ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ผมว่าพวกเราหลายๆ คนอาจจะเพิ่งเคยได้รู้จัก ได้ยินชื่อแอปที่ชื่อว่า ติ๊กต็อก (Tik Tok) และผมเชื่อว่าพวกเราหลายคนน่าจะได้เป็นสมาชิกแอปนี้ไปแล้ว และเผลอๆ อาจจะติดใจเจ้าแอปนี้แล้วก็ได้ เอาจริงๆ Tik Tok นี่ถูกจริตคนไทย โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่เอามากๆ
เลย เพราะเน้นเรื่องวิดีโอสั้นๆ ให้เราสนุกกับการสร้างคอนเทนต์ ผ่านการเลียนแบบ ไม่ว่าจะการเต้น การแสดง การร้องเพลง ที่เจ้าแอปนี้ทำให้สนุกมากขึ้นไปอีกกับเครื่องมือที่ให้เราเลือกเพลง แต่งหน้า แต่งภาพ จนเราพอใจกับคอนเทนต์ของเรา
เมื่อ 2-3 ปีก่อน ผมเองยังนึกไม่ออกเลยว่าจะมีโซเชียลมีเดียอันไหนโค่นเฟซบุ๊กหรือยูทูบได้? แต่มาวันนี้ ผมว่า เฟซบุ๊ก ยูทูบ อินสตาแกรม ก็หนาวๆ แล้วเหมือนกัน และผมยังเชื่ออีกว่า Tik Tok จะเป็นอีกแพลตฟอร์มหนึ่งที่นักการตลาดจำเป็นที่จะต้องศึกษาและเริ่มเอามาใช้งานกับตัวสินค้าและบริการของท่าน เพราะเทคนิคในการทำโฆษณาก็จะต่างจากแพลตฟอร์มอื่นๆ และด้วยความที่เป็นคอนเทนต์วิดีโอสั้นๆ และ Engage คนได้มาก
ผมเชื่อว่าแอปนี้อาจจะเหมาะกับการสร้าง Brand Awareness หรือ Brand Engagement โดยเฉพาะหากท่านต้องการฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่เป็นวัยรุ่นและ Gen Z นะครับ เพราะท็อปๆ Tiktokers ก็ประมาณ Gen เหล่านี้ ส่วนประเภทแบรนด์สินค้าที่เหมาะสมสำหรับการปรับใช้ Tiktokers ควรเป็นสินค้าที่มีความหลากหลายของเนื้อหาที่จะทำให้มีการครีเอตวิดีโอง่ายและมีความหลากหลายเช่นกัน
เจ้าของ Tik Tok คือบริษัท ByteDance สัญชาติจีน เปิดตัวเมื่อปี 2549 ที่ตอนนี้มูลค่าบริษัทสูงถึง 1.1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 3 ล้านล้านบาท และอาจจะไปถึง 6 ล้านล้านบาท หลังจากที่ IPO ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ตอนนี้มีคนดาวน์โหลดแอป Tik Tok ไปแล้วกว่า 2,000 ล้านครั้ง กับอายุบริษัทเพียงแค่ 4 ปี Tik Tok ทำลายสถิติที่มียอดผู้ใช้งานถึง 500 ล้านคน ได้เร็วที่สุดภายในเวลาไม่ถึง 2 ปี เฟซบุ๊กยังใช้เวลากว่า 6 ปีเลย
ผู้บริหาร Tik Tok มีความตั้งใจที่จะให้แอปนี้เปิดตลาดโซเชียลมีเดียของจีนในต่างประเทศให้ได้ (ผมว่าโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา) วัตถุประสงค์ของแอปนี้ก็เพื่อให้ผู้ใช้ได้นำเสนอไอเดีย สร้างสรรค์ ความรู้ และช่วงเวลาความสุขของแต่ละคน ซึ่งเน้นไปในเรื่องของความบันเทิง หรือ Entertainment เป็นหลัก
อะไรที่ทำให้ผมรู้สึกว่า Tik Tok จะมาแรงมากๆ ก็คือ
ประการแรก อัตราการดาวน์โหลด อัตราการใช้งานต่อวัน จำนวนวิดีโอที่โพสต์ต่อวัน คือตัวเลขมันมหาศาลมาก และเกิดขึ้นมาได้เพียงแค่ปีกว่าๆ เท่านั้นเอง แสดงถึงศักยภาพของแพลตฟอร์มว่าถูกจริตคนใช้งานอย่างมาก
ประการที่สอง เทรนด์ของการที่ผู้บริโภคชอบภาพเคลื่อนไหว ดูคลิปวิดีโอ มากกว่าภาพนิ่ง และที่สำคัญเน้นความสั้น ง่าย จบไว อย่างจำนวนคนดูคลิปผ่านมือถือในแต่ละวัน น้องใหม่อย่าง Tik Tok ใช้เวลาเพียงปีกว่าๆ มีคนดูคลิปถึง 1,000 ล้านคลิปต่อวันแล้ว เท่ากับยูทูบเลยนะ
ประการที่สาม เทรนด์ที่คนอยากจะเป็นผู้สร้างคอนเทนต์เอง ที่ไม่ต้องใช้ต้นทุนสูง ไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องเป็นคนดัง
อีกอันคือ เทรนด์ที่คนทั่วๆ ไปอยากจะมีตัวตนบนโลกโซเชียล หรืออยากจะเป็น Influencer ว่ากันว่าตอนนี้ราคาต่อโพสต์ของ Influencer อยู่ระหว่าง 2-3 หมื่นบาท และแนวโน้มจะแพงขึ้นเรื่อยๆ
ขอส่งท้ายกับสถิติน่าสนใจมาให้พวกเราได้เปรียบเทียบดู
ต้องบอกก่อนว่าข้อมูลต่างๆ เก็บรวบรวมมาจากหลายแหล่งข้อมูลนะครับ หากคลาดเคลื่อนไปบ้างต้องขออภัย
ยังไงพวกเราก็ เปิดหู เปิดตา เปิดใจ กับเทคโนโลยีใหม่ๆ กันไว้นะครับ โลกเปลี่ยนแปลงทุกวัน มีอะไรที่พวกเราต้องเรียนรู้อยู่เสมอนะครับ หากเรายังอยากจะคุยกับลูกๆ หลานๆ รู้เรื่อง !
คอลัมน์ ชวนคิด ชวนคุย กับฐากร “หรือ Tik Tok จะโค่น Facebook?”
โดย ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการ กรุงศรี คอนซูมเมอร์
Source: Business Today
----------------------------------------------------------------------------
Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #uag #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex3d #forex4you