เศรษฐกิจไทย หลังเลือกตั้ง 2566 จะรุ่งหรือจะร่วง..ควรลงทุนอย่างไร ?

หลังเลือกตั้งทำไมหุ้นไทยถึงติดลบ? แทนที่จะปรับตัวบวกขึ้น และความกังวลในการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังไม่เข้ามาอยู่เรื่อย ๆ จะเป็นอย่างไรต่อ พูดคุยกับ "ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย" หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร

วันที่ 22 พฤษภาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ย้อนกลับไปในอดีตก่อนและหลังเลือกตั้งตลาดหุ้นไทยมักปรับตัวขึ้นได้ดี แต่สำหรับการเลือกตั้งในปี 2566 นี้ตลาดหุ้นไทยกลับมีการปรับลดลงและยังคงเห็นแรงเทขายจากนักลงทุนต่างชาติออกมาอย่างต่อเนื่อง สาเหตุหลักคงหนีไม่พ้นเรื่องของความกังวลในการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่คนไทยเท่านั้นที่ให้ความสนใจ แต่ต่างประเทศเองก็จับตามองไม่น้อย
"ประชาชาติเวลท์ เล่าเรื่องการลงทุน" EP.นี้ มีโอกาสได้สัมภาษณ์พิเศษ ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ที่จะช่วยมาสะท้อนมุมมองต่าง ๆ ในช่วงวิกฤตการเมืองไทย พร้อมแนวทางที่จะช่วยให้ทุกคนฝ่าวิกฤตในครั้งนี้ไปได้
# ตลาดหุ้นไทยหลังเลือกตั้ง ปี 2566 ทำไมติดลบต่อเนื่อง ?
ดร.พิพัฒน์ กล่าวว่า เป็นความเซอร์ไพร์ส เพราะต้องยอมรับว่า ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง ทุกฝ่ายก็อาจจะมองไว้อยู่แล้วว่าจะมีการเปลี่ยนขั้ว แต่ว่าไม่อาจจะคิดว่าพรรคก้าวไกลจะกลายมาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ส่วนใหญ่คาดการณ์กันว่าพรรคเพื่อไทยจะมาเป็นอันดับหนึ่ง พอพรรคก้าวไกลขึ้นมา นโยบายหลาย ๆ อย่าง ต้องยอมรับว่า สร้างความไม่แน่นอน ในแง่ของนโยบาย อย่างหุ้นที่โดนจะเป็นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเมือง เรื่องของไฟฟ้า เรื่องของพลังงาน เรื่องของแก๊ส
นโยบายที่ปรับเปลี่ยนจะมีทั้งผู้ได้ประโยชน์ และผู้เสียประโยชน์ ผมก็เลยมองว่าอันนี้เป็นการปรับ ความคาดหวัง ที่ก่อนหน้าการเลือกตั้งไม่คาดอย่างนี้
"ผมว่าความไม่แน่นอน ทำให้คนไม่สามารถกลับเข้าสู่ภาวะปกติในแง่ของการคาดการณ์ได้ ก็เลยทำให้เกิดความผันผวน" ดร.พิพัฒน์กล่าว
# เศรษฐกิจไทยหลังเลือกตั้งจะเดินไปทางไหน ?
สมมติถ้าเราดูภาพรวม ๆ ผลการเลือกตั้งเป็น strong mandate (การได้รับฉันทามติ) ทำให้อาจจะเห็นทิศทางของนโยบายที่ชัดขึ้น แต่ว่าในขณะเดียวกัน ก็ยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะต้องดูนโยบาย ว่าสองพรรคใหญ่ ถ้าเอามาชนกันแล้ว จะมีนโยบายอย่างไรบ้าง แล้วผมคิดว่าความหวังที่สำคัญ ก็คือ เศรษฐกิจไทยจะอยู่ในภาพใหญ่
ประเด็นที่ 1 เรากำลังฟื้นตัวจากโควิด-19 อย่างนั้นในระยะสั้นคงจะมีแรงส่งขึ้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการท่องเที่ยว แต่ว่าพอการท่องเที่ยวมาครบแล้ว ความท้าทายถัดไป คือ เราเห็นแนวโน้มที่โตช้าลงมาเรื่อย ๆ ตามเรื่องของโครงสร้างเศรษฐกิจ โครงสร้างประชากรอะไรต่าง ๆ ฉะนั้นความหวังต่อรัฐบาลใหม่ ก็คือนโยบายที่จะเข้ามา จะใส่ประเด็นเชิงโครงสร้างนี้อย่างไรบ้าง อันนี้ก็เป็นจุดที่หลาย ๆ คนคงเฝ้ารอดู
# นโยบายรัฐบาลชุดใหม่ จะส่งผลต่อภาคการคลังอย่างไร ?
ดร.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ถ้าก้าวไกลเป็น ก้าวไกลก็พูดชัดเจน ว่าจะเพิ่มค่าใช้จ่ายเรื่องของรัฐสวัสดิการ มีการพูดถึงฝั่งการใช้จ่าย ไม่ว่าเป็นสวัสดิการเด็ก สวัสดิการคนพิการ สวัสดิการคนแก่ ซึ่งทั้งหมดใช้เงินกว่า 6 แสนล้านบาท แต่ว่าก้าวไกลพูดถึงด้วยว่าจะเอาเงินจากที่ไหนมาจ่าย
ซึ่งประเด็นตรงนี้ ผมว่า จริง ๆ ตอนเลือกตั้ง เราไม่ค่อยได้คุยกัน เพราะถามว่า กว่า 6 แสนล้านบาท ก้าวไกลจะเอาตรงไหนมาจ่าย ซึ่งถ้าไปดูรายการที่เขาพูดถึง ก็อาจจะมีทั้งเรื่องของการลดการใช้จ่าย เช่น ลดขนาดกองทัพ แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีมาตรการรายได้ด้วย คือ ภาษีต้องขึ้น พูดถึงภาษี 3 ตัวใหญ่ ๆ คือการเก็บภาษีความมั่งคั่ง การปฏิรูปการเก็บภาษีที่ดินและที่สำคัญ ที่คนอาจจะไม่ค่อยคุยกัน คือ การขึ้นภาษีกำไรของนิติบุคคล คืออาจจะลดภาษีสำหรับ SMEs แต่ขึ้นภาษีสำหรับนิติบุคคลรายใหญ่
ซึ่งสำหรับตลาดหุ้น การขึ้นภาษีก็แปลว่ากำไรหลังภาษีจะลดลง เพราะฉะนั้น ถ้าก้าวไกลมา มีใช้จ่ายอย่างที่บอกทั้งหมดจริง ๆ ก็ต้องมีฝั่งรายได้ที่ต้องเพิ่มขึ้น ก็คือ การขึ้นภาษีที่ต้องเพิ่มขึ้น ซึ่งการขึ้นภาษีก็ต้องตั้งคำถามว่า ใครจะโดนบ้าง ถ้ามองในแง่ของบริษัทจดทะเบียนก็อาจจะได้รับผลกระทบโดยรวมจากภาษีที่อาจจะสูงขึ้น
แต่ถ้าคำถามก็คือ กระทบจริงไหม ต้องขึ้นอยู่กับว่า แล้วพอเป็นพรรคร่วมรัฐบาล นโยบายพวกนี้ จะเจรจาตกลงกันได้จริงไหม ทั้งในฝั่งของการใช้จ่าย คือ ฝั่งของสวัสดิการกับฝั่งของรายได้ คือพวกนโยบายภาษี
# นักลงทุนต่างชาติ มองการเลือกตั้งไทยอย่างไร ?
นักลงทุนต่างชาติกังวล 2-3 เรื่อง เรื่องที่หนึ่ง คือเขากังวลความไม่แน่นอน คือ จริง ๆ เขาอาจจะไม่ได้บอก ว่าใครควรจะชนะ หรือเขาจะเชียร์ใคร แต่นักลงทุนต่างประเทศไม่ชอบความไม่แน่นอน อย่างสถานการณ์ปัจจุบัน ก็ต้องยอมรับว่า มีความไม่แน่นอนอยู่พอสมควร
ประเด็นความไม่แน่นอนทำให้คนตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ แล้วก็ต้องยอมรับว่า เวลาเขาลงทุน เขาก็อยากจจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนโยบาย เกิดอะไรขึ้นกับกำไรของบริษัท ก็สะท้อนให้เห็นเลยว่า เวลาเปลี่ยนขั้วทางการเมือง เปลี่ยนนโยบายของพรรคหลัก มันส่งผลกับการลงทุนได้พอสมควร
จะสังเกตว่าพอเป็นภาวะแบบนี้ มีทั้งความไม่แน่นอน และการคาดการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมว่าเป็นสิ่งที่นักลงทุนต่างประเทศอาจจะค่อนข้างกังวล และ อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อนการเลือกตั้ง นักลงทุนต่างประเทศ Net sell (ขายสุทธิ) หุ้นไทยมาตลอดเลย ก็คือเขากังวลความไม่แน่นอนพวกนี้
# การเมืองกับความเสี่ยงในต่างประเทศ อะไรน่าห่วงกว่ากัน ?
เรื่อง Dept ceiling (เพดานหนี้สหรัฐ) เป็นประเด็นทางเทคนิคมากกว่า มันไม่ได้มีผลทางเศรษฐกิจแบบยาวนานและรุนแรง คือ มันเป็นแค่ความเสี่ยงที่ถ้าหากเกิดขึ้นมาจะทำให้เกิดความวุ่นวายในตลาดการเงิน ทำให้เกิดการ recession (การถดถอย) แต่เชื่อว่า โอกาสเกิดมีค่อนข้างน้อย และถึงจะเกิดก็น่าจะมีการแก้ไขปัญหา กลับมาได้ค่อนข้างเร็ว ฉะนั้นเป็นประเด็น technical ซึ่งอาจจะไม่เกิดอะไรขึ้นเลยก็ได้ เช่น หาดีลกันได้ก่อนสิ้นเดือน พ.ค.นี้ ทุกอย่างก็จะจบ
ประเด็นที่สอง คือเรื่องของภาคธนาคาร ที่อาจจะเห็นเรื่องของการมีแบงก์รันที่เกิดขึ้นในสหรัฐ และมีประเด็นแบงก์ในยุโรป เชื่อว่ามีโอกาสที่จะยังมีความวุ่นวาย ในประเด็นนี้เกิดขึ้น แต่ค่อนข้างแน่ใจได้ว่า คงไม่พาไปสู่วิกฤต เพราะว่าวันนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นกับธนาคารขนาดกลางและธนาคารขนาดเล็ก ในขณะที่ธนาคารขนาดใหญ่ของสหรัฐยังคงมีความเข้มแข็งอยู่ค่อนข้างเยอะ
ประเด็นที่สาม ที่อาจจะส่งผลต่อเศรษฐกิจ คือภาวะที่หลาย ๆ คนพูดถึง คือเศรษฐกิจถดถอยในช่วงครึ่งหลังของปี ทั้งจากเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น การกระตุ้นเศรษฐกิจที่มันมีอยู่ค่อนข้างเยอะก่อนหน้านี้ วันนี้ก็เริ่มคลี่คลายออกไป ซึ่งอันนี้เชื่อว่ามีโอกาสเกิดขึ้นค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังเชื่อว่าเป็นสิ่งที่เราเรียกว่า Mild Recession ก็คือการชะลอตัว แต่ไม่น่าจะรุนแรงมาก อันนี้ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยได้
# ทิศทางนโยบายการเงินระยะต่อไป จะเป็นอย่างไร ?
เชื่อว่าดอกเบี้ยใกล้พีกแล้ว คือมองไปข้างหน้า อย่างในสหรัฐ ผมเชื่อว่าน่าจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยยาว แต่ว่าอาจจะไม่ลงเร็ว ๆ นี้ ถึงแม้จะพูดถึงเศรษฐกิจชะลอตัวอะไรต่าง ๆ แต่เงินเฟ้อในสหรัฐก็ยังอยู่ที่ 4% 5% เขาอยากได้ 2% ก็ต้องขึ้นไปก่อน แล้วก็ต้องค้างไว้แถวนี้ จนกระทั่งเห็นภาพชัดขึ้น ว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลงมาอย่างชัดเจน ก็เชื่อว่าดอกเบี้ยก็คงอยู่แถวนี้ไปอีกสักระยะหนึ่ง แล้วค่อยปรับตัวลงในช่วงปลายปี
"ส่วนของไทยเอง ผมเชื่อว่าประชุม (คณะกรรมการนโยบายการเงิน) ครั้งหน้าปลายเดือน พ.ค.นี้ น่าจะขึ้นไปที่ 2% แล้วก็ครั้งต่อไปประชุมในเดือนสิงหาคม ยังเชื่อว่าน่าจะขึ้นอีกครั้ง" ดร.พิพัฒน์กล่าว
ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องดูพัฒนาการของเศรษฐกิจ แล้วก็เงินเฟ้อเหมือนกัน ถ้าเกิดเงินเฟ้อลงต่อเนื่อง เศรษฐกิจไม่ได้ดีอย่างที่คาด หรือมีความเสี่ยงมาจากข้างนอกอย่างที่คุยกัน ก็มีสิทธิที่แบงก์ชาติอาจจะคงไว้ที่ 2 % ก็คือ ขึ้นอีก 1 ครั้งอย่างน้อย ส่วนครั้งที่ 2 ยังไม่ค่อยแน่ใจ แต่เชื่อว่าไม่ขึ้นเกิน 2.25%
# ตลาดหุ้นปีนี้จะไซด์เวย์ไปเรื่อย ๆ แบบนี้ ?
ถ้าเกิดไม่มีข่าวดี แต่ถ้าเกิดทุกอย่างเข้ารูปเข้ารอยหมด คือถ้ารัฐบาลตั้งได้ นักท่องเที่ยวมาตามนัด เศรษฐกิจโลกไม่ได้ชะลอตัวมาก ครึ่งปีหลังก็น่าจะเป็นภาพที่ดีขึ้น
# แนะนำนักลงทุน ลงทุนอย่างไรดี ในภาวะแบบนี้
โดย ดร.พิพัฒน์ แนะนำว่า ถ้าเป็นสินทรัพย์เสี่ยงอย่างพวกหุ้น ก็ต้อง defensive นิดหนึ่ง เพราะว่ามีความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะชะลอตัว ถ้าเชื่อว่ามีโอกาสที่เศรษฐกิจจะชะลอตัว การลงทุนพวกอะไรที่ให้ income อย่างพวกตราสารหนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าใครสามารถรับความเสี่ยงไปลงทุนในดอลลาร์สหรัฐได้ วันนี้บอนด์ระยะสั้นก็ให้ผลตอบแทน 4% 5% ซึ่งก็น่าสนใจ
แล้วถ้าเกิดมีเศรษฐกิจชะลอตัว ตรงนี้ก็จะได้ประโยชน์ ถ้าเป็นหุ้น ต้องหุ้นที่ลักษณะ defensive นิดนึง ก็คือถ้าเศรษฐกิจชะลอตัวมา ก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อย่าไปเน้นพวกหุ้น growth (เติบโตสูง) ซึ่งระหว่างนี้อาจจะได้รับผลกระทบ ถ้าเศรษฐกิจชะลอตัวลงมา
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์


Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"