ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน เนื่องจากนักลงทุนกังวลหลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่าเฟดยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบร้อนปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ซึ่งส่งผลให้ความคาดหวังของนักลงทุนในการปรับลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมในปีนี้ลดลง
สรุปการปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก:
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 43,750.86 จุด ลดลง 207.33 จุด หรือ -0.47%
- ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,949.17 จุด ลดลง 36.21 จุด หรือ -0.60%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,107.65 จุด ลดลง 123.07 จุด หรือ -0.64%
จากการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในงานเสวนาที่จัดขึ้นที่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัสเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พาวเวลระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตลาดแรงงานมีความแข็งแกร่ง และอัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด สถานการณ์นี้ทำให้เฟดสามารถดำเนินนโยบายการเงินอย่างรอบคอบและไม่จำเป็นต้องรีบร้อนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในขณะนี้
พาวเวลยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาและกรรมการเฟดคนอื่นๆ ยังคงคาดหวังว่าเงินเฟ้อจะสามารถเคลื่อนไปสู่ระดับเป้าหมาย 2% อย่างยั่งยืน ซึ่งจะช่วยให้เฟดมีโอกาสปรับอัตราดอกเบี้ยไปสู่ระดับที่เป็นกลางได้ อย่างไรก็ตาม เฟดจะไม่กำหนดขนาดการปรับอัตราดอกเบี้ยล่วงหน้า เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้อย่างเหมาะสม โดยพาวเวลย้ำว่า ภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันไม่ได้ส่งสัญญาณใดๆ ที่จะทำให้เฟดต้องรีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย
หลังจากคำแถลงดังกล่าว เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 62% ต่อการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธันวาคม ลดลงจากระดับ 76% ก่อนที่พาวเวลจะกล่าวสุนทรพจน์ และลดลงอย่างมากจากระดับ 82.5% ในวันพุธ
การกล่าวสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล มีขึ้นหลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ยังคงสูงกว่าคาดการณ์ โดยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนตุลาคม ปรับตัวขึ้น 2.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.3% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ที่ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน เพิ่มขึ้น 3.1% ต่อปีในเดือนตุลาคม สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 3.0% ขณะที่จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ที่แล้ว ลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 217,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน และต่ำกว่าคาดการณ์ที่ 225,000 ราย บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง
ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวในทิศทางบวกจากการตอบรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ แต่ในสัปดาห์นี้เริ่มชะลอตัวลงเนื่องจากนักลงทุนเริ่มกังวลถึงผลกระทบของนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของทรัมป์ ซึ่งอาจเพิ่มแรงกดดันต่อเงินเฟ้อและอาจส่งผลให้เฟดชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ในดัชนี S&P 500 พบว่ามีหุ้น 9 ใน 11 กลุ่มปิดในแดนลบ นำโดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ร่วงลง 1.69% และกลุ่มสาธารณูปโภคที่ลดลง 1.54% ขณะที่กลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.14%
หุ้นของวอลท์ ดิสนีย์ (Walt Disney) ปรับตัวขึ้นถึง 6% และเป็นปัจจัยหนุนดัชนีดาวโจนส์ หลังจากรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ซึ่งมีรายได้และกำไรสูงเกินคาด โดยได้รับแรงหนุนจากธุรกิจสตรีมมิ่งที่เติบโตแข็งแกร่ง
ในขณะเดียวกัน หุ้นในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้า (EV) อย่างเทสลา (Tesla) และริเวียน ออโตโมทีฟ (Rivian Automotive) ดิ่งลง 5.8% และ 14.3% ตามลำดับ เนื่องจากรายงานข่าวจากรอยเตอร์ว่า รัฐบาลของทรัมป์มีแผนจะยกเลิกการให้เครดิตภาษีมูลค่า 7,500 ดอลลาร์สำหรับผู้ซื้อรถ EV ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการปฏิรูปภาษี
Cr.สำนักข่าวอินโฟเควสท์
----------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo