"ครูสองประเภท แบบฟันน้ำนม​ กับ​ แบบฟันแท้"

... 1 ครูแบบฟันน้ำนม, จะเก่งในการเดินตามแนวคิดที่ตัวเองได้เรียนมาจากครูต่างชาติ​เช่นครูตะวันตก​ผิวขาว​ ครูว่าไงก็ว่าตามนั้น​ ไม่มี​ "ความกล้าหาญทางความคิด" ที่จะเสาะหารอยรั่ว​ จุดอ่อน​ ข้อเสีย​ หรือไตร่ตรองแบบหลักการ​กาลามะสูตร​ของศาสนาพุทธ​

คนเหล่านี้​ เช่น​เหมาเจ๋อตุง​, รองหัวหน้าพรรค​"อดีตเก่า​"ที่ชอบอ้างการปฏิวัติฝรั่งเศส, ครูรัสเซีย​ ฝรั่งเศส​ เศษฝรั่ง​" ว่ามายังไง​ ว่าตามนั้น​พึงพอใจจะท่องจำรายละเอียดแบบนกขุนทอง​

... 2 ครูแบบฟันแท้, ฟันแท้คือฟันที่ดันฟันน้ำนมออกไป​ เป็นการค้นพบความจริงที่แข็งแรงยั่งยืนกว่า​ ครูแบบนี้เช่น​ เติ้งเสี่ยวผิง​ ที่แก้ไขลัทธิของเลนินใหม่​เป็น​ "ลัทธิแก้" หรือ​"แมวสีอะไรก็ได้ขอให้จับหนูได้" เพราะปู่เติ้งรู้ว่าแนวคิดแบบเลนินนั้นอดตาย​ โดยแกสังเกตุจากสมัยเหมาเจ๋อตุง,

... หรือ​ครูถวัลย์​ดัชนี​ ศิลปินใหญ่​ ไปจบปริญญาโท​เอก​ที่ยุโรป​ พูดได้อย่างคล่องแคล่ว​เกิน​ 5-7 ภาษา, ตอนกลับมาเมืองไทยใหม่ๆท่านเดินตามปรัชญาศิลปะและนิยมปรัชญาแนวคิดตะวันตกทุกอย่าง​ ไม่เคยคิดว่าแนวคิด​ปรัชญาความเชื่อตะวันออกแบบพุทธดีเลย แต่งตัวใส่สูตรผูกไทรองเท้าเงาวับแบบนักเรียนนอก​โก้เก๋, ภายหลังการค้นพบแบบ​"ฟันแท้ทางความคิด" ท่านหันหลังให้การก๊อปปี้เป็นทาสความคิดฝรั่ง​ จนกลับมาแต่งตัว​แบบบ้านๆ​ชุดม่อห่อม​ ประพฤติ​ เดินตามวิถีภูมิปัญญาตะวันออกและสร้างงานตามแนวนั้นมากมาย, หรือพระพุทธเจ้าเช่นกัน​ ท่านเรียนจากครูสายพราหมณ์ ฮินดูมากมาย​ มาก่อน แต่พบเจอจุดอ่อนรอยรั่วบางอย่าง​ จนต้องหาแนวทางตัวเอง

... "สมัยราชวงศ์ชิง" มีการทำลายศัตรู​ โดยการใช้ครูที่ผิดทางมาสอน, "อ๋าวป้าย" อำมาตย์ที่พยายามล้มล้าง​ "คังซี" ที่ตอนนั้นเป็นยุวกษัตริย์​หนึ่งในวิธีการทำลายก็คือพยายามจะเอาครูที่ไม่เก่งจริงหรือรู้แบบผิดทางมาสอน​ แต่โชคดีที่ที่ปรึกษาเอาครูดีมาสอน​ จนสุดท้ายคังซีกลายฮ่องเต้ที่ยิ่งใหญ่ที่ปกครองต้าชิงนานที่สุดกว่า​60​ปี

... หลัง​" สงครามเย็นจบ" กำแพงเบอร์ลินแตก​ อเมริกาไปสร้างมหาวิทยาลัยในประเทศอดีตบริวารของยุโรป​ตะวันออก-​กลาง, โดยอ้างว่าเป็นแนวทางเสรีชนประชาธิปไตย​ แต่แท้จริงแล้ว​เพื่อหลอกเด็กกลุ่มนั้นเป็นเครื่องมือทางการเมืองยามเติบใหญ่เป็นคนชั้นสูงเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับพรรคพวก​กลุ่มก้อนของเขาเอง​เดินตามนโยบายของเขา​ ตามแบบ "คณาธิปไตย" หรือ​ plutocracy​ เช่นในประเทศฝรั่งเศสตอนนี้​ "นายมาครง" ผู้นำฝรั่งเศสตอนนี้เคยเป็นเด็กปั้นของนายทุนวอลล์สตรีท ตอนหลังจะถอนตัวออกมา​ เลยโดนเสื้อกั๊กเหลืองประท้วง​, ซึ่งประชาธิปไตยที่ตามหนังสือต้องไม่ประท้วงผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง​ ย้อนแย้งในตัวเองอีกแล้ว

... "ประชาธิปไตย" โดยตัวมันเองนั้นต้องสร้างให้คนในสังคม​และในโลกมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน คบค้าขายติดต่อในฐานะเท่าเทียมกัน​​ อิสระภาพเท่ากัน​ ไม่ใช่​แบบเจ้าอาณานิคมกับประเทศทาสอาณานิคม, แต่หลังจาก​ "ปฏิวัติฝรั่งเศส" 1789, ฝรั่งเศสยังเก็บและไล่ล่าอาณานิคมทั่วโลกเหมือนเดิม​ นโปเลียน​ก็ไล่ล่ายึดครองเพื่อนบ้านเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศส โดยเอาเงินมาปรนเปรอนายธนาคารยิวที่ให้กู้สร้างกองทัพ​ และยิวก็ได้อิสระในการอยู่นอกเก็กโต้และซื้อที่ดินทั่วฝรั่งเศสได้, สุดท้่ายสิ่งที่ทำก็ย้อนแย้งกับสิ่งที่พูดสอนเด็กอีกแล้ว

... ยังไม่นับ​ "มาเฟียเลือกตั้งธิปไตย" อย่างอเมริกา​ ในตอนนี้ก็ไล่ล่าปล้นฆ่าไปทั่วโลก​ ทั้งซีเรีย​ปาเลสไตน์​ เวเนซุเอล่า​ และไทย​

... และสิ่งที่เป็นเครื่องมือของพวกนักล่าอาณานิคมอย่างหนึ่งก็คือ​ "การใช้ครูแบบฟันน้ำนม" ในการส่งออกยาพิษทางการศึกษาไปทั่วโลก​ เพื่อล้างสมองและเชื่อว่าสิ่งนี้มาจากสรวงสวรรค์

... รอยรั่วที่ใหญ่มากที่ท่านพุทธทาสเคยพูดถึงระบบ​ "เลือกตั้งธิปไตย" ก็คือ​ " พวกมากลากไป" เพราะถ้าคนหมู่มากไม่ดีแล้วพาไปลงเหวทั้งสังคม​ ก็จะเสียหาย​ สิ่งที่ดีที่ท่านบอกคือระบอบ​ "ธรรมาธิปไตย" ที่ให้คนดีปกครอง​เพื่อสร้างสังคมที่ดี​

Cr.Jeerachart Jongsomchai

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"