“อิสราเอล เล่นบทราดน้ำมันใส่กองไฟสงครามระหว่างอินเดีย กับ ปากีสถาน“

... นักวิเคราะห์ข่าวของอินดิเพนเด้นท์ บอกว่ามีความสัมพันธ์ระหว่าง “อิสราเอล” กับ “ความขัดแย้งระหว่างอินเดีย ปากีสถาน” ที่ละเอียดอ่อนและซ่อนแอบอยู่หลังฉาก หลายเดือนที่ผ่านมา “อิสราเอล” ได้พยายามอย่างหนักในการตีซี้รวมตัวกับรัฐบาล

“พรรค BJP หรือ Bharatiya Janata Party”ของ “อินเดีย” ที่เน้นความเป็นชาตินิยมฮินดู ขวาจัด ไม่ประณีประนอมกับฝ่ายอิสลามนัก 

และที่เป็นหนึ่งในสองพรรคการเมืองใหญ่ของ “อินเดีย” อย่างเงียบๆ ไม่เป็นทางการ ไม่ได้รับการยอมรับมากนัก ไม่ออกสื่อโลก – และสัมพันธมิตรที่ไม่เป็นทางการของสองกลุ่มสองชาตินี้เป็นอันตรายทางการเมือง เพราะพวกเขามีนโยบายสุดโต่งในเรื่องการ - “ต่อต้านมุสลิม ”
... ในขณะที่ “อินเดีย” เองก็เป็นผู้ซื้ออาวุธรายใหญ่ที่สุด จาก “อิสราเอล” พ่อค้าอาวุธและอุปกรณ์ทางการทหารที่สำคัญ เช่นระบบเรด้าร์ จรวดยิงจากอากาศสู่พื้น ที่อิสราเอลใช้การทำลายดินแดน “ปาเลสไตน์” เป็นการทดสอบอาวุธไปในตัว และอินเดียซื้ออาวุธจากประเทศนี้เป็นอันดับสองรองจากแค่ “รัสเซีย” เท่านั้นเอง จากปี 1999 ถึง 2009 ``อินเดียซื้ออาวุธจากอิสราเอลไปแล้วกว่า 9 พันล้านดอลล่าร์
... และในปี 2014 อินเดียเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่อันดับสามในเอเชียของอิสราเอล ความสัมพันธ์ยิ่งแน่นแฟ้นในสมัยของนายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดิ ที่แสดงออกมาในการที่อินเดียงดออกเสียงต่อต้านอิสราเอลในเวทีของสหประชาชาติในหลายๆเรื่อง ในปี 2015 ทั้งสองได้เจรจาการเปิดเสรีทางการค้าร่วมกัน โดยเน้นไปในการเทคโนโลยีสารสนเทศ ไบโอชีวภาพที่ทันสมัย และการเกษตร
... ไม่ใช่โดยบังเอิญ ที่สื่อมวลชนของ “อินเดีย” ตีแผ่ประโคมข่าวความจริงที่ว่าระเบิดฉลาดล้ำ Rafael Spice-2000” ที่กองทัพอากาศอินเดียใช้ในการโจมตี กลุ่มก่อการร้าย Jaish-e-Mohammed (JeM)“ ที่มีฐาน ในปากีสถาน นั้น เป็นระเบิดที่ผลิตจากอิสราเอล
... นอกจากนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสอง ยังได้ขยายไปมากกว่านั้น เช่นการแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเรื่องผู้ก่อการร้ายร่วมกัน การฝึกซ้อมของทหาร อิสราเอลเคยเอาวีดีโอที่เป็นการฝึกร่วมของหน่วยคอมมานโดของสองชาติมาเผยแพร่ ที่เชื่อว่าส่วนหนึ่งฝึกใน “เขตกาซ่า” ของปาเลสไตน์ รวมทั้งยุทธศาสตร์ทางการทหารร่วมกัน เช่น ที่การมีนโยบายร่วมกันในการต่อต้านผู้ก่อการร้าย ซึ่งในความหมายนี้ เน้นไปทางมุสลิม
... ข้อมูลเปิดเผยว่า มีทหาร 16 นาย ของหน่วยคอมมานโด “Garud” เป็นส่วนหนึ่งในทั้งหมด 45 นาย ที่เป็น “ทูตทหารของอินเดีย” อยู่ประจำที่ฐานทัพอากาศ Nevatim และPalmachim ใน “อิสราเอล”
... ในปี 2018 ที่ลุงโมดิของอินเดียไปเยือนอิสราเอล ช่วงใกล้เคียงกับที่มีปัญหาพรมแดนกับ “จีน” และตามมาด้วย นายเนทันยาฮูเดินทางไปอินเดีย “เนทันยาฮู” ได้รื้อแผลเก่าในปี 2008 คราวที่อินเดียโดนการก่อการร้ายโจมตีโดยฝ่ายมุสลิมทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิตไปประมาณ 170 นาย ในเมืองมุมไบ เขาบอกแบบหาพวกว่า “อิสราเอลและอินเดีย นั้นรู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดของการก่อการร้ายเป็นอย่างดี เราโกรธ เราสู้กลับ จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด”
... โดย “ฝ่ายขวาจัด” ( ที่เน้นชาตินิยม สุดโต่ง ไม่ปรองดอง เอาตัวเองเป็นหลักในการแก้ปัญหา ) ของทั้งสองประเทศ “ทั้งขวาจัดไซออนนิสต์ของอิสราเอลและขวาจัดของพรรค BJP” จะเป็นฐานรากของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต โดยมีศัตรูร่วมกันคือ “ผู้ก่อการร้ายมุสลิม”
... “อินเดีย” แม้จะเป็นประเทศที่คนส่วนใหญ่เป็นชาว “ฮินดู” แต่ก็มีประชากรชาว “มุสลิม” มากเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจาก อินโดนีเซียและปากีสถาน จึงมีปัญหากับการปกครองความแตกต่างระหว่างประชากรตลอดมา และจากบาดแผลที่ “อังกฤษ” ทิ้งไว้ตอนแบ่งประเทศทำให้ประเทศทั้งสองขัดแย้งและโกรธเกลียดกัน ( แม้ว่าความขัดแย้งระหว่างทั้งสองศาสนาจะมีมานาน แต่อังกฤษเป็นผู้ทำให้มันรุนแรงขึ้น เพื่อทำให้ทะเลาะกันเอง ไร้สามัคคี ไม่อยากให้มีการต่อต้านอังกฤษหนักๆแบบในสงครามซีปอยปี 1875 ) และในอินเดียนั้นก็มีผู้นิยมอิสราเอลอย่างมากในการที่จัดการกับชาวปาเลสไตน์ได้เด็ดขาด ( ความโกรธแค้นในอดีต ทำให้คนอินเดียบางส่วน ลืมมองว่า แท้จริงแล้วอิสราเอลนั้นไปปล้นดินแดนปาเลสไตน์มา )
... ในช่วงที่มีการประโคมว่า “ไอซิส” เป็นผู้ก่อการร้ายของโลกในปลาย ปี 2016 นั้น มีชายชาวอินเดีย 26 นายก็ได้ไปร่วมรบต่อต้านกลุ่มไอซิสด้วยเช่นกัน มีนักวิชาการบางคนในแคนาดาพยายามจะจับเอา “อเมริกา อิสราเอล และอินเดีย” เป็นประเทศใหญ่แกนนำ “ที่ได้รับปัญหาจากการก่อการร้ายของชาวมุสลิม” ของโลก จนทำให้ชาวอินเดียบางสายไม่พอใจ เดี๋ยวจะงานเข้าประเทศ
... ทั้ง 3 ประเทศ “อิสราเอล อินเดีย ปากีสถาน” ล้วนเป็นประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ครอบครองในจำนวนมาก แต่ในสายตาชาวมุสลิม เช่นกลุ่ม JeM ที่มีฐานปฏิบัติการในปากีสถาน มีความใกล้ชิดกับ “อัลกออิดะห์” ( ที่ก็แนบแน่นกับ อเมริกาละซาอุดิอาระเบีย ด้วย , อะไรจะเกิดขึ้นถ้าสมมุติมีผู้ก่อการร้ายบางกลุ่มเป็นทหารรับจ้างของพ่อค้าอาวุธเสียเองในหลายกลุ่มในอดีต ) ที่เป็นต้นเหตุในการวางระเบิดรถขนเจ้าหน้าที่ของอินเดียในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2019 ที่ผ่านมา มองว่าพวกเขาต้องการปลดปล่อย “ชัมมูและกัศมีร์” รวมทั้งชาวมุสลิมอีก 180 คน ในอินเดียให้เป็นอิสระ
... ดังนั้น “สงครามอินเดียกับปากีสถาน” นั้นจะยังไม่จบง่ายๆ เพราะเชื้อไฟในอดีตนั้นมันรุนแรงเหลือเกิน และอ่อนไหวง่ายมากในการที่ประเทศที่ สาม สี่ ห้า เข้ามาแทรกแซงและหาผลประโยชน์จากความขัดแย้งดังกล่าวเพื่อค้าขายอาวุธสงครามราคาแพงขึ้นพวกเขาได้
.
... India is the largest buyer of Israeli military equipment and Israel is the second-largest defence supplier to India after Russia.[3] From 1999 to 2009, the military business between the two nations was worth around $9 billion.[4] Military and strategic ties between the two nations extend to intelligence sharing on terrorist groups and joint military training
…India is the largest buyer of Israeli military equipment and Israel is the second-largest defence supplier to India after Russia.[3] From 1999 to 2009, the military business between the two nations was worth around $9 billion.[4] Military and strategic ties between the two nations extend to intelligence sharing on terrorist groups and joint military training.[5][6]
… BJP is a right-wing party, and its policy has historically reflected Hindu-nationalist positions.[11][18] It has close ideological and organisational links to the Rashtriya Swayamsevak Sangh.
… For months, Israel has been assiduously lining itself up alongside India’s nationalist BJP government in an unspoken – and politically dangerous – “anti-Islamist” coalition, an unofficial, unacknowledged alliance, while India itself has now become the largest weapons market for the Israeli arms trade.
Not by chance, therefore, has the Indian press just trumpeted the fact that Israeli-made Rafael Spice-2000 “smart bombs” were used by the Indian air force in its strike against Jaish-e-Mohammed (JeM) “terrorists” inside Pakistan.

คลิก

คลิก

Cr.Jeerachart Jongsomchai

สนับสนุนข่าวโดย ICMarkets
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"