ตลาดหุ้นยุโรปในวันจันทร์ที่ 16 ธ.ค. ปิดในแดนลบ โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่น่าผิดหวัง หุ้นในกลุ่มสินค้าหรูหราที่พึ่งพิงตลาดจีน และราคาน้ำมันที่ลดลงซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยมีรายละเอียดสำคัญดังนี้:
ภาพรวมตลาดหุ้นยุโรป
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ (16 ธ.ค.) โดยลดลง 5.80 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 2,670.00 ดอลลาร์/ออนซ์ สาเหตุหลักมาจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่จะเกิดขึ้นในวันพุธนี้ (18 ธ.ค.) ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.25-4.50%
ตลาดหุ้นเอเชียเปิดผันผวนในวันนี้ (16 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนรอดูผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสำคัญในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ), ธนาคารกลางจีน (PBOC) และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบต่อทิศทางการลงทุนในระยะสั้น
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้ โดยคาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในลักษณะไซด์เวย์ (Sideway) เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่ชัดเจนในประเทศ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาปัจจัยสำคัญจากต่างประเทศ
ราคาทองคำวันนี้ (16 ธ.ค. 2567) ปรับลง 50 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดวานนี้ โดยทองรูปพรรณขายออกบาทละ 43,400 บาท ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของสมาคมค้าทองคำ หรือ Gold Traders Association เมื่อ 09.03 น.ที่ผ่านมา ทองคำแท่งมีราคารับซื้อในประเทศอยู่ที่บาทละ 42,800 บาท
"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"