เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ในตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อย โดยลดลงเพียง 0.59 จุด หรือ -0.001% ปิดที่ 43,729.34 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 44.06 จุด (+0.74%) ปิดที่ 5,973.10 จุดและ Nasdaq เพิ่มขึ้น 285.99 จุด (+1.51%) ปิดที่ 19,269.46 จุด

ยอดซื้อขายที่เกิดขึ้นกับ iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock หลังจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ สะท้อนถึงความต้องการที่สูงและความสนใจที่เพิ่มขึ้นต่อ Spot Bitcoin ETF ในตลาด นักลงทุนคาดการณ์ว่าชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนสกุลเงินดิจิทัล จะสร้างบรรยากาศที่เป็นบวก

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดี (7 พ.ย.) โดยราคาทองคำดีดตัวขึ้นหลังจากที่ลดลงอย่างมากในวันก่อนหน้า โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 29.50 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 2,705.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ทะยานขึ้นกว่า 900 จุดในวันนี้ หลังจากผลนับคะแนนเบื้องต้นของการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชี้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกันมีคะแนนนำคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต โดยมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้งอยู่ที่ 267 ต่อ 224 คะแนน ซึ่งหากผู้สมัครคนใด

การประกาศของวุฒิสมาชิก Cynthia Lummis ในการจัดตั้งคลัง Bitcoin สำรองแห่งชาติถือเป็นการเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง ซึ่งอาจเปลี่ยนแนวทางของกลยุทธ์การเงินของสหรัฐฯ หากประสบความสำเร็จ แนวคิดนี้ยังถือว่าเป็นความท้าทายและมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะเนื่องจาก Bitcoin

บิตคอยน์ทำสถิติใหม่สูงสุดแตะ 75,000 ดอลลาร์ (ราว 2.5 ล้านบาท) ท่ามกลางสถานการณ์การเลือกตั้งสหรัฐที่กำลังเข้มข้น โดยนักลงทุนคาดหวังว่าอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อาจชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันราคาบิตคอยน์ให้พุ่งขึ้นสูง จากข้อมูลของ Coin Metrics

ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 6 พฤศจิกายน หลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่เรียกว่า “ทรัมป์เทรด” โดยดัชนีทั้ง Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งล่าสุด โดยมีคะแนนนำคามาลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตอย่างชัดเจนตามผลนับคะแนนเบื้องต้นที่เผยแพร่ในช่วงเช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งหากผู้สมัครคนใดถึง 270 คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งก่อน ก็จะเป็นผู้ชนะ

ตลาดหุ้นไทยปิดภาคเช้าที่ 1,473.65 จุด เพิ่มขึ้น 6.23 จุด (+0.42%) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 31,979.58 ล้านบาท โดยดัชนีรีบาวด์หลังจากเมื่อวานร่วงแรง จากข่าวที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น

ราคาทองคำในตลาดฟิวเจอร์ร่วงลงอย่างหนักในวันนี้เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากผลนับคะแนนเบื้องต้นในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ บ่งชี้ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกันกำลังมีคะแนนนำ คามาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต ทำให้นักลงทุนเริ่มคาดการณ์ว่าชัยชนะของทรัมป์