สมาคมธนาคารไทยชี้แจงระบบโอนเงินระหว่างธนาคารขัดข้องช่วงเวลา 17:11 -18:00 น.วันนี้ เหตุธุรกรรมทะลัก เร่งโอนเงินคืนลูกค้าที่ถูกตัดบัญชี แต่ปลายทางยังไม่ได้รับเงินให้แล้วเสร็จเวลา 19.00 น. วันที่ 15 ต.ค.นี้

ในช่วงที่ผ่านมา เราได้เห็นถึงประเด็นราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเรื่องก๊าซธรรมชาติที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) และราคาน้ำมันดิบที่สูงสุดในรอบปี หรือแม้แต่ถ่านหินที่ขึ้นถึงประมาณ 240 ดอลลาร์ต่อตัน

แม้ล่าสุดภาครัฐ จะมีการประกาศ ผ่อนคลายมาตรการ การควบคุมไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 และเตรียมพร้อมเปิดประเทศ ในวันที่ 1พ.ย.นี้ เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาสู่ระดับปกติโดยเร็ว แต่ก็ปฏิเสธ ไม่ได้ว่าเศรษฐกิจไทย

นักวิเคราะห์เตือนทั่วโลกเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาวิกฤติขาดแคลนพลังงาน หลังจากที่ราคาพลังงาน ทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหินพุ่งทะยานทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

นายจอน คันลิฟฟ์ รองประธานฝ่ายความมั่นคงทางการเงินของธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศเตือนว่า สกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีอาจก่อให้เกิดหายนะทางการเงินทั่วโลกเทียบเท่ากับวิกฤตสินเชื่อซับไพรม์ (Subprime Mortgage Crisis) หากไม่มีการกำกับดูแลอย่างเข้มงวด

บทความนี้ ขอนำงานวิจัยล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ โดยโฟกัสไปที่ประเด็นอัตราเงินเฟ้อในยุคนี้ ว่ามีพัฒนาการต่างไปจากเดิมมากน้อยแค่ใด
หากไม่นับศึกช้างชนช้างคู่หยุดโลกระหว่างจีนกับสหรัฐแล้วนั้น ในปี 2565

นางอลิศรา มหาสันทนะ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงว่า การชักชวนให้ลงทุนซื้อขายเงินตราต่างประเทศหรือเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน (FOREX) โดยจะได้ผลตอบแทนที่ดี มักเป็นการหลอกลวง

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทไทยปรับตัวอ่อนค่าที่ระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับว่าสูงสุดในรอบ 4 ปี โดยมีแนวโน้มการอ่อนค่าต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา จากระดับ 32.2 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ระดับ 33.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

บริษัท แอสตราเซนเนกา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกา ที่ผลิตในไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนให้นำมาใช้ในภาวะฉุกเฉิน (EUL) โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) โลก

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ลงจากเดิมที่เมื่อเดือนก.ค.คาดว่าจะขยายตัว 6.0% เหลือเป็นขยายตัว 5.9% ขณะที่ยังคงตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีหน้าไว้ว่าจะขยายตัว 4.9%