เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ในตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อย โดยลดลงเพียง 0.59 จุด หรือ -0.001% ปิดที่ 43,729.34 จุด ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปรับขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 44.06 จุด (+0.74%) ปิดที่ 5,973.10 จุดและ Nasdaq เพิ่มขึ้น 285.99 จุด (+1.51%) ปิดที่ 19,269.46 จุด
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงอีก 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมล่าสุด ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่สองของปีนี้ โดยครั้งแรกในเดือนกันยายน เฟดลดดอกเบี้ยลง 0.50% สู่ระดับ 4.75-5.00%
ในแถลงการณ์ เฟดชี้ว่าเงินเฟ้อในสหรัฐฯ กำลังปรับตัวเข้าหาเป้าหมายที่ 2% และเศรษฐกิจยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าตลาดแรงงานจะเริ่มชะลอตัวลงบ้าง เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ระบุว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางนโยบายในเดือนธันวาคมยังไม่ได้ข้อสรุป แต่เฟดพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป
นอกจากนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ได้ปรับตัวลงสู่ระดับ 4.416% ในระหว่างวัน และยังลดลงต่อเนื่องหลังการแถลงผลการประชุมของเฟด
การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลงอีก 0.25% เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนให้ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องในวันพฤหัสบดี โดยปัจจัยบวกเพิ่มเติมมาจากการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งกระตุ้นความคาดหวังในหมู่นักลงทุนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจที่ทรัมป์เคยหาเสียงไว้ เช่น การปรับลดภาษีและการผ่อนคลายกฎระเบียบในภาคการเงิน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจโดยรวม
อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบ เนื่องจากหุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะหุ้นของ Goldman Sachs และ JPMorgan ร่วงลง ซึ่งเป็นปัจจัยที่ฉุดการเติบโตของดัชนี ทั้งนี้ในดัชนี S&P500 พบว่าหุ้นใน 8 จาก 11 กลุ่มปิดบวก นำโดยกลุ่มบริการด้านการสื่อสารและกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้น 1.92% และ 1.83% ตามลำดับ ในขณะที่กลุ่มการเงินปรับตัวลดลงมากที่สุดที่ 1.62% รองลงมาเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่ลดลง 0.6%
นักลงทุนยังจับตาการจัดตั้งรัฐบาลของทรัมป์ หากพรรครีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรเพิ่มเติมจากเสียงข้างมากในวุฒิสภาที่ได้รับแล้ว ก็จะเอื้อต่อการบังคับใช้กฎหมายสำคัญของรัฐบาลชุดใหม่ได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่เปิดเผยเมื่อคืน กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 3,000 ราย มาอยู่ที่ 221,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 227,000 ราย นอกจากนี้ ประสิทธิภาพในการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตรในไตรมาส 3/2567 เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ยังต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.5% ซึ่งเป็นการวัดผลผลิตรายชั่วโมงต่อแรงงาน 1 คน
Cr.สำนักข่าวอินโฟเควสท์
----------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo