์แบบนี้ให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าเราเทรด Demo อารมณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ซึ่งอารมณ์อย่างว่าจะเป็นตัววัดความสำเร็จมากกว่าเทคนิคการเทรดเสียอีก นั้นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคนที่เล่นพอร์ต Demo ถึงทำกำไรได้ดีกว่าพอร์ตจริง(วิธีการสมัคเปิดบัญชีจริงกับโบรกเกอร์ต่างท่านสามารถดูได้ในเว็บเรา)
4. เมื่อสมัคเปิดพอร์ตจริงเสร็จ ทางโบรกเกอร์จะส่ง ล๊อกอินและรหัสผ่านมาทางอีเมลล์ที่เราได้สมัค ขั้นตอนต่อมาให้โหลดโปรแกรม MT4 มาลงในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือ Smart phone และเอาล๊อกอินและรหัสผ่านกรอกลงไปใน MT4 เท่านี้ท่านก็สามารถเริ่มเทรดได้แล้ว
5. อย่าลืมว่าการเทรดต้องใช้ประสบการณ์และการฝึกฝน ไม่มีคนที่รวยเร็วด้วย Forex โดยที่ไม่มีประสบการณ์และการฝึกฝน ถึงจะมี เขาอาจจะโชคดี แต่ของแบบนี้เราวัดกันที่ระยะยาว Forex เป็นการวิ่งมาราธอน ไม่ใช่วิ่งร้อยเมตร ดังนั้นถ้าท่านเทรดเสียมากกว่าได้ให้ท่านพึงระลึกว่าท่านมาถูกทางแล้ว แต่ที่ท่านยังเสียอยู่แสดงว่าท่านยังเก็บประสบการณ์และฝึกฝนยังไม่มากพอ
“ทุกความสำเร็จย่อมมีความลมเหลวเกิดขึ้น ถ้าไม่มีความล้มเหลวเราก็จะไม่พัฒนาตัวเราให้ดียิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นความล้มเหลวจำเป็นต่อความสำเร็จ อย่าปฏิเสธความล้มเหลว แต่จงเอามันมาเป็นคุณครูสู่ความสำเร็จ”
Jack. Sarawut : ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ FXhanuman.com
ข้อดีของตลาด Forex
- Forex เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังคงเติบโตอย่างรวดเร็ว
- มีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศผ่านอินเตอร์เน็ตและ 3G,4G ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการซื้อขายได้ง่ายดาย
- ผู้ค้าเงินสามารถทำกำไรได้ในภาวะเศรษฐกิจที่เติบโตและถดถอยตามสภาวะเศรษฐกิจโลกโดยดูจากปัจจัยค่าเงินเป็นหลักโดยไม่มีสภาวะทางการเมืองและความมั่นคงด้านอื่นๆ มาเกี่ยวข้องมากนัก
- ค่า Commission ที่ต้องจ่ายให้โบรกเกอร์นั้นต่ำมากหรือแทบจะไม่มีเลย
- ตลาดเปิดตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงวันจันทร์ถึงศุกร์(เสาร์-อาทิตย์ตลาดปิด)
หลักการทำกำไรในตลาด Forex ก็สามารถทำได้ไม่ยากเกินไป หลายท่านอาจจะเคยเล่นหุ้นมาบ้าง หลักการทำกำไรหลักๆ ก็จะคล้ายๆ กันที่ว่า ซื้อถูกขายแพง ซึ่งเป็นหลักการพื้นฐานของการค้าอยู่แล้ว
ข้อเสียของตลาด Forex
- ความเสี่ยงสูงมาก เรียกได้ว่าอยู่ระดับชั้นบนสุดในเรื่องตลาดการค้าเงิน เพราะเป็นการทำกำไรในระยะสั้นกันเป็นส่วนมาก
- ผู้ที่ไม่มีความรู้หากรีบกระโจนลงสู่ตลาด Forex ทันทีและขาดการเรียนรู้หรือสติในการเข้าเทรด อาจทำให้สูญเงินจำนวนมากในเวลาอันสั้น
- เริ่มมีการใช้ระบบการเทรด Forex ไปเป็นการประกอบมิจฉาชีพคือหลอกลวงให้ระดมเงินทุนเข้ามาเพื่อเป็นเงินก้อนใหญ่และเทรดโดยแบ่งผลกำไรให้ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากๆ ที่จะสูญเงินได้ หากผู้ที่ไม่ได้ศึกษาหาความรู้ในตลาดนี้มาก่อน อาจถูกหลอกให้เสียเงินจนหมดตัวได้
อย่างไรก็ตาม Forex ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับผู้ที่ต้องการหาทางเลือกในการสร้างรายได้แบบยั่งยืน ด้วยที่ว่าธรรมชาติของมนุษย์แล้วไม่มีใครอยากจะเหนื่อยออกแรงหาเงินไปตลอดชีวิต ย่อมต้องการความสุขสบายและมีรายได้ต่อเนื่องด้วยกันทั้งนั้น ส่วนเรื่องการบริหารความเสี่ยงนั้นก็ขึ้นอยู่กับความรู้และการรู้จักควบคุมตัวเองให้ได้อย่างถูกต้อง
หน้าที่ 1 จาก 2
| Broker Name | Regulation | Max Leverage | Lowest Spreads | Minimum Deposit | Minimal Lot | Contact |
|
|
ASIC, FSA, CYSEC | 1000:1 |
0.0 pips -ECN |
$10 | 0.01 lot | |
|
|
FCA, ASIC,IFSC, CySec |
1000 : 1 | 1 pips – Micro 1 pips – Standard 0 pips - Ultra low |
$5 | 0.01 lots | View Profile Visit Website |
|
|
FSC of BVI | 1000 : 1 |
0.1 pips - Cent |
$1 |
0.0001 lot Cent |
|
|
|
SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC | 500 : 1 | 0.1 pips | $100 | 0.01 lots | View Profile Visit Website |
|
|
CySEC, FCA | Unli : 1 Stand Unli : 1 Raw Unli : Zero |
0.3 pips – Stand 0 pips – Raw 0 pips – Zero |
$1 | 0.01 lot Stand 0.01 lot Raw 0.01 lot Zero |
View Profile Visit Website |
|
|
SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA | 2000 : 1 | 0.0 pips | $5 | 0.01 lot | View Profile Visit Website |
|
|
FCA, VFSC | 2000:1 | 0.1 Pips | $2.5 | 0.01 lot | View Profile Visit Website |
|
|
FSC, FSA | 1000 : 1 | 1.5 pips - Classic 1.1 pips - VIP 0.0 pips - RAW |
$10 | 0.01 lots | View Profile Visit Website |
|
|
ASIC,SCB,CYSEC,DFSA, FCA, BaFIN, CMA, |
200 : 1 | 1 pips - Stand 0.1 pips - Razor 1 pips - No Swap 0 Pips - Active Trade |
0 | 0.01 lot | View Profile Visit Website |
|
|
FCA | 500:1 | 1.6 pips | $25 | 0.01 lot | View Profile Visit website |
 ATFX |
FCA, CySEC | 200 : 1 | 1.8 pips | $100 | 0.01 lot | View Profile Visit Website |
 RoboForex |
CySEC, IFSC | 2000:1 | 0.4 pips | $10 | 0.01 lot | View Profile Visit Websit |
| IFSC | 500 : 1 |
1 pips - Micro |
$1 | 0.01 lot | View Profile Visit website |
|
|
AxiTrader |
FCA, ASIC, FSP, DFSA | 400 : 1 | 0.0 pips | $1 | 0.01 lot all | View Profile Visit website |
|
|
CySEC | 500 : 1 | 2 pips - Mini 0.8 pips - Stand 0 pips - ECN |
$100 | 0.01 lot all | View Profile Visit Website |
|
|
CySec ,FCA,IFSC | 1000 : 1 |
0.0 pips - ECN 0.1 pips -Stan |
$1 | 0.01 lot | View Profile Visit Website |
|
|
FCA, ASIC, VFSC, CIMA | up to 800 |
Genneral 1.8 pip |
$50 |
0.01 lot | View Profile Visit website |
|
EIGHTCAP |
ASIC | 500 : 1 | 0.0 pips | $100 | 0.01 lot | |
|
|
SFP, NZBN | 200 : 1 | 0.5 pips - Live | $200 | 0.01 lot | View Profile Visit Website |
|
|
CySEC, FCA FSB, MiFID |
500 : 1 Max |
0.6 pips | $100 | 0.01 lot | View Profile Visit Website |
|
|
FCA, SCB | 400 : 1 | 0.0 pips | $10 | 0.01 lot | View Profila Visit Website |
|
|
CIMA, ASIC | 500 : 1 | 0.0 pips | $200 | 0.01 lot | View Profila Visit Website |
|
|
ASIC | 500 : 1 | 0.0 pips | $100 | 0.01 lot | View Profila Visit Website |
|
|
FCA, FSA | 2000 : 1 | 0.0 pips |
$15 |
0.01 lot | View Profila Visit Website |
ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก
"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"