ราคาบิตคอยน์และคริปโตเคอร์เรนซีมีการเคลื่อนไหวในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยบิตคอยน์ (BTC) เพิ่มขึ้น 3.29% มาอยู่ที่ 100,460.77 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,422,705.75 บาท ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในขณะนี้ สรุปราคาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี

เมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเนื่องจากแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นทำให้ทองคำสูญเสียความน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ปลอดดอกเบี้ย ส่งผลให้ราคาสัญญาทองคำตลาด COMEX

ตลาดหุ้นนิวยอร์กในวันศุกร์ที่ 6 ธ.ค. แสดงความเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน โดย ดัชนีดาวโจนส์ ปิดลดลง 0.28% เนื่องจากแรงกดดันจากหุ้นกลุ่มประกันสุขภาพ โดยเฉพาะหุ้น UnitedHealth Group ที่ร่วงลงถึง 5.1% หลังเกิดเหตุการณ์ที่ CEO ของหน่วยประกันสุขภาพถูกยิงเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500

ราคาบิตคอยน์ (BTC) วันนี้ (6 ธ.ค. 2567) ปรับตัวลดลง 1.89% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 97,161 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 3,313,189.33 บาท ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแปลง 1.32% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สำหรับสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ: Ethereum (ETH): ลดลง 0.82% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สัญญาทองคำในตลาดนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันศุกร์ (6 ธ.ค.) เนื่องจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่สนับสนุน ได้แก่:

1. ข้อมูลการจ้างงานที่ชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
   แม้ว่าการจ้างงานในเดือนพ.ย.จะเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่ง (สูงกว่าคาดการณ์ที่ 202,000 ตำแหน่ง)

ราคาบิตคอยน์ (Bitcoin) วันนี้ (5 ธันวาคม 2567) มีการเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้น โดยปรับตัวขึ้น 2.98% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ราคาอยู่ที่ 98,856 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 3,385,818.03 บาท ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน ทั้งนี้ ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา ราคาบิตคอยน์มีการเปลี่ยนแปลงรวม 2.88%

เมื่อคืนที่ผ่านมา (5 ธ.ค.) สัญญาทองแดงตลาดนิวยอร์ก (COMEX) ปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยสัญญาส่งมอบเดือนมีนาคมปิดที่ระดับ 4.1925 ดอลลาร์/ปอนด์ ลดลง 0.90 เซนต์ หรือ -0.21% เนื่องจากนักลงทุนมีความระมัดระวังและรอดูข้อมูลตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้ เวลา 20.30 น. ตามเวลาไทย

จากการสุนทรพจน์ของเจอโรม พาวเวล (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในงาน New York Times DealBook Summit มีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจดังนี้:

1. เศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งกว่าที่คาด

เมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) ตลาดหุ้นนิวยอร์กเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยหลายด้าน ส่งผลให้ดัชนีหลักทั้งสามปิดในแดนลบ โดยสาเหตุสำคัญมาจากการร่วงลงของหุ้น UnitedHealth Group ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐฯ รวมถึงการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เผชิญแรงขายหลังจากราคาพุ่งสูงในวันก่อนหน้า

เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 ธ.ค.) ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่น โดย ดัชนีดาวโจนส์ (Dow Jones) ทำจุดสูงสุดใหม่ (New High) ปิดที่ 45,014.04 จุด เพิ่มขึ้น 308.51 จุด หรือ +0.69% ส่วน ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ก็ทำจุดสูงสุดใหม่เช่นกัน โดย S&P500 ปิดที่ 6,086.49 จุด (+0.61%)