forex_calendar

1.  ตั้งเวลาให้ตรงกับประเทศไทยคือ (GMT+7:00) Bangkok, Hanoi, Jakarta
2.  ไว้สำหรับเลือกวันที่ต้องการดูข่าว
3.  เวลาข่าวออก
4.  ตระกูลเงินของข่าว
5.  ความรุนแรงของข่าว
6.  เหตุการณ์ของข่าว
7.  ค่าตัวเลขจริงที่ออก
8.  ค่าตัวเลขคาดการณ์
9.  ค่าตัวเลขครั้งก่อน

forex_calendar

เมื่อถึงเวลาข่าวออกตัวเลขค่าจริงจะแสดงออกมาในช่อง Actual ซึ่งจะมีสีแตกต่างกันดังนี้

  • ตัวเลขออกเป็นสีเขียวแสดงตัวเลขดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
  • ตัวเลขออกเป็นสีแดงแสดงว่าตัวเลขแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้
  • ตัวเลขออกเป็นสีดำแสดงว่าตัวเลขเท่ากับค่าที่คาดการณ์หรือใกล้เคียงกับสถิติเดิม (Previous)

 

สิ่งที่ต้องสนใจในการเทรดข่าว Forex

 

1.  เรื่องค่าสกุลเงิน ถ้าเทรดสกุลไหนก็ต้องสนใจเฉพาะสกุลนั้น เช่นถ้าเราเช่น EUR/USD ก็สนใจเฉพาะข่าวของ USD และ EUR และเราต้องรู้ด้วยว่าถ้าข่าวออกมาจะทำให้ค่าเงินเราขึ้นหรือลง เช่น ถ้าเราเล่น EUR/USD ถ้าข่าวดอลลาร์สหรัฐออกมาดีแสดงคู่เงินที่มี USD อยู่หลังกราฟจะลง แต่ถ้าข่าว USD ออกมาไม่ดีกราฟจะขึ้น ในทางกลับกันถ้าข่าว EUR ออกมาดีกราฟจะขึ้นแต่ถ้าข่าว EUR ออกมาไม่ดีกราฟจะลง

2. เรื่องระดับความแรงของข่าว ระดับความแรงขอข่าวจะมีสามระดับดังรูป

forex_calendar

3. ค่าตัวเลขจริงที่ออก(Actual) ถ้าค่าตัวเล่นจริงที่ออกมาต่างจากค่าก่อนหน้า(Previous)มาก ยิ่งมีผลทำให้ค่าเงินวิ่งขึ้นลงแรงมาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับความแรงของข่าวด้วย

 รัสเซียถูกตัดขาด “การเงินโลก” สะเทือนเศรษฐกิจทั่วโลกมากกว่าที่คิด

การส่งกองทัพรุกรานยูเครนของรัสเซียไม่ได้ส่งผลเพียงแค่ทำให้ระเบียบความมั่นคงทั่วยุโรปพังทลายลงในชั่วข้ามคืนเท่านั้น ยังอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั้งโลกที่กำลังจะเริ่มฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19 ชนิดหนักหนาสาหัสอีกด้วย

การแซงก์ชั่นรัสเซียที่เกิดขึ้นตามมา ซึ่งรวมถึงการห้ามทำธุรกรรมกับธนาคารกลาง, การขึ้นบัญชีดำธนาคารใหญ่ที่สุดของรัสเซียอย่าง Sberbank กับ VTB และการตัดรัสเซียออกจากระบบสื่อสารระหว่างธนาคารอย่าง SWIFT ส่งผลให้ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 11 ของโลกประเทศนี้ถูกปิดกั้นทั้งจากระบบการค้าและการเงินของโลกในทันที
ระบบ SWIFT ที่เชื่อมโยงธนาคารมากกว่า 11,000 แห่งทั่วโลกเข้าด้วยกันในการทำธุรกรรมนับล้านล้านดอลลาร์ระหว่างธนาคาร มีความสำคัญกับรัสเซียอย่างยิ่ง เพราะเป็นกลไกสำคัญในการส่งออกน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ
และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างหนักในทันที เพราะขาดเม็ดเงินสนับสนุน เงินที่เคยไหลเข้าออกประเทศได้ง่าย ๆ ก็ถูกปิดถูกชะลอ
ที่ผ่านมามีเพียง “อิหร่าน” ประเทศเดียวที่เคยเผชิญกับการแซงก์ชั่นรุนแรงเช่นนี้ ซึ่งส่งผลให้อิหร่านสูญเสียการค้าระหว่างประเทศไปมากถึง 30%
แต่ในเวลาเดียวกันการแซงก์ชั่นรัสเซีย ก็สามารถส่งผลสะเทือนต่อชาติตะวันตกและเศรษฐกิจโดยรวมของโลกพร้อมกันไปด้วยอย่างช่วยไม่ได้
“รัสเซีย” ไม่เพียงเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ยังเป็นผู้ผลิตโลหะอุตสาหกรรมสำคัญอย่างนิกเกิล, อะลูมิเนียม และแพลเลเดียม (ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์, อิเล็กทรอนิกส์และอัญมณี) ทั้งยังเป็นผู้ผลิต “โพแทช” วัตถุดิบสำหรับผลิตปุ๋ยรายสำคัญ นอกจากนั้น รัสเซียและยูเครน ยังเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีรายสำคัญของโลกอีกด้วย
สินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้ราคาพุ่งขึ้นมาตลอดในระยะหลัง และสงครามครั้งนี้จะยิ่งทำให้ราคาสูงยิ่งขึ้นไปอีก
รัสเซียอาจ “ตอบโต้” ด้วยการตัดการขายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติให้กับชาติตะวันตก ซึ่งถึงแม้จะทำร้ายเศรษฐกิจของตนเองมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่ก็จะส่งผลให้ราคาพลังงานโลกถีบตัวสูงขึ้น และก่อให้เกิดปัญหากับระบบเศรษฐกิจทั่วโลกตามมาในทันที
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ประเมินไว้ว่า หากเกิดกรณีเช่นนั้น ยุโรปซึ่งพึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากถึง 40% ของที่ใช้ทั้งหมด จะได้รับผลกระทบมากที่สุด จีดีพีของสหภาพยุโรปจะหดตัวลงมากถึง 3% เงินเฟ้อถีบตัวสูงขึ้น การขยายตัวทางเศรษฐกิจชะงัก ภาวะขาดแคลนพลังงานเฉียบพลันอาจทำให้เศรษฐกิจอียูที่กำลังฟื้นตัวตกกลับสู่ภาวะถดถอยได้
ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในกลุ่มอาหารและพลังงานที่ถีบตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจะส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อของทุกประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกาซึ่งอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงอยู่แล้วและประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันซึ่งประสบปัญหาการฟื้นตัวจากวิกฤตโควิดเป็นไปอย่างเชื่องช้าอยู่แล้ว
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อทั้งองค์กรธุรกิจและครัวเรือน “นูรีล รูบินี” หัวหน้าคณะนักเศรษฐศาสตร์ประจำแอตลาส แคปิตอล และซีอีโอของรูบินี แมโคร แอสโซซิเอตส์ ชี้ว่า“ในสภาวะช็อกทางราคาเช่นนี้ ธุรกิจจะไม่ลงทุน ครัวเรือนจะลดการจับจ่ายใช้สอยลง” ผลที่เกิดตามมาก็คือ เศรษฐกิจจะชะลอลงอย่างฮวบฮาบ
และจะกลายเป็นปัญหาในการกำหนดนโยบายสำหรับธนาคารกลางของประเทศต่าง ๆ รวมทั้ง “เฟด” ธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา ว่าจะทำอย่างไรกับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนครั้งนี้
เพราะจะใช้มาตรการกระตุ้นทางการคลังอีก “กระสุน” ก็ยอบแยบเต็มที จากการใช้แก้วิกฤตโควิดที่ผ่านมา นอกจากนั้น รูบินีเชื่อว่า มาตรการด้านการคลังไม่สามารถใช้ได้ผลในกรณีนี้ ที่เป็น “ซัพพลายช็อก” ไม่ได้เกิดจาก “ดีมานด์ช็อก”จะผสมผสานมาตรการทางการคลังและการเงินมาใช้ร่วมด้วย ก็อาจลดผลกระทบลงได้ แต่จะส่งผลให้เกิดแรงกดดันต่อภาวะเงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้นไปอีก
และที่สำคัญที่สุด ผลจากการตัดสินใจรุกรานยูเครนครั้งนี้ของรัสเซีย ทำให้เกิดการแตกขั้วขึ้นอีกครั้งในทางการเมืองโลก ก่อให้เกิดความไม่แน่นอนในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ขึ้นสูงมากและยาวนาน
รูบินีเชื่อว่า “สงคราม” อาจเกิดขึ้นให้เห็นได้อีกครั้งในช่วง 10 ปีข้างหน้านี้ โดยที่ “ไต้หวัน” ล่อแหลมที่สุด
ดังนั้นการเปิดศึกกับยูเครนของรัสเซีย จึงเป็น “เหตุการณ์ประวัติศาสตร์”ที่จะส่งผลกระทบต่อทั้งทางเศรษฐกิจและการเมืองโลกต่อไปอีกนาน
โดย คอลัมน์ : ชีพจรเศรษฐกิจโลก
ผู้เขียน : ไพรัตน์ พงศ์พานิช
Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"