สามลำดับแรกคือ Nvdia, SpaceX และ Amazon ก็คงจะไม่มีใครแปลกใจ แต่ถ้าบอกว่าลำดับที่ 4 คือบริษัท "23andMe" มีใครรู้จักบ้าง? และถ้าบริษัทนี้เป็นของคนไทย คุณจะเชื่อไหม?
"23andMe" เริ่มต้นเมื่อ 11 ปีที่แล้ว ให้บริการตรวจวิเคราะห์รหัสพันธุกรรมโดยใช้ชุดตรวจดีเอ็นเอจากน้ำลาย (ดูจากวิธีการใช้น่าจะเป็นเซลล์จากกระพุ้งแก้มมากกว่า) เริ่มจากใส่น้ำลายในเทสต์คิตแล้วปฏิบัติตามขั้นตอน จากนั้นส่งทางไปรษณีย์กลับมาเข้าแล็บในสหรัฐฯ กระทั่งครบกำหนด 1 เดือนก็จะได้รับชุดข้อมูลพันธุกรรมของตัวคุณเองผ่านทางระบบออนไลน์
และทำไม test kit ถึงเป็นที่นิยมล่ะ?
หากเราย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่แล้ว การถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์เพียง 1 จีโนม ต้องใช้งบถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ แต่เมื่อเทคโนโลยีพัฒนามากขึ้น เราสามารถซื้อข้อมูลนี้ได้ด้วยเงินเพียง 99 ดอลล่าร์เท่านั้น (ต้นทุนถูกลง 30 เท่า!!ด้วย Moore's law) ทำให้บริษัทคาดการณ์จะเพิ่มฐานลูกค้าข้อมูลที่ตอนนี้มีอยู่ 2 ล้านคนไปเป็น 10 ล้านคนให้ได้ ดูจากโฆษณาแล้วน่าจะกระตุ้นยอดขายได้ไม่ยาก
ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างขยายการลงทุนไปยังการพัฒนายาใหม่ที่ออกฤทธิ์พุ่งเป้าไปที่ยีนหรือดีเด็นเอโดยตรง ซึ่งเป็นคุณสมบัติของยายุคใหม่ที่ประสิทธิภาพสูงและผลข้างเคียงต่ำ โดยใช้ประโยชน์จากฐานข้อมูลพันธุกรรมที่มีอยู่ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 10 ปี ถึงจะได้ผลิตภัณฑ์ยาออกสู่ตลาด คาดว่าจะมีทั้งกลุ่มยารักษาหอบหืด มะเร็ง และโรคตับ
และนี่คือผลงานของคนไทยสู่เวทีโลกของ "ฟ้า สถิรพงษะสุทธิ"
ก็หวังว่า start up รายนี้จะไม่ตกม้าตายเหมือน Theranos ของ Elizabeth Holmes ก็แล้วกัน
#newismaterialmum
June 15, 2018
credit:
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/780738
บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman