1.  เรียนรู้พื้นฐานทุกอย่างให้เข้าใจด้วยตัวเอง

นักเทรดหน้าใหม่ มือใหม่ส่วนมากจะมองข้ามความเข้าใจพื้นฐานไป แล้วรีบกระโดดเข้าไปสู่สงครามอย่างเต็มรูปแบบทันที ซึ่งมันส่งผลร้ายแรงอย่างมากหากรีบกระโจนสู่ตลาดโดยที่ความรู้ยังไม่มากพอ เปรียบเหมือนการีบลงสนามแข่งกับนักกีฬามืออาชีพโดยที่ไม่เคยเล่นหรือฝึกซ้อมในกีฬาชนิดนั้นมาก่อนเลย

2.  ประสบการณ์เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความสำเร็จ ไม่มีใครรวยข้ามคืน
หากคุณเข้ามาเทรดเพราะอยากจะรวยเร็ว ก็เปรียบเหมือนนักเดินทางที่ไม่มีเข็มทิศ ไม่มีทั้งประสบการณ์และเครื่องบอกทิศทาง ทำให้หลงทางได้ไม่ยากเลย การเทรดเป็นเรื่องของประสบการณ์ ยิ่งคุณมีประสบการณ์มากเท่าไรคุณก็จะเทรดได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีคำถามมากมายเกี่ยวกับวิธีการทำกำไรที่กราฟวิ่งไปเท่ากันแต่ได้เงินไม่เท่ากัน ยกตัวอย่างเช่นกราฟวิ่งไป 100 จุดเหมือนกันคนหนึ่งได้เงิน 10 เหรียญ แต่บางคนได้เงิน 100 หรือ 1000 เหรียญ การได้เงินมากหรือน้อยมันเป็นเพราะประสบการณ์หากเราเทรดมา 5 ปี เป็นนักเทรดที่มีประสิทธิภาพ เราย่อมจะเห็นสิ่งที่มือใหม่มองไม่เห็นเพราะประสบการณ์เป็นตัวชี้นำเส้นทางของการเป็นเทรดเดอร์เรียกได้ว่าเป็นเส้นทางที่ยาวไกล ดังนั้นไม่มีใครรวยเร็วในตลาด Forex เช่นเดียวกับการทำงานอื่นๆ เราต้องเตรียมตัวไว้ 1-3ปี กว่าที่เราจะสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ก็ต้องขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและการพยามยามเก็บประสบการณ์เทรดของตนเอง เพราะ Forex ก็เป็นอาชีพหนึ่ง ไม่ใช่หนทางลัดไปสู่การรวยเร็ว

3.  ผู้เชี่ยวชาญอาจเป็นผู้หลอกลวง
การรับฟังความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่ปัญหาที่แท้จริงก็คือ ตลาดการค้าเงินเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนที่สุดในโลก มือใหม่ทุกคนที่เข้ามาเทรดได้สักระยะแล้วเริ่มได้กำไรต่อเนื่องมักจะชอบคิดว่าตัวเองนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีคนอื่นๆ อีกมากมายที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีอายุตั้งแต่ 30-60 ปีนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือหญิง ที่ชอบใส่สูทแต่งตัวดีบอกตัวเองว่าเป็นนักเทรดมืออาชีพและขอให้มือใหม่ช่วยซื้อหนังสือของพวกเขามากๆ

คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นเทรดเดอร์ที่ล้มเหลวมาก่อน โดยบุคคลอ้างตัวว่าเป็นมืออาชีพที่ไม่ใช่มืออาชีพจริงมักจะมีลักษณะนิสัยดังนี้

• ชอบให้ข้อมูลเก่าซ้ำไปมาแล้วข้อมูลเหล่านั้นใช้ไม่ได้จริงๆ
• พวกเขามักจะบอกว่าพวกเขาเป็นนักเทรดมืออาชีพที่รวยมากและพยายามขายหนังสือให้กับคุณ
• พวกเขาจะบอกถึงสิ่งที่เขาทำได้แบบดูเกินความจริง เช่น เขาสามารถทำเงิน 1 พันเหรียญให้กลายเป็น 1 ล้านเหรียญภายในเวลาสั้นๆ
• พยายามพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นนักเทรดที่ได้กำไรสูงโดยการโพสต์ภาพที่แต่งขึ้นโดยใช้โปรแกรมแต่งภาพอย่าง Photoshop
• ชอบใช้หลักคณิตศาสตร์เพื่อให้ตัวเองดูเหมือนเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จมากว่าที่เขาเป็นอยู่จริง ตัวอย่างเช่น พูดถึงแต่ออร์เดอร์ที่กำไรหลายครั้ง แต่ไม่เคยพูดถึง ออร์เดอร์ที่ขาดทุนเท่าใดนัก ซึ่งผู้ที่เป็ฯมืออาชีพจริงจะถ่ายทองได้เพียงวิธีการบริหารเงินที่ถูกต้องและกล้าพูดถึงสิ่งที่ไม่ถูกต้องในการเทรดที่นำไปสู่ความล้มเหลวเพียงเท่านั้น ดังนั้นการเดินตามคนอื่นหรือเชื่อว่าเขาหรือเธอที่ให้คำแนะนำคุณอยู่และเชื่อแบบสนิทใจ กลับเป็นเส้นทางสู่ความล้มเหลว เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของคุณก็คือการเป็นนักเทรดที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เป็นนักลอกแบบตามใครสักคนอย่างไม่ลืมหูลืมตา นักเทรดเดอร์ที่ดีจำเป็นต้องมีวิธีการขั้นตอนในการวิเคราะห์ตลาด และสามารถทำการวิเคราห์ด้วยตัวเองซึ่งจะทำให้คุณเขาใกล้ความเป็นมืออาชีพมากขึ้น

การวิเคราะห์กราฟและทุกอย่างด้วยตัวเองจะทำให้

3.1  ทำให้คุณเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเอง
3.2  ได้เรียนรู้ในการเทรด ถ้าคุณเอาแต่ทำตามคนที่บอกว่าขาเป็นมืออาชีพอย่างไม่ลืมหูลืมตา คุณก็ไม่ต่างอะไรกับการโดนจูงจมูกไปเรื่อย และคุณก็ไม่สามารถทำกำไรได้หากวันหนึ่งมืออาชีพเหล่านั้นไม่ได้ให้เคล็ดลับใดๆ อีก หรือเคล็ดลับของเขาใช้ไม่ได้อีกต่อไป

4.  อย่าเอาแต่ฝึกซ้อมเพื่อเป็นตำนาน Demo
การฝึกซ้อมเป็นสิ่งที่ดี แต่หากเอาแต่ฝึกมากไปจนไม่กล้าลงสนามจริงมันก็ไม่มีประโยชน์ เหมือนกับการที่คุณอยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพแต่เวลาซ้อมดันไปซ้อมแต่ในเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็เหมือนกับการเอาแต่เทรดเดโมแล้วคุณหวังว่าคุณจะกลายเป็นนักเทรดมืออาชีพได้ การเทรดบัญชีเดโม่นานเกิน 3 เดือนจึงไม่เหมาะสม ด้วยเหตุผมสองประการคือ
4.1  บัญชีเทรดเดโมทำให้มือใหม่มั่นใจแบบผิดๆ และทำให้พวกเขาติดนิสัยการเทรดที่ไม่ดี เพราะเขาจะเกิดความมั่นใจเกินไป ซึ่งในสถานการณ์จริงมันต่างกันกับเดโมมากนัก
4.2  บัญชีเดโมเรามักจะเทรดได้ดีกว่าบัญชีจริงเสมอ เพราะมีองค์ประกอบที่ดีกว่าหลายอย่าง เช่น ส่งออร์เดอร์ได้เร็วกว่า ไม่เครียดเพราะไม่ใช่เงินจริง และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย

บัญชีเดโมไว้สำหรับเรียนรู้พื้นฐานในการเทรดเท่านั้นและเมื่อคุณพร้อมคุณควรเทรดเงินจริงเท่านั้น ซึ่งทุกวันนี้เงินแค่ 5$ ก็สามารถเทรดได้แล้ว

5.  ยึดมันในวิธีการของตัวเอง
วิธีการเทรดไม่ว่าวิธีใดก็ตามย่อมมีขึ้นมีลง ไม่มีระบบเทรดวิธีการใดหรือการเทรดแบบไหนที่จะได้กำไร 100% ตลอดไป วิธีการเช่นนี้มีโอกาสกำไรเฉลี่ยเท่ากับ 80% บางช่วงของปีควรจะได้กำไร 60% หรือบางทีในช่วงอื่นๆ ของปีก็ได้กำไร 100% สักหนึ่งหรือสองเดือน ฉะนั้นควรรู้ว่าแต่ละปีจะต้องเจอช่วงที่แย่ และต้องเสียมากกว่าที่เคยเสีย แต่เราจะต้องไม่สูญสิ้นศรัทธาและยังเทรดมันต่อไปเพราะปัญหาของมือใหม่คือมักจะยอมแพ้หลังจากเพียงแค่สัปดาห์แรกเท่านั้น เพราะฉะนั้นอย่าทิ้งระบบของคุณเองเมื่อเวลาแย่ๆ ผ่านมาถึง

6.  พยายามทำให้การเทรดเป็นเรื่องธรรมดาที่สุด
การเทรดไม่จำเป็นต้องยุ่งยากหรือซับซ้อน ค่อนข้างธรรมดาและมีประสิทธิภาพ ใช้เวลา 2-5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการเทรดโดยส่วนใหญ่เทรดเดอร์มืออาชีพจะใช้ชีวิตตามปกติซึ่งวิธีการเทรดของเขาไม่ต้องซับซ้อนและไม่ยากต่อการทำความเข้าใจ ไม่ต้องเฝ้ากราฟมาก

7.  พยายามเทรดเพียงเงินเพียงคู่เดียวในตลาดเท่านั้น
วิธีหนึ่งที่ง่ายที่สุดคือการทำให้การเทรดของคุณเป็นธรรมชาติที่สุดก็คือการเทรดแค่คู่เงินเดียว ข้อนี้เป็นเรื่องธรรมดามากที่จะช่วยให้เราสำเร็จได้เพราะคู่เงินเดียวจะทำให้คุณมีสมาธิและพยายามเรียนรู้เกี่ยวกับค่าเงินคู่นั้นๆ ดังนั้นมันจะทำให้คุณเข้าใจว่ามันมีพฤติกรรมซ้ำซากและเคลื่อนไหวแบบใดเป็นปกติวิสัย การเทรดค่าเงินหลายคู่ คุณจะต้องเรียนรู้ลักษณะพิเศษของค่าเงินแต่ล่ะคู่ เช่น
7.1  มีปฏิกิริยากับข่าวที่แตกต่างตามค่าเงิน
7.2  อัตราการวิ่งของแต่ละคู่ที่บางคู่ช้า บางคู่เคลื่นไหวเร็ว
7.3  เวลาที่คู่เงินเคลื่อนไหวแตกต่างกันในช่วงวันหนึ่ง
7.4  ต้องจัดการออร์เดอร์ที่เปิดอยู่แตกต่างกันไป
การกระโดดเข้าไปเล่นหลายคู่เงินแบบนี้จะทำให้มีความกดดันสูงและทำให้เรียนรู้พฤติกรรมของกราฟได้ช้า ฉะนั้นควรเริ่มด้วยการเทรดคู่เดียว

8.  กราฟสะอาดเรียบง่ายแต่ทรงพลัง
มือใหม่ส่วนใหญ่จะใส่ Indicator เต็มไปหมดในกราฟของพวกเขาซึ่งตอนที่เข้าเทรด Indicator  จะช่วยคุณในการเทรดได้ส่วนหนึ่ง แต่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์พวกเขาจะพบว่า “ยิ่งน้อยก็ยิ่งดี” เพราะ Indicator ที่มากจะทำให้คุณสับสนมากขึ้น ยิ่งคุณมี Indicator มากเท่าไรก็จะทำให้
8.1  กราฟยุ่งเหยิง ยากต่อการวิเคราะห์ในการเข้าซื้อขาย
8.2  ทำให้คุณต้องคิดมากกว่าปกติและการตัดสินใจแย่ลง
8.3  เพิ่มความขัดแย้งของสัญญาณมากขึ้น ระหว่าง Indicator แต่ละตัว
การฝึกเหล่านี้เป็นวิธีฝึกทั้งความคิดและในแง่การปฏิบัติ หากคุณปรับวิธีคิดและการฝึกได้ คุณก็เข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ