แผนลับลวงพรางปริศนาซ่อนเงื่อน Brexit กลายเป็นรหัสลับแดนสนธยาที่หมดหวัง ความอหังการของทุนสามานย์ เผด็จการ (เงิน) ยึดโลกเป็นใหญ่ ทำให้อังกฤษเปิดยุทธการความอำมหิตสายพันธุ์ฆ่าอมตะ ที่เหี้ยมกว่านี้ไม่มีในโลก และจะขอชั่วไม่สิ้นสุดแห่งกาลเวลา
• ท่ามกลางบรรยากาศความตึงเครียดทางทหาร การรบราฆ่าฟันระหว่างมวลมนุษย์ด้วยกันอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเช่นนี้ ประเทศที่ทำธุรกิจสงครามมาโดยตลอดอย่างสหรัฐอเมริกา หรือประเทศที่พยายามฟื้นฟูความล้มเหลวทางเศรษฐกิจของตนเองด้วยยุทธวิธีการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบที่เรียกว่า ลัทธิเคนเนเชียนทางทหาร (Military Keynesianism)
• เมื่อชีวิตบนโลกลิขิตได้ การตัดสินใจเพื่อพิชิตเป้าหมาย ในความพยายาม จุดไฟสงคราม เอาไว้ในพื้นที่ต่าง ๆ ในโลกนี้ เพื่ออาศัยสงครามแต่ละรูปแบบ เป็นตัวประคับประคองให้อยู่รอดปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องสนใจกับเลือดเนื้อ หยาดน้ำตา พร้อมสายฟ้าฟาดกระชากวิญญาณชีวิตของผู้บริสุทธิ์ ที่ไม่รู้เรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด พิฆาตสยบวิญญาณ
• ไม่ใช่แค่อสูรกายร้ายแห่งอเมริกา ยังมีพญามารในร่างเงาซาตานแห่งอังกฤษ พันธมิตรผู้ยืนหยัดเคียงบ่าเคียงไหล่ความเลวร้าย ที่พร้อมร่ายเวทมนต์เสน่หามนตราพิฆาตจ้าวทะเลทรายให้สยบคือ ซาอุดีอาระเบียและบริวาร
• นับจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ได้ตัดสินใจนำกำลังกองทัพพันธมิตรในตะวันออกกลางเข้าเล่นงาน โจมตีประเทศเล็กๆอย่างเยเมนตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2015 แม้จะเป็นการโจมตีที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเห็นได้ชัดเจน แถมนับวันจะก่อให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนระดับร้ายแรงเอามาก ๆ ถึงขั้นไม่ต่างไปจาก *อาชญากรสงคราม* เอาเลยก็ว่าได้
• เพราะสงครามเยเมน ที่ทำให้บริษัทผลิตอาวุธของอังกฤษ สามารถทำเงินรายได้ไม่น้อยกว่า 3.3 พันล้านปอนด์ หรือไม่ต่ำกว่า 4,120 ล้านดอลลาร์ นับแต่สงครามครั้งนี้อุบัติขึ้นมา ช่วยประคับประคองระบบเศรษฐกิจของอดีตนักล่าอาณานิคมรายนี้เอาไว้ได้มิใช่น้อย
• ที่หนักหนาสาหัสยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ในบรรดาอาวุธที่บริษัทอังกฤษได้ผลิตให้กับกองทัพซาอุดีอาระเบีย เอาไว้เข่นฆ่า ล้างผลาญ ทำลายเผ่าพันธุ์มนุษย์ในประเทศที่ได้ชื่อว่า *ยากจนที่สุดในโลก* อย่างเยเมนนั้น ประกอบไปด้วยอาวุธที่เรียกว่า Cluster Munitions หรือ Cluster Bombs หรือ ระเบิดพวง อันเป็นอาวุธที่รัฐบาลอังกฤษเอง ได้เคยร่วมลงนามไว้ในข้อตกลงที่เรียกว่า International Treaty Banning ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2012 ว่าเป็นอาวุธที่ไม่ควรนำมาใช้ หรือห้ามใช้ ในการทำสงครามใด ๆ ระหว่างมนุษย์อีกต่อไป
• แต่ด้วยเหตุเพราะ *หน้ามืด* ด้วยเหตุเพราะต้องการ *เอาตัวรอด* จากภาวะพิษเศรษฐกิจตกสะเก็ด รายได้ทรุด ฉุดดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไปทั่วทั้งโลก หรือไม่ อย่างไร ก็มิอาจทราบได้
• ตามหลักฐานที่องค์กรสิทธิมนุษยชน อย่าง Amnesty International and Human Rights Watch ได้นำเอามาเปิดเผยต่อสาธารณะในช่วงต้นปี ค.ศ. 2016 ตีพิมพ์อยู่ในสื่ออังกฤษอย่าง The Guardian แสดงให้เห็นค่อนข้างชัดเจนว่า บริษัทค้าอาวุธ-ยุทธภัณฑ์อังกฤษนี่เอง ที่เป็นผู้ผลิตระเบิดพวงให้กับกองทัพซาอุดีอาระเบีย เอาไปทิ้งใส่หัวกบาลพลเรือน เด็ก ผู้หญิง คนชรา ฯลฯ ในเยเมน จนจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายพุ่งขึ้นไปนับเป็นหมื่น ๆ แสน ๆ นั่นยังไม่รวมไปถึงจำนวนประชากรไม่ต่ำกว่า 18-19 ล้านราย ที่กำลังอดอยาก หิวโหย เพราะถูกกองทัพซาอุดีอาระเบียปิดล้อม
• แต่รัฐบาลอังกฤษแสดงความเพิกเฉยต่อสังคม ไม่ได้สนใจอาชญากรรมเหล่านี้เอาเลยเแม้แต่น้อย แม้อาชญกรรมที่ว่า กำลังส่งผลให้เป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดของมวลมนุษยชาติ ปรากฏอยู่ต่อหน้าต่อตาชาวโลก ณ ช่วงวินาทีนี้ก็ตาม
• การสร้างสงครามตัวแทน (Proxy War) ที่เยเมน กลายเป็นสิ่งที่ทำรายได้มหาศาลให้ประเทศอังกฤษ ปีละนับเป็นพัน ๆ ล้านดอลลาร์ แบบรํ่ารวย เงินทอง ไหลมาเทมา เช่นนี้นี่เอง ที่ทำให้บริษัทผลิตอาวุธในอังกฤษออกจะอึดอัด ขัดข้องใจอยู่ไม่น้อย
• เมื่อรัฐสภายุโรป ได้อาศัยข้อตกลงร่วมกันตามมติที่เรียกว่า Consolidated EU and National Arms Export Licensing Criteria ในเหล่าประเทศสมาชิกตั้งแต่ปี ค.ศ. 2008 มาใช้เป็นบรรทัดฐานในการกำหนดข้อห้ามไม่ให้ประเทศใด ๆ ในกลุ่มสหภาพยุโรป (EU) ส่งออกอาวุธไปขายให้กับรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ผู้ซึ่งนับวันยิ่งกระทำการในลักษณะที่อาจขัดกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law) หรือ IHL หนักขึ้นเรื่อย
• กฎที่ต้องจำให้ขึ้นใจ เมื่อโลกนี้ไม่มีสิ่งบังเอิญ อยู่ระหว่างข้อกำหนดห้ามส่งออกอาวุธให้รัฐบาลซาอุดีอาระเบียของสหภาพยุโรป เริ่มต้นบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2016
• อีก 4 เดือนหลังจากนั้น คือในวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 2016 บรรดาชาวอังกฤษซึ่งจะรวมไปถึงพวกพ่อค้าอาวุธ-ยุทธภัณฑ์ ด้วยหรือไม่ อย่างไร ก็แล้วแต่ ก็พร้อมใจไปลง *ประชามติ* ให้อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ตามกระบวนการที่รู้จักกันในนาม Brexit Referendum นั่นเอง
• ส่งผลให้ทุกวันนี้ อังกฤษก็ยังคงผลิตอาวุธขายรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ได้อย่างสะดวกโยธินต่อไปอีก ส่วนกองทัพซาอุดีอาระเบีย จะนำเอาอาวุธเหล่านี้ไปใช้แบบไหน อย่างไร ไปสร้างอาชญากรรม ไปละเมิดสิทธิแห่งความเป็นมนุษย์ มาก-น้อยขนาดไหน รัฐบาลอังกฤษก็ไม่คิดจะรู้ จะเห็น
• ขนาดรัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษ Sir Michael Fallon ยังออกมาเอาใจลูกค้า เพราะลูกค้าคือพระเจ้า พร้อมให้คำมั่นบริการหลังการขายไว้อีกต่างหาก ด้วยการประกาศว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย มีสิทธิที่จะทำอะไรก็ตามเพื่อ ป้องกันตัวเอง ในสงครามเยเมน
• ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลาง นักวิเคราะห์แห่งสำนักข่าว MintPress News และผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบัน Beirut Center for Middle Eastern Studies อย่าง Catherine Shakdam กลับเห็นไปทางตรงกันข้าม คือเห็นว่า การทำอะไรก็ตามของรัฐบาลซาอุดีอาระเบียในเยเมนนั้นคือ การกระทำที่ไม่เพียงแต่ละเมิดกฎหมายอธิปไตยระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ
• การทิ้งระเบิดปูพรม การสกัดกั้นความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมของนานาชาติ เพื่อกดดันชาวเยเมนนับสิบ ๆ ล้านให้ขาดอาหาร ขาดน้ำดื่ม ขาดยารักษาโรค ฯลฯ ชนิดเด็ก ๆ ชาวเยเมนอายุต่ำกว่า 5 ขวบ ต้องล้มตายกันในทุกๆ 10 นาที จนกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งร้ายแรงที่สุดของมวลมนุษยชาตินั้น คือ อาชญากรรม เราดี ๆ นี่เอง
• แต่สำหรับคำถามที่ว่า เหตุใดรัฐบาลที่เชิดชูประชาธิปไตยชนิดถือเป็นแม่แบบระดับโลก เอ่ยอ้างถึงสิทธิมนุษยชนแบบคำต่อคำมาโดยตลอด อย่างรัฐบาลอังกฤษ ถึงยังพยายามออกแรงสนับสนุนอาชญากรคนย่ำคน แบบมิจฉาทิฏฐิ เห็นผิดเป็นชอบ
• นาง Catherine Shakdam ได้ให้คำตอบในแบบตรงไป ตรงมาว่า ด้วยเหตุเพราะอังกฤษสามารถทำเงินรายได้ไม่รู้จะกี่พันต่อกี่พันล้านดอลลาร์จากสงครามเยเมนนั่นเอง ดังนั้นฉันไม่คิดว่า บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลอังกฤษจะรู้สึกแคร์อะไรมากมายกับเลือดเนื้อชาวเยเมนที่สูญเสียไป ไม่สนใจว่าเด็กผู้บริสุทธิ์จะล้มตายและขาดอาหารไปแล้วขนาดไหน เพราะตราบใดที่ริยาดห์ยังคงเซ็นเช็คสั่งซื้ออาวุธจากอังกฤษ รัฐบาลอังกฤษก็มีความสุขแล้ว
• จากการดำเนินนโยบายในแนวนี้ต่อไป อีกทั้ง Brexit ก็กลายเป็นช่องทางที่จะทำให้อังกฤษสามารถหารายได้จากวิธีนี้ได้คล่องขึ้น เนื่องจากสงครามคือ หนทางที่ดีที่สุด รวดเร็วที่สุด ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของอังกฤษมีโอกาสเงยหัวจากจุดต่ำสุด
• พวกเขาจึงไม่ได้สนใจอะไรอีกแล้ว ไม่ว่าสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตย หรือสิทธิมนุษยชน สิ่งที่พวกเขาสนใจมากที่สุดในขณะนี้ก็คือ จะหาทางทำเงินจากสงครามได้มากขนาดไหน เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงพยายามหาเหตุผลทุกอย่างมารองรับสงคราม พยายามทำให้สงครามคือ ความถูกต้อง หรือแม้แต่ถูกกฎหมาย
Credit : https://www.theguardian.com/world/cluster-bombs
Richard Whitt
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman