หลังจาก Bitcoin เผชิญแรงขายหนักที่สุดนับตั้งแต่ตลาดหมีรอบก่อน นักลงทุนจำนวนมากตั้งคำถามว่า กระแสการปรับฐานนี้คือสัญญาณเริ่มต้นรอบลงครั้งใหญ่ หรือเป็นเพียงการพักฐานก่อนกลับขึ้นต่อ?  ฝั่ง K33 Research โดยนักวิเคราะห์ Vetle Lunde ประเมินว่า ความเป็นไปได้ที่ Bitcoin จะรีบาวด์ในเดือนธันวาคม

“สูงกว่าอย่างมีนัยสำคัญ” เมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่จะเกิดการร่วงลึกแบบเดิม (Drawdown 80%) พร้อมชี้ว่าปัจจุบันตลาดกำลัง “วิตกเกินความจำเป็น” มากกว่าจะสะท้อนปัจจัยพื้นฐานจริง

ทำไม Bitcoin ถึงร่วงแรงรอบล่าสุด?

K33 ระบุว่า การปรับฐานรอบนี้เกิดจาก แรงขายเชิงโครงสร้างหลายด้านมาชนกัน ไม่ได้มาจากปัจจัยลบเพียงเหตุการณ์เดียว ได้แก่:

• Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ กลับมาขายสุทธิในเดือนพฤศจิกายน
  จากเดิมที่ ETF เป็นแรงซื้อหลัก กลับพลิกเป็นฝั่ง Take Profit กดดันแรงพยุงราคา

• ปริมาณเทรด Futures บน CME ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายปี
  สะท้อนสถาบันการเงินฝั่งดั้งเดิม (TradFi) เลือก “รอดูสถานการณ์” มากกว่าจะเพิ่มความเสี่ยง

• Bitcoin อ่อนแรงกว่า Nasdaq ชัดเจน
  การ Underperform ทำให้นักลงทุนบางส่วนโยกเงินไปสินทรัพย์ที่ผลตอบแทนดีกว่าในช่วงสั้น

แม้ภาพรวมจะดูอ่อนไหว แต่มุมมองของ K33 คือ “ตลาดกำลังกังวลล่วงหน้า” มากกว่าที่จะเกิดปัญหาเชิงพื้นฐานของ Bitcoin เอง

เข้าใกล้โซนรับประวัติศาสตร์ มากกว่าจุดเริ่มดิ่งลึก

หนึ่งในเหตุผลที่ K33 ยังประเมินบวก คือ ราคาปัจจุบันเข้าใกล้ แนวรับทางเทคนิค–ประวัติศาสตร์ในโซน 70,000–80,000 ดอลลาร์ ซึ่งเคยเป็นจุดกลับตัวหลายครั้งในอดีต

อีกทั้งข้อมูลจากตลาดอนุพันธ์ระบุว่า

• Funding Rate ต่ำ → ไม่มีการไล่เลเวอเรจฝั่ง Long แบบฟองสบู่

• Open Interest ลดลง → ระบบไม่อยู่ในโหมดล้นเลเวอเรจ

• ยังไม่เห็นการ Liquidation ขนาดใหญ่ → ต่างจากช่วงก่อนร่วงหนักในอดีต

ทั้งหมดนี้ชี้ว่า การปรับฐานครั้งนี้ไม่ใช่สถานการณ์ “โอเวอร์ฮีตเหมือนก่อนพัง” แต่เป็นตลาดที่กำลังระแวงและระมัดระวังมากกว่า

ความเสี่ยงระยะยาวกดราคา มากกว่าความจริงระยะสั้น

K33 ระบุว่า นักลงทุนกำลังกังวลปัจจัยระยะยาวเกินไป เช่น

• ความเสี่ยงจาก Quantum Computing

• ความกังวลว่า Strategy (MSTR) อาจต้องขาย Bitcoin

• ความไม่มั่นใจในเสถียรภาพของ Tether (USDT)

ทั้งที่ปัจจัยเหล่านี้อาจใช้เวลาหลายปีกว่าจะกลายเป็นความเสี่ยงจริง แต่ตลาดกลับดึงมาเป็นเหตุผลกดดันราคาปัจจุบันมากเกินไป

ในอีกด้านหนึ่ง ปัจจัยบวกระยะสั้น–กลางกำลังชัดขึ้น เช่น

• โอกาสที่ กองทุนเกษียณ 401(k) อาจเปิดรับการลงทุนในคริปโต

• ท่าทีด้านนโยบายการเงินสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้ม “ผ่อนคลายและเป็นมิตรกับสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น”

ธันวาคมอาจเป็น “หน้าต่างโอกาส” ของนักลงทุนสาย Contrarian

K33 Research สรุปภาพรวมว่า:

• ตลาดกำลัง กลัวมากเกินไป เมื่อเทียบกับปัจจัยพื้นฐานจริง

• ราคากำลังเคลื่อนเข้าใกล้ แนวรับประวัติศาสตร์ 70,000–80,000 ดอลลาร์

• โครงสร้างตลาดปัจจุบัน ไม่โอเวอร์เลเวอเรจ

• ปัจจัยเชิงโครงสร้าง เช่น การเปิดรับคริปโตในระบบการเงินดั้งเดิม กำลังสนับสนุนทิศทางขาขึ้นในอนาคต

ด้วยเหตุนี้ K33 มองว่า เดือนธันวาคมอาจกลายเป็นจุดตั้งต้นของการฟื้นตัว สำหรับผู้ที่ “กล้าเสี่ยงในวันที่ตลาดกำลังกลัว”

อย่างไรก็ตาม K33 ย้ำว่า แม้สัญญาณบวกมีน้ำหนักมากกว่า แต่ไม่ใช่การรับประกันว่า Bitcoin จะเด้งทันทีหรือปลอดจากความเสี่ยงรอบใหม่ เพียงแต่ “โอกาสอัพไซด์ดูสมเหตุสมผลกว่าโอกาสล้มลึก 80% ซ้ำอีกครั้ง”