ตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายภาคเช้าวันที่ 7 ธันวาคม 2561 เพิ่มขึ้น 3.69 จุด หรือ +0.22% ดัชนีอยู่ที่ 1,657.42 จุด มูลค่าซื้อขาย 14,769.18 ล้านบาท หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
รัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนที่จะระงับการการซื้อสินค้าจำพวกอุปกรณ์เทคโนโลยี จากหัวเว่ย เทคโนโลยี่ และแซดทีอี ซึ่งเป็นสองบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการละเมิดกฎหมายความมั่นคง หลังจากที่ทางการสหรัฐและบางประเทศ
Wall Street Journal ฉบับวันนี้สรุปสองแฟคเตอร์ที่น่าจะเรียกได้ว่านี่คือการเปลี่ยนกระแสหรือเทรนด์อย่างแท้จริง อย่างแรกก็คือการที่จีนได้มีการขายทรัพย์สินเรียลเอสเตทในสหรัฐที่ตนถือครอง ซึ่งเกิดขึ้นมาได้เป็นไตรมาสที่สองติดต่อกันแล้ว
ที่จริง มาตรฐานการกู้เงินมันหละหลวมมาก เพราะเคยมีบางกรณีที่คนที่ไม่มีชีพจร ก็ยังกู้เงินจากแบ้งค์ได้อยู่เลย ...ใช่แล้ว ธนาคารหลายแห่งขาดความรับผิดชอบถึงขนาดปล่อยกู้ให้กับคนที่ตายแล้วได้ ..หรือให้กับคนที่มีประวัติทางการเงินที่เลวร้ายที่เคยชักดาบมาหลายๆรอบ
ทางการจีนเอาจริงกับประชาชนที่ค้างจ่ายภาษีมากขึ้น โดยยาแรงตัวล่าสุดที่นำมาใช้คือห้ามออกนอกประเทศ ถ้าหากยังไม่จ่ายภาษีจนครบ ทางการจีนเริ่มเอาจริงเอาจังกับบรรดาประชาชนที่ค้างจ่ายภาษี โดยมาตรการนี้ถือเป็นยาแรงสำหรับประชาชน
"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"