เมื่อตอนที่ 1 ผมได้เขียนเรื่อง Global Debt Bubble ที่เกิดจาก Central Bank ทั่วโลก โดยเฉพาะ Fed ECB BoE BoJ ที่พิมพ์เงินจำนวนมากขึ้นในระบบการเงิน จนเงินท่วมโลก (มันท่วมที่ไหนกัน ไม่เห็นมาถึงมือเราเลย)
และคงนโยบายอัตราดอกเบี้ยต่ำ บางแหล่งถึงขั้นติดลบ และดำเนินนโยบายเช่นนี้มากกว่า จนมาถึงวันนี้ ทำให้ทั้งโลก มีหนี้สินรวมกันมากถึง $ 223 ล้านล้าน และเป็นหนี้จากธนาคารกลางถึง $ 63 ล้านล้าน และจากการสำรวจผู้จัดการกองทุนทั่วโลกมีความเห็นว่า มูลค่าของพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ของเอกชนมีมูลค่าสูงเกินไปแล้ว
และมาถึงจุดที่นโยบายดอกเบี้ยอ้างอิงกำลังปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้มีผลกระทบที่รุนแรงกับราคาของพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้ ที่มีราคาหรือผลตอบแทนติดลบ และทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น
จากภาพจะเห็นต้นทุนของอัตราดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายกำลังปรับเพิ่มสูงขึ้น ส่วนในภาพคือ เฉพาะของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ที่ยังไม่รวมตราสารหนี้ของบริษัทเอกชน และภาระการชำระหนี้ของประชาชน
ซึ่งจะมีผลทำให้การจับจ่ายจะลดลง ดังนั้นเมื่อไม่มีทางให้เลือกมากนั้น นายโดนัน ดัก จึงต้องทำการลดภาษีของบริษัทเอกชน เพื่อเล็งผล 3 ประการคือ
- ให้บริษัทสามารถรับมือกับต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น
- หวังว่าบริษัทเอกชนจะขึ้นเงินเดือนกับโบนัส เพื่อเป็นการยกระดับรายได้ขึ้นทำให้สามารถกู้เงินเพื่อมาบริโภคได้มากขึ้น โดยลดภาษีจากบริษัทเพื่อมาเก็บภาษีจากประชาชนเพิ่มขึ้น
- หวังว่าจะดึงโรงงานกลับมาสหรัฐอเมริกาเพื่อมาเพิ่มการจ้างงานให้สูงขึ้น เพราะอัตราการว่างงานถึงจะต่ำในขณะนี้ แต่เป็นงานชั่วคราวเป็นส่วนใหญ่
แต่ในส่วนของตราสารทางการเงินกลับมีผลกระทบที่รุนแรงกำลังรออยู่
วันพรุ่งนี้จะมาเล่าให้อ่านกัน เพื่อจะได้เตรียมตัวกับผลกระทบที่กำลังจะตามมา
เพราะ.....
This is the crisis.
The greatest crisis in the history of mankind.
ทวีสุข ธรรมศักดิ์
ปล.เวลาเขียนพวกนี้ที่ไร..
จะมีพวกไร้ปัญญาแต่อยากเป็น กูรู้
ก็อปเอาไปสร้างภาพ แต่กลวงกลาง
ทำให้สะท้อนวุติภาวะ การอบรมสั่งสอนจากครอบครัว
และสถาบันการศึกษา
ดังนั้นจะก็อปก็กรุณาเอาไปให้หมด
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman