แม้กระแส “ผ่อนคลายนโยบายการเงิน” จะเริ่มกลับมาเป็นคำที่ตลาดการเงินพูดถึงอีกครั้ง หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ส่งสัญญาณเริ่มอัดสภาพคล่องคืนระบบ แต่ฝั่ง Bitcoin (BTC) กลับไม่ได้รับแรงหนุนในระดับที่หลายคนคาดหวัง โดยข้อมูลจากตลาดออปชันชี้ชัดว่า
ผู้เล่นรายใหญ่ยังไม่มั่นใจว่าราคาจะวิ่งผ่านหลัก $100,000 ได้ในระยะสั้น
Fed คงดอกเบี้ยที่ 3.75% – พร้อมอัดสภาพคล่องผ่านการซื้อบอนด์อายุสั้น
ในการประชุม FOMC ล่าสุด Fed มีมติแบบ “ไม่เอกฉันท์” โดย
-
เสียงส่วนใหญ่เลือก คงดอกเบี้ยที่ 3.75%
-
ขณะที่กรรมการ 2 รายยังต้องการคงดอกเบี้ยสูงกว่า ที่ 4%
ประธาน Jerome Powell ใช้น้ำเสียงระมัดระวัง โดยชี้ถึงทั้ง
-
ความอ่อนแรงของตลาดแรงงาน
-
เงินเฟ้อที่ยังทรงตัวและไม่ลดเร็วอย่างหวัง
แต่สิ่งที่ทำให้ตลาดจับตาใกล้ชิดคือการประกาศว่า Fed จะกลับมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลอายุสั้น มูลค่าเริ่มต้นราว $40,000 ล้าน หลังงบดุลถูกลดลงจากจุดสูงสุดเกือบ $9 ล้านล้าน เหลือเพียง $6.6 ล้านล้านจากการทำ QT ต่อเนื่อง
การกลับมาซื้อบอนด์—หรือพูดง่าย ๆ ว่าฉีดเงินสดกลับเข้าสู่ระบบ—ช่วยหนุนทั้ง
-
สภาพคล่องในธนาคาร
-
การปล่อยสินเชื่อ
-
การลงทุนภาคธุรกิจ
-
การใช้จ่ายของผู้บริโภค
ซึ่งถือเป็นข่าวดีสำหรับตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ตอบสนองต่อ “ต้นทุนเงินที่ถูกลง” ได้รวดเร็วที่สุด
ตลาดออปชัน Bitcoin ส่งสัญญาณเย็นชา: โอกาสไม่ถึง $100K เดือน ม.ค. อยู่ที่ราว 70%
ขณะที่นโยบายการเงินผ่อนคลายควรเป็นบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง Bitcoin แต่ตลาดอนุพันธ์กลับชี้ภาพตรงข้าม
ข้อมูลจากสัญญา Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ $100,000 ซึ่งจะหมดอายุ 30 มกราคม 2026 สะท้อนว่า
-
แบบจำลอง Black & Scholes ให้น้ำหนัก ราว 70% ที่ BTC จะ ปิดไม่ถึง หรืออยู่เท่ากับ $100K
-
ค่า Premium ปัจจุบันอยู่เพียง $3,440 ต่อสัญญา
-
ลดลงแรงเมื่อเทียบกับ 1 เดือนก่อนหน้าที่ราคาพรีเมียมเคยสูงถึง $12,700
นั่นหมายความว่า ตลาดกำลัง ลดราคาความหวัง ต่อการพุ่งทะลุ $100K ในระยะสั้นอย่างชัดเจน แม้โอกาส Upside จะยังเปิดอยู่แบบไม่จำกัดก็ตาม
นอกจากนี้ วันหมดอายุดังกล่าวยังตรงกับ 2 วันหลังการประชุม FOMC รอบถัดไป (28 ม.ค.) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวแปรหลัก โดย CME FedWatch ชี้ว่าโอกาสที่ Fed ลดดอกเบี้ยในเดือนนั้นอยู่เพียง 24% เท่านั้น ขณะข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ชัดจากปัญหาปิดหน่วยงานรัฐในเดือนพฤศจิกายน
ทำไมเงินไม่ไหลเข้า Bitcoin? – หุ้นยังเป็นตัวเลือกแรกของนักลงทุน
แม้สภาพคล่อง Fed จะเป็นบวกต่อตลาดเสี่ยง แต่ หุ้นสหรัฐฯ ยังคงเป็นปลายทางของเงินทุน มากกว่า Bitcoin
ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา
-
ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 5 ปี ลดลงจาก 4.10% → 3.72%
-
แต่ดัชนี S&P 500 กลับพุ่งขึ้นกว่า 13%
ผู้เล่นสถาบันจำนวนมากยังมองว่า
-
Bitcoin ยังไม่ใช่ตัวเก็บมูลค่าหลัก เทียบเท่าสินทรัพย์เดิม
-
และในมุมสินทรัพย์ปลอดภัย BTC ก็ยัง แพ้ทองคำ ที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
กล่าวอีกอย่างคือ เงินที่หมุนออกจากบอนด์ ไม่ได้ถูกส่งเข้าคริปโตโดยตรง อย่างที่หลายคนคาด
อะไรจะเป็น “ตัวจุดไฟ” ให้รอบบูล Bitcoin กลับมา?
หนึ่งในสัญญาณที่กำลังถูกจับตาคือ
ต้นทุนซื้อประกันความเสี่ยงผิดนัดชำระ (default protection) ของหุ้นเทค–AI ที่เริ่มขยับสูงขึ้น
หากค่าประกันความเสี่ยงในกลุ่ม Tech/AI แพงขึ้นมาก
-
นักลงทุนอาจลดการถือหุ้นเทคเพื่อลดความเสี่ยงด้านเครดิต
-
เงินบางส่วนอาจไหลกลับไปหาสินทรัพย์เสี่ยงอีกแบบ เช่น Bitcoin
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังถือเป็นเพียง สมมติฐานเชิงกลยุทธ์ มากกว่าจะเป็นสัญญาณที่เกิดขึ้นแล้วจริง
ตลาดยังต้องการความชัดเจนมากกว่านี้ เช่น
-
เศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่ถดถอยลึก
-
เงินเฟ้อกลับเข้ากรอบเป้าหมาย
-
ความต้องการถือ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจริงจังขึ้น
Cr.cointelegraph
-----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you























