การอนุมัติคำร้องของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2024 ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการลงทุนใน Bitcoin ในตลาดหลักทรัพย์ โดยการอนุมัติครั้งนี้อนุญาตให้ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) และ Chicago Board Options Exchange (CBOE)

กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ได้บรรลุจุดสำคัญด้านกระแสเงินสุทธิรวมทะลุ 20,000 ล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก แม้ว่าราคา Bitcoin จะยังคงอยู่ในแนวโน้มขาลงยาวนานถึง 7 เดือนก็ตาม โดยใช้เวลาเพียง 10 เดือนในการทำสถิตินี้ นับเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกถึงความสนใจของนักลงทุนต่อ Bitcoin ETF

คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้กล่าวในวันที่ 18 ตุลาคม เกี่ยวกับบทบาทของ Stablecoin ในระบบการเงิน โดยวอลเลอร์เชื่อว่า Stablecoins ที่ได้รับการควบคุมอย่างดีอาจเป็นประโยชน์ต่อระบบการเงินในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถลดความจำเป็นในการมีตัวกลางในการชำระเงิน

ราคาบิตคอยน์ (BTC) ณ วันที่ 18 ตุลาคม 2567 ปรับลดลง -0.46% ในช่วง 24 ชั่วโมง โดยมีราคาอยู่ที่ 67,320 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,235,024 บาท) นอกจากนี้ ราคาบิตคอยน์มีการเปลี่ยนแปลง 11.86% ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา

BlackRock กำลังผลักดันการใช้ money-market digital token ของตนเป็นหลักประกันในการซื้อขายอนุพันธ์สกุลเงินดิจิทัล โดย Bloomberg รายงานเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2024 ว่าบริษัทอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อให้โทเค็น BlackRock USD Institutional Digital Liquidity Fund (BUIDL)

เช้าวันนี้ (18 ต.ค.) ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตัวอย่างไร้ทิศทาง เนื่องจากนักลงทุนกำลังจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของจีนและประเมินข้อมูลเงินเฟ้อของญี่ปุ่น

• ดัชนีนิกเกอิ ของญี่ปุ่นเปิดเพิ่มขึ้นที่ระดับ 39,092.47 จุด (+0.47%)

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2024 โดยได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นเน็ตฟลิกซ์และหุ้นเทคโนโลยีอื่น ๆ ส่งผลให้ดัชนีหลักทั้งสามปรับตัวสูงขึ้น:

• ดัชนี ดาวโจนส์ ปิดที่ 43,275.91 จุด เพิ่มขึ้น 36.86 จุด หรือ +0.09%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงตามที่ตลาดคาดหวัง ซึ่งช่วยกระตุ้นบรรยากาศการลงทุนและทำให้ตลาดหุ้นขยับเข้าใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สัญญาทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดบวกสูงขึ้นเหนือระดับ 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (18 ต.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งในสหรัฐฯ และการคาดการณ์นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันพฤหัสบดีที่ 17 ตุลาคม โดยปิดที่ระดับ 43,239.05 จุด เพิ่มขึ้น 161.35 จุด หรือ +0.37% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงนี้ การเพิ่มขึ้นดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ ที่สูงเกินความคาดหมาย ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง