ภายใต้กฏ Basel 3 ...ทองคำจะกลายเป็น Money

Jay Taylor นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณท์เขียนไว้ใน newsletter ล่าสุดว่า วันที่สำคัญมากวันหนึ่งกำลังใกล้เข้ามา ปี 2018 เหล่าธนาคารกลางทั้งหลายได้เพิ่มจำนวนทองคำเข้าไว้เกือบ 23 ล้านออนซ์ ..มากขึ้น 74% ในชั่ว 1 ปี เป็นการซื้อเข้าต่อปีที่มากที่สุด

นับแต่ปี 1971 และมากเป็นที่สองในประวัติศาสตร์ ..รัสเซียซื้อเข้ามากที่สุด ...ไม่เป็นที่แปลกใจเลยที่ทองคำในส่วนของอังกฤษไหลออกมากที่สุด..ไปยังแบ้งค์ชาติของหลายประเทศที่ล้วนกำลังอยู่ในเป้าเล็งของอเมริกา

central bank gold buying

The Bank for International Settlements (BIS) (ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ) ซึ่งอยู่ที่เมือง Basel ..Switzerland ได้ชื่อว่าเป็นธนาคารแม่ของพวกธนาคารกลางทั้งหลาย .....ในเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องการสะสมทองคำของธนาคารกลางก็มีที่มาจากการที่ BIS อนุญาติให้ทองคำ physical ถือเป็นทรัพย์สินที่เป็นกองทุนสำรองชั้นดีของธนาคาร..ในระดับเดียวกันกับเงินสดหรือพันธบัตรรัฐบาลเลย (ชั้น Tier-1..ผู้แปล) ....ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมนี้เป็นต้นไป

ที่ผ่านมา เคยมีเรื่องแนวคิดระยะยาวของจีนและอีกหลายประเทศถึงการทิ้งเงินดอลล่าร์เพื่อเข้าซื้อทองคำ จากการที่ทองคำมีราคาถูกเพราะธนาคารตะวันตกขายเพื่อทุบราคาผ่านทางตลาดฟิวเจอร์กระดาษ ..ซึ่งนี่ก็คงน่าจะถึงเวลาเปลี่ยนได้แล้ว เมื่อวันที่ทอง physical จะสะท้อนมูลค่าจริงในตลาด (mark to market) ทั้งนี้เพื่อให้งบดุลของแบ้งค์ขยายตัวขึ้นมาได้

แต่ก็มีคำถามว่า จริงๆแล้วสหรัฐมีทองคำเท่าไหร่กันแน่ ..Jim Sinclair พูดเสมอว่า ทางเดียวที่โลกเราจะเอาชนะปัญหาหนี้ที่กำลังบีบคั้นเศรษฐกิจของโลกได้ คือการปรับค่าใหม่ให้กับทองคำที่อยู่ในงบดุลของธนาคารกลางต่างๆ เพิ่มราคาสูงขึ้นอีกน่าจะหลายพันดอลล่าร์ต่อออนซ์ ...นี่จะเป็นการเปลี่ยนระบบการเงินของโลกออกจากเงินดอลล่าร์ แบบที่จีนได้พยายามผลักดันมาตลอดสิบปีที่ผ่านมา

ถ้าธนาคารครอบครองทองคำ ก็จะสามารถใช้มันเป็นทรัพย์สินเพื่อพิมพ์เงินเพิ่มได้ ...นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เมื่อเข้าใกล้วันที่ 29 มีนาคม ธนาคารต่างๆทั่วโลกพากันซื้อเข้าทองคำจำนวนมาก ..นับเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่ธนาคารกลางชาติต่างๆซื้อทองคำรวมกันมากกว่า 640 ตันเมื่อปีทึ่แล้ว ซึ่งมากเกือบเป็นสองเท่าของการซื้อเมื่อปี 2017 และถือได้ว่าเพิ่มมากที่สุดนับจากปี 1971 ซึ่งเป็นปีที่ ปธน. นิกสันปิดประตูทองคำในการอิงค่า และทำให้ทั้งโลกอยู่ในระบบอัตราลอยตัวด้านค่าเงิน

นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แนวทางการทำให้ทองคำมีค่าเสมือนเงินสดหรือพันธบัตรมีการคาดการณ์มาหลายปีแล้ว ..อย่างไรก็ตาม "ทองกระดาษ" ถูกนำมาใช้เพื่อกดราคาทองคำไม่ให้โงหัวมาเทียบเคียงดอลล่าร์ได้ ..แต่ก็กลับเป็นโอกาสให้ธนาคารกลางชาติต่างๆเข้าซื้อทองคำเพื่อเพิ่มรีเสิร์ฟของตนได้ในราคาที่แสนถูก เมื่อจำนวนมหาศาลของทองกระดาษเข้ามาสร้างราคาถูกไว้ให้ ในขณะที่เป็นการ "สลัดเม่า" นักลงทุนที่ไม่ระวัง..จนเกิดอาการ panic ขายทองในมือออกมา

สื่อยักษ์ของอิตาลีรายงานว่า ..."ในปีที่ผ่านๆมาโดยเฉพาะ 2018 ราคาทองที่ขึ้นมาเป็นเรื่องปกติ ตรงข้ามกับปีก่อนหน้าที่ตกไปถึง 7% ..นั่นเพราะมันเป็นการรุกเข้าซื้อของบรรดาแบ้งค์ชาติต่างๆ ..behind the scene.."

ทางรอดเดียวที่รัฐบาลต่างๆของโลกตะวันตกจะสามารถบริหารจัดการหนี้ของตนไว้ได้ คือการลดค่าเงินของตน ...เมื่อสามารถนำทองคำมาใช้เป็นรีเสิร์ฟ ทำให้แบ้งค์ชาติทั้งหลายกำหนดค่าเงินเฟ้อใหม่ได้..เพราะมีรีเสิร์ฟตัวใหม่อยู่ใน Balance Sheet แล้ว ..ทองคำในรีเสิร์ฟจึงสามารถกำหนดราคาให้สูงมากขึ้น..เพื่อมาสัมพันธ์กับหนี้จำนวนมหาศาลของตนในระบบได้...

Cr.Jeerachart Jongsomchai

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"