มรสุมเศรษกิตจปี 67 GDP โลกหดตัว "หนี้ครัวเรือน -หนี้ธุรกิจ"ฉุดไทย

กกร.ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 67 ขยายตัว 2.8-3.3% เหตุเศรษฐกิจโลกชะลอตัว กังวลหนี้ครัวเรือนสูง หนี้ภาคธุรกิจ ฉุดจีดีพี ต่ำกว่า 3% ชี้ปรับค่าไฟขึ้น 4.68 บาทต่อหน่วย ดันต้นทุนธุรกิจขึ้น 17% ราคาสินค้าขึ้น 5-10% ขอตรึงค่าไฟ 3.99 บาทต่อหน่วย พร้อมรีบตั้ง กรอ.พลังงาน

เศรษฐกิจไทยปี 2566 เติบโตน้อยกว่าที่คาด โดยในช่วง 9 เดือน แรกเติบโตเพียง 1.9% จากที่ประเมินทั้งปีจะเติบโต 2.4% เป็นผลจากการส่งออกที่ชะลอตัวตามทิศทางประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะจีนที่การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่อง รวมทั้งรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าที่คาด ซึ่งมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 28 ล้านคน แทนที่จะเป็นราว 30 ล้านคน และสถานการณ์ดังกล่าวทำให้หลายฝ่ายมีความกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2567
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า กกร.ได้ประเมินเศรษฐกิจโลกปี 2567 มีแนวโน้มชะลอตัว โดยเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปชะลอตัวจากภาวะการเงินที่ยังตึงตัวต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มเติบโตไม่ถึง 5% เนื่องจากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ดีเศรษฐกิจเอเชียไม่รวมจีน ได้แก่ อาเซียน (5 ประเทศ) เกาหลีใต้ และไต้หวัน มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีขึ้นเฉลี่ยที่อัตรา 3.7%
นอกจากนี้ ตะวันออกกลางและอินเดีย มีแนวโน้มเติบโตได้ในระดับสูงที่ 3.4% และ 6.3% ตามลำดับ สามารถเป็นปัจจัยสนับสนุนการส่งออกของไทยในระยะข้างหน้า โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คอมพิวเตอร์และอาหาร
ทั้งนี้ กกร.คาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2567 จะขยายตัว 2.8-3.3% การส่งออกขยายตัว 2-3% และเงินเฟ้อ 1.7-2.2% แต่เศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจไทยจะโตได้น้อยกว่า 3% ซึ่งเป็นระดับศักยภาพเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน เพราะความเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และความเปราะบางในประเทศ เช่น ปัญหาหนี้ครัวเรือน และหนี้ของภาคธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs
รวมถึงผลกระทบต่อการเข้าถึงสินเชื่อในระบบจากการเริ่มใช้มาตรการการปล่อยสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เน้นวินัยการไม่สร้างหนี้เกินกำลัง รวมถึงการกลับมาจัดชั้นคุณภาพหนี้ตามปกติหลังยุค โควิด-19
ศักยภาพการเติบโตลดลง
นอกจากนี้ มีความท้าทายจากศักยภาพการเติบโตของประเทศที่ลดลง การปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลกเพื่อรักษาความสามารถการแข่งขัน ทั้งด้านเทคโนโลยี เพิ่มผลิตภาพแรงงานเพื่อเผชิญกับการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย และการก้าวสู่ Low carbon society
สำหรับปัจจัยบวกในปี 2567 อยู่ที่การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 33 ล้านคน หรือ เพิ่มขึ้นอีก 5 ล้านคนจากปี 2566
ในขณะที่หากนโยบายเติมเงินใน Digital wallet ดำเนินการได้เต็มวงเงิน 500,000 ล้านบาท ประเมินว่าจะช่วยเพิ่มการเติบโตของจีดีพีได้อีกอย่างน้อย 1.0-1.5%
ทั้งนี้ ปี 2567 มีหลายปัจจัยแปรผันที่กระทบต่อเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันเน้นไปที่การเร่งเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) ดึงดูดการลงทุนในยุค Decoupling การดูแลต้นทุนราคาพลังงานควบคู่ไปกับการสร้างเสถียรภาพให้เกิดความสมดุล และการเตรียมความพร้อมด้านกำลังคน รวมถึงดึงดูดแรงงานต่างด้าวที่มีทักษะสูง
3ปัจจัยเซอร์ไพร์ซฉุดเศรษฐกิจปี66
รายงานข่าวจาก กกร.ระบุว่า ในที่ประชุมได้รายงานเศรษฐกิจปี 2566 ที่เติบโตน้อยกว่าคาด โดยเศรษฐกิจไทย 9 เดือนแรกเติบโตเพียง 1.9% ซึ่งประเมินว่าทั้งปีจะเติบโตได้ 2.4% น้อยกว่าประมาณการเดิมที่ 2.5-3.0% และผลจากการส่งออกที่ยังชะลอตัวตามทิศทางประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะจีนที่การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่องและการชะลอการผลิตเพื่อเติมสินค้าคงคลัง
รวมทั้งรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติต่ำกว่าที่คาด โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 28 ล้านคน แทนที่จะเป็นราว 30 ล้านคน
นอกจากนี้ กกร.ได้สรุป 3 ปัจจัยเซอร์ไพรซ์ที่ทำให้เศรษฐกิจปี 2566 ของไทยโตต่ำกว่าคาด ได้แก่
1.สงครามอิสราเอล-ฮามาส เป็นปัจจัยที่ทำให้ความเสี่ยงด้านราคาพลังงานยังมีอยู่ โดยกรณีแย่ที่สุดหรือกรณี Direct War อาจทำให้ราคาน้ำมันขึ้นไปที่บาร์เรลละ 140-150 ดอลลาร์ และกระทบเศรษฐกิจโลก -1% รวมทั้งกระทบนักท่องเที่ยวมาไทยปีละ 0.1-2.0 ล้านคนต่อปี และกระทบการส่งออก 1-4%
2.เศรษฐกิจจีนไม่ฟื้น โดยดัชนี PMI ของจีนยังไม่ฟื้น นอกจากกระทบส่งออกไทยยังทำให้นำเข้าสินค้าจีนมากขึ้น และนักท่องเที่ยวจีนต่ำกว่าเป้าหมายในปี 2566-2567 ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ กระทบรายได้ปีละ 1-2 แสนล้านบาท และไทยไม่ติด Top5 สำหรับนักท่องเที่ยวจีน
3.ผู้ผลิตไทยไม่ผลิตเติมสินค้าคงคลัง โดยเศรษฐกิจไตรมาส 3 ขยายตัว 1.5% แม้ว่าการบริโภคของครัวเรือนขยายตัวถึง 8.1% เป็นเหตุจากการที่ผู้ผลิตไม่ผลิตเติมสินค้าคงคลัง สะท้อนการขาดความเชื่อมั่นต่อทั้งอุปสงค์ในประเทศและส่งออกระยะข้างหน้า รวมถึงต้นทุนการเงินที่สูงขึ้น
หนี้นอกระบบฉุดศักยภาพเศรษฐกิจ
นายสนั่น กล่าวว่า ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดว่าเติบโตได้น้อยกว่าที่คาด โดย 9 เดือนแรกเติบโตได้เพียง 1.9% ซึ่งการส่งออกชะลอตัวตามทิศทางประเทศเศรษฐกิจหลัก โดยเฉพาะจีนที่การผลิตสินค้าอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่อง และชะลอการผลิตเพื่อเติมสินค้าคงคลัง โดย กกร.คงประมาณการเศรษฐกิจปี 2566 เติบโตที่ 2.5-3% ขณะที่ส่งออกปีนี้ คาดว่าติดลบ 1-2% ส่วนเงินเฟ้อคาดว่าอยู่ที่ 1.3-1.7% จากเดิมคาด 1.7-2.2%
ขณะเดียวกันไทยต้องเร่งแก้ปัญหาความเปราะบางในประเทศ โดยเฉพาะหนี้ครัวเรือนที่พบว่าหนี้เสีย (NPL) ในระบบธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 2.68% ณ ไตรมาส 1 ปี 2566 เป็น 2.79% ณ ไตรมาส 3 ปี 2566 รวมทั้งหนี้นอกระบบเป็นปัญหาต่อเนื่องมาจากการมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างไม่เป็นทางการ (Informal economy) ขนาดใหญ่
จากข้อมูลการลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ณ วันที่ 5 ธ.ค.2566 มีประชาชนมาลงทะเบียน 62,030 ราย รวมมูลหนี้ 2,793 ล้านบาท เป็นการเริ่มต้นที่ดีเพราะจะได้เห็นข้อมูลพื้นฐานของหนี้นอกระบบ สร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการบังคับใช้กฎหมายและให้การดูแลประชาชนกลุ่มเปราะบาง
ร่วมมือรัฐแก้หนี้นอกระบบ
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สำหรับการแก้หนี้นอกระบบทางสมาคมธนาคารไทยได้มีการหารือร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท. ) มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาลได้สนับสนุนการแก้ปัญหาและมีการบังคับใช้กฎหมาย
“การดำเนินการถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี เนื่องจากจะได้เห็นข้อมูลพื้นฐานของหนี้นอกระบบ ซึ่งกลไกถัดไปในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบต้องผลักดันให้ลูกหนี้เข้าถึงสินเชื่อในระบบมากขึ้น รวมถึงการปรับโครงสร้างของระบบเศรษฐกิจเพื่อเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้ด้วยการสร้างรายได้อย่างยั่งยืน”นายผยง กล่าว
ส.อ.ท.ห่วงต้นทุนค่าไฟพุ่ง
นายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ภาคเอกชนมีความเป็นห่วงในเรื่องของต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะจากการที่รัฐบาลจะปรับขึ้นค่าไฟเป็น 4.68 บาทต่อหน่วย จากเดิม 3.99 บาทต่อหน่วย หรือ ปรับขึ้นมา 17% ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรม โดย 10 อุตสาหกรรมจาก 46 อุตสาหกรรมทั้งหมดมีสัดส่วนการใช้พลังงานเป็นหลัก คิดเป็นต้นทุน 30-50% ของต้นทุน และ หากรัฐบาลยังคงยืนยันค่าไฟที่ 4.68 บาทต่อหน่วย จะส่งผลให้ราคาสินค้าปรับเพิ่มขึ้น 5-10%
นอกจากนี้ยังบั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขันของไทย เมื่อต้นทุนสูง ราคาสินค้าก็ต้องปรับขึ้น เมื่อส่งออกไปเราก็ไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ แม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มีแนวโน้มจะเสนอให้ปรับขึ้นค่าไฟมาที่ 4.20 บาท แต่ก็ยังสูงขึ้นจากเดิม ซึ่งเป็นการปรับขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจยังไม่ได้ฟื้นตัวดี โดยเห็นว่าค่าไฟที่เหมาะสมน่าจะอยู่ในช่วง 2.70-3.30 บาท
“ต้องการให้รัฐบาลยืนพื้นราคาเดิม 3.99 บาต่อต่อหน่วย ออกไปอีก 4 เดือน จากเดิมที่จะบังคับใช้ ม.ค.-เม.ย.2567 สิ่งที่รัฐบาลเสนอออกมา เช่น ยืดหนี้ออกไป หางบประมาณเพื่อช่วยกลุ่มเปราะบาง ไม่ได้เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ แต่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่า" นายเกรียงไกร กล่าว
รวมทั้งต้องการให้รัฐบาลรีบจัดตั้งกรอ.พาณิชย์เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นตอ ปรับโครงสร้างพลังงานทั้งระบบ เพื่อให้เป็นจุดแข็งของประเทศ ในการดึงดูดการลงทุนและแข่งขันกับประเทศอื่นได้เพราะหลายอุตสาหกรรมมองค่าไฟฟ้าเป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจเข้ามาลงทุน
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

คลิก

Cr.Bank’s Scholarship Students

-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"