การที่โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้สร้างความสั่นสะเทือนต่อเศรษฐกิจการเงินโลก เนื่องจากนโยบายทางเศรษฐกิจของทรัมป์ โดยเฉพาะการลดภาษีนิติบุคคลและกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเริ่มโยกย้ายสินทรัพย์และเงินทุนกลับไปยังสหรัฐฯ

เป็นผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ในขณะที่ค่าเงินสกุลอื่นๆ อ่อนค่าลง รวมถึงเงินบาท ซึ่งอ่อนค่าอย่างต่อเนื่องโดยอ่อนลงถึง 3.9% ในช่วงสัปดาห์หลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง จนมาอยู่ที่ระดับ 35.09 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนที่สุดในรอบ 3 เดือน

นายอมรเทพ จาวะลา จากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย (CIMBT) ให้ความเห็นว่า เงินบาทอาจอ่อนค่าแตะระดับ 36 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนธันวาคม โดยมีสาเหตุหลักจากการโยกย้ายเงินทุนกลับสู่ตลาดสหรัฐฯ ซึ่งได้รับประโยชน์จากนโยบายลดภาษีนิติบุคคล อย่างไรก็ตาม เขามองว่าการอ่อนค่าของเงินบาทนี้จะเป็นเพียงช่วงสั้น ๆ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีความชัดเจนเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ย และเมื่อนโยบายของทรัมป์เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น นักลงทุนอาจลดความกังวล ทำให้เงินบาทมีโอกาสกลับมาแข็งค่าขึ้นอีก

นายสงวน จุงสกุล ผู้บริหารฝ่ายตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่าหลังจากทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ค่าเงินบาทได้อ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องและมีความผันผวนเพิ่มขึ้นตามสกุลเงินทั่วโลก เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์ที่กลับมาแข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ตาม เขาได้ชี้ให้เห็นว่าในอดีตช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง ค่าเงินบาทผันผวนเพียงระยะสั้นๆ ประมาณ 2 เดือน ดังนั้นการผันผวนนี้น่าจะคงอยู่ถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายนก่อนจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น คาดว่าเงินบาทในระยะสั้นจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34-35.25 บาทต่อดอลลาร์

นางสาวกาญจนา โชคไพศาลศิลป์ จากศูนย์วิจัยกสิกรไทย กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ค่าเงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากผลกระทบของนโยบายทรัมป์และการส่งสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ว่าอาจไม่ลดดอกเบี้ยแรงอย่างที่เคยคาดการณ์ นักลงทุนจึงเริ่มซื้อคืนดอลลาร์ ทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง ล่าสุด ณ วันที่ 14 พ.ย. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.04 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าที่สุดในรอบ 3 เดือน โดยเงินบาทที่อ่อนค่าลงนี้มีความเชื่อมโยงกับค่าเงินหยวน ซึ่งก็อ่อนค่าลงเช่นกันจากความกังวลเกี่ยวกับการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคอ่อนค่ามากขึ้น

สำหรับการคาดการณ์ในระยะสั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่าต่อไป โดยมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบ 35.35 บาทต่อดอลลาร์ หากทะลุระดับนี้ไปได้ อาจเห็นเงินบาทอ่อนค่าลงอีกถึง 35.50 บาท ส่วนแนวรับของเงินบาทคาดอยู่ที่ 34.00-34.50 บาทต่อดอลลาร์ในช่วงสิ้นปี

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยกำลังเผชิญปัญหาจากหลายด้าน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการลงทุนในประเทศ ปัจจัยสำคัญที่กระทบได้แก่ หนี้ครัวเรือนและหนี้ SMEs ที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ประชาชนและธุรกิจขาดกำลังในการลงทุน นอกจากนี้ ความไม่ชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจและปัญหาเชิงโครงสร้างยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ทำให้เกิดข้อจำกัดต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

นายพิชัยกล่าวถึงอัตราดอกเบี้ยที่สูง ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการส่งออก โดยแม้ว่าการส่งออกจะมีปริมาณเพิ่มขึ้น แต่หลายธุรกิจยังประสบปัญหาขาดทุนจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เขามองว่าอัตราแลกเปลี่ยนที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างมากต่อความสามารถในการแข่งขัน

ทั้งนี้ นายพิชัยยืนยันว่ารัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้หารือกันเพื่อเข้าใจปัญหาดังกล่าว และเตรียมพร้อมที่จะผลักดันการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) มองว่าค่าเงินบาทที่อ่อนตัวลงถึงระดับ 35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐส่งผลดีต่อภาคการส่งออกไทย เนื่องจากผู้ประกอบการจะได้รับรายได้เพิ่มขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เอื้ออำนวย นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าอาจเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการกล้าเสนอสินค้าในช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากการเจรจาส่วนใหญ่เพื่อการส่งมอบในเดือนธันวาคม 2567 ได้เสร็จสิ้นลงแล้ว

อย่างไรก็ตาม นายชัยชาญเตือนว่าค่าเงินบาทมีความผันผวนอย่างรวดเร็วและรุนแรงในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่าในระยะนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการส่งออก แต่เขาแนะนำให้ผู้ประกอบการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนด้วยการทำประกันอัตราแลกเปลี่ยนกับธนาคาร ทั้งนี้ สรท.มองว่าค่าเงินบาทที่เหมาะสมสำหรับการส่งออกควรอยู่ในช่วง 34-35 บาทต่อดอลลาร์

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) คาดการณ์ว่าการส่งออกของไทยในปีนี้น่าจะขยายตัวอยู่ในช่วง 2-2.5% โดยมองว่าการอ่อนค่าของเงินบาทที่ระดับ 33-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐช่วยให้ผู้ส่งออกได้รับประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกยังควรระวังการผันผวนของค่าเงินและใช้การป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเพื่อคงกำไรในระยะยาว

ในขณะเดียวกัน นายนาวา จันทนสุรคน รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แสดงความกังวลว่าความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนอาจกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย นอกจากนี้ ปัญหาภายใน เช่น กำลังซื้ออ่อนแอ หนี้ครัวเรือนสูง และปัญหาน้ำท่วมส่งผลต่อราคาวัตถุดิบสินค้าเกษตร และสินค้าอุปโภคบริโภคต่างๆ

จากรายงานของ Bloomberg พบว่าค่าเงินบาทไทยมีแนวโน้มเสี่ยงต่อความผันผวนมากที่สุดในเอเชีย หากโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้ง โดยค่าเงินบาทที่อ่อนไหวต่อค่าเงินหยวนของจีนและมูลค่าสูงเกินจริงส่งผลให้เงินบาทเปราะบางเมื่อต้องเผชิญนโยบายการค้าของทรัมป์ ทั้งนี้ เงินบาทและดอลลาร์ไต้หวันถูกประเมินว่าเสี่ยงสูงสุดในเอเชียต่อการขึ้นภาษีสหรัฐ ขณะที่ฟิลิปปินส์และอินเดียมีความยืดหยุ่นสูงกว่า

คลิก

Cr.กรุงเทพธุรกิจ

----------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo