สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า การดีเบตระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน ตัวแทนพรรคเดโมแครตและนายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน คู่แข่งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 26 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่นในสหรัฐ ที่สิ้นสุดลงแล้ว ปรากฏว่าจากการผลสำรวจของซีเอ็นเอ็น/โออาร์ซี โพลล์
หลังการดีเบตพบว่านางฮิลลารี คลินตัน ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย โดยได้คะแนนเสียงไปถึง 62 เปอร์เซ็นต์ ส่วนนายทรัมป์ได้ไป 27 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นจนถึงช่วงเวลาก่อนหน้าการดีเบตแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่สูสีกันมาก โดยโพลของรอยเตอร์/อิปซอสล่าสุดระบุว่า นางฮิลลารีมีคะแนนนำหน้านายทรัมป์อยู่ 4 จุด จากการสำรวจผู้ที่มีแนวโน้มจะไปใช้สิทธิลงคะแนน 41 เปอร์เซ็นต์
โดยการดีเบตเป็นเวลา 90 นาทีครั้งนี้อาจโน้มน้าวให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังลังเลตัดสินใจได้ โดยโพลของรอยเตอร์/อิปซอสอีกชิ้นหนึ่งระบุด้วยว่า 61 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะไปใช้สิทธิพึ่งพาการดีเบตเพื่อช่วยในการตัดสินใจ
ขณะที่ทั้งฮิลลารีและทรัมป์ต่างกล่าวโจมตีกันอย่างดุเดือดในการดีเบตแสดงวิสัยทัศน์แบบเผชิญหน้ากันเป็นครั้งแรก ที่เริ่มต้นเมื่อเวลา 21.00 น. ของวันที่ 26 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 08.00 น. ของวันที่ 27 กันยายนในไทย) จัดขึ้นที่มหาวิทยาลัยฮอฟสตราในเมืองเฮมป์สเตด รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมีนายเลสเตอร์ โฮลต์ ผู้ประกาศข่าวภาคค่ำของเอ็นบีซี เป็นผู้ดำเนินรายการ
นางฮิลลารี วัย 68 ปี มาในชุดสีแดง ขณะที่นายทรัมป์ วัย 70 ปี ใส่สูทสีดำและเนกไทสีน้ำเงินแทนที่จะใส่สีแดงตามปกติ ผู้สมัครทั้ง 2 ทักทายกันด้วยการจับมือและยิ้มให้กันก่อนเริ่มต้นการดีเบตครั้งประวัติศาสตร์ที่นักวิเคราะห์มองว่าอาจมีผู้ชมการถ่ายทอดสดมากกว่า 100 ล้านคน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบหลายปีของการเมืองอเมริกัน
นางฮิลลารีกล่าวโจมตีนายทรัมป์ว่าเป็นคนที่หลุดโลก แทบจะไม่มีความเชื่อมโยงกับข้อเท็จจริง โดยยินดีที่จะพูดเรื่องบ้าๆ บอๆ เพื่อที่จะให้ได้รับการเลือกตั้ง
“คุณอยู่แต่ในโลกความจริงของตนเอง” นางฮิลลารีกล่าว พร้อมกล่าวหานายทรัมป์ว่า ใช้วิธีการหาเสียงด้วย “คำโกหกที่เหยียดเชื้อชาติ” ที่เธอหมายถึงทฤษฎีสมคมคิดซึ่งตั้งคำถามเรื่องเรื่องสถานที่เกิดและความเป็นพลเมืองสหรัฐของประธานาธิบดีบารัค โอบามา
ด้านนายทรัมป์ที่เผชิญกับคำถามเรื่องความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวโจมตีนางฮิลลารีเป็นการตอบโต้ โดยตีตราเธอว่าเป็น “นักการเมืองตามแบบแผน พูดอย่างเดียวแต่ไม่ทำ ดูดีแต่ไม่มีผลงาน”
“ประเทศของเราบอบช้ำเพราะคนอย่างฮิลลารี คลินตัน ที่มีการตัดสินใจที่ย่ำแย่ในแง่การสร้างงาน และสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น” นายทรัมป์กล่าว และพูดถึงผลงานในการบริหารงานของนางฮิลลารีที่ผ่านมาทั้งในฐานะ รัฐมนตรีต่างประเทศ สุภาพสตรีหมายเลข 1 และวุฒิสมาชิก ว่า “คุณทำสิ่งนี้มา 30 ปี ทำไมถึงเพิ่งจะคิดวิธีแก้ปัญหาตอนนี้ แล้ว 30 ปีที่คุณทำมาล่ะ”
ด้านนางฮิลลารียังโจมตีนายทรัมป์เรื่องที่ไม่ยอมเปิดเผยเอกสารการยื่นเสียภาษี ที่ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกด้วย และกล่าวหานายทรัมป์ว่าผลักดันนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อคนรวยบนความสูญเสียของชนขั้นกลาง
“แผนการของโดนัลด์ที่เขาจะผลักดันจะทำให้เศรษฐกิจทั้งหมดตกต่ำลงอีกครั้ง และที่จริงแล้วมันเป็นแนวความคิดที่สุดโต่งมาก นั่นคือการปรับลดภาษีสำหรับคนที่รวยที่สุดของประเทศนี้ที่เราไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งนั่นไม่ใช่วิธีที่เราทำให้เศรษฐกิจเติบโต” นางฮิลลารีกล่าว
ด้านนายทรัมป์ มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ตอบโต้ว่า จะยอมเปิดเผยเอกสารการยื่นเสียภาษีหากนางฮิลลารีเปิดเผยอีเมล์ 33,000 ที่ถูกลบออกไป พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์นางฮิลลารีในเรื่องนโยบายการค้าทำให้สูญเสียตำแหน่งงานในประเทศไปให้กับเม็กซิโกและจีนผ่านข้อตกลงทางการค้าที่แย่
“เราจำเป็นต้องหยุดยั้งการถูกขโมยตำแหน่งงานออกไปจากประเทศของเรา” นายทรัมป์กล่าว
ขอบคุณรูปและเนื้อหาจาก Matichon online(http://www.matichon.co.th/news/299652)
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
Line ID:@fxhanuman