จีนประกาศจะเก็บภาษีเพิ่มที่อัตราร้อยละ 25 ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จำนวน 656 รายการ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อตอบโต้ต่อการตัดสินใจเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจนี้ได้กลายเป็นที่จับตาของสื่อทั่วโลก โดยมีนักวิเคราะห์และนักธุรกิจที่ออกมาแสดงความกังวลว่า การขึ้นภาษีอาจกลายเป็นภัยคุกคามต่อการลงทุน การจ้างงาน และเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมถึงภาวะเงินเฟ้อของดัชนีราคาผู้บริโภค
#ภาษีทำลายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
หนังสือพิมพ์เดอะวอชิงตันโพสต์ (The Washington Post) ได้ลงรายงานชิ้นหนึ่งที่ในหัวข้อว่า "ทรัมป์เริ่มบั่นทอนความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มีมานาน 25 ปีระหว่างสหรัฐฯ กับจีนด้วยอัตราภาษี"
รายงานชิ้นนี้ระบุว่า การตัดสินใจเก็บภาษีของทรัมป์เป็นมาตรการที่ "หาญกล้า" มากที่สุดเท่าที่เขาเคยทำมาในการปรับใช้นโยบาย "America First” ของเขา แต่แนวทางที่ก้าวร้าวของเขานี้ได้อทำให้บรรดาผู้นำองค์ของอเมริกาและพันธมิตรพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสต่างเป็นกังวล เพราะทางจีนไม่แสดงสัญญาณว่าจะยอมอ่อนข้อ
ราวหนึ่งชั่วโมงหลังจากทรัมป์ประกาศอัตราภาษีศุลกากรต่อจีน จีนก็ได้ประกาศภาษีศุลกากรต่อสินค้าทางการเกษตร รถยนต์ และพลังงานของสหรัฐฯ คาดว่าเป็นตั้งเป้าโจมตีกลุ่มเกษตรกรผู้สนับสนุนทรัมป์และกลุ่มผู้ส่งเสริมทรัมป์ในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นย่านอุตสาหกรรม
#สินค้าส่งออกของสหรัฐฯมูลค่า7หมื่นล้านดอลฯจะได้รับผลกระทบในสัปดาห์แรกของเดือนก.ค.
เดอะฮิล (The Hill) สื่อชั้นนำด้านการเมืองของสหรัฐฯ ได้อ้างถึงกลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่ต่างทยอยออกมาแสดงความเป็นกังวลของตนเกี่ยวกับการตัดสินใจของทรัมป์ เช่น นางฮุน ควอช (Hun Quach) รองประธานฝ่ายการค้าระหว่างประเทศ สมาคมอุตสาหกรรมค้ากล่าวว่า หากแคนาดา เม็กซิโก สหภาพยุโรป และจีน ล้วนตั้งมั่นว่าจะกำหนดภาษีศุลกากรตอบโต้สหรัฐฯ พร้อมๆ กัน บรรดาร้านค้าปลีกอเมริกา เกษตรกร คนงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ และลูกจ้างชาวอเมริกันในห่วงโซ่มูลค่าโลกจะต้องเผชิญหน้ากับความเสี่ยง
ในสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคม มูลค่าการส่งออกของสหรัฐฯ ประมาณ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ จะได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ จอห์น เมอร์ฟีย์ (John Murphy) รองประธานอาวุโสด้านนโยบายต่างประเทศของหอการค้าสหรัฐฯ กล่าว
ตัวเลขมูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์นี้ ประกอบไปด้วย 3.4 หมื่นล้านเหรียญจากจีนและ 4 หมื่นล้านเหรียญจากแคนา ดาสหภาพยุโรป และประเทศอื่นๆ ที่กำหนดเพื่อตอบโต้อัตราการเก็บภาษีเหล็กที่ร้อยละ 25 และ อลูมิเนียมนำเข้าที่ร้อยละ 10 ของสหรัฐฯ
เกษตรกรที่กำลังจะโดนเล่นงานจากอัตราภาษีเองก็คงไม่ยอมอยู่เงียบๆ "สำหรับเกษตรกรชาวอเมริกัน นี่ไม่ใช่แค่ทฤษฎีอีกต่อไป มันเป็นสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ ไม่ใช่เรื่องของการเจรจาต่อรองอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นภาษีที่พวกเขาจะต้องเจอในชีวิตจริง " ไบรอัน คูห์ล ผู้อำนวยการองค์กรต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของเกษตรกร (Farmers for Free Trade) กล่าว
#การลงทุนและอัตราการได้งานตกอยู่ในความเสี่ยง
ยูเอสเอทูเดย์ (USA Today) หนังสือพิมพ์รายวันของสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวถึงความเสี่ยงอย่างยิ่งยวด ว่าการขึ้นภาษีของทรัมป์จะส่งผลกระทบให้เกิดการเก็บภาษีตอบโต้จากแคนาดา สหภาพยุโรป จีน และประเทศอื่นๆ ในบทความเรื่อง "ผู้บริโภคอยู่ตรงไหนในข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน? ตรงจุดล็อคเป้า”
หากความไม่ลงรอยกันระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่นๆ นั้นอยู่นอกเหนือการควบคุม ความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจและตลาดของนักลงทุนก็จะถูกทำลายอย่างรุนแรง และผลกระทบทางอ้อมนี้เองมีความสำคัญอย่างมาก
บทความนี้ยังกล่าวถึงคำพูดของ Michael Gapen หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารบาร์เคลย์ส (Barclays) ธนาคารสัญชาติอังกฤษ ว่าการเงินของสหรัฐฯ จะเลวร้ายลง หากการต่อสู้ทางการค้าทำให้เศรษฐกิจเกิดการชะลอตัว ธุรกิจหยุดการจ้างงาน หรือเริ่มปลดพนักงานออก ตลาดจะผันผวนอย่างมาก และผู้ประกอบการจะใช้เงินในบัญชีเงินฝากเพื่อการเกษียณอายุของพวกเขาในวิธีทางที่เป็นประโยชน์มากที่สุด
Cr.China Xinhua News
บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman