BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เดินหน้ารุกตลาดคริปโตต่อเนื่อง ล่าสุดได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล Form S-1 ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เพื่อขอจดทะเบียนกองทุน iShares Staked Ethereum Trust ETF (ETHB)
บนกระดาน Nasdaq หากได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการ
กองทุนใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับทั้ง การอิงราคาของ Ether (ETH) และ ผลตอบแทนจากการนำ ETH ไป Stake บนเครือข่าย Ethereum โดยที่นักลงทุนไม่จำเป็นต้องบริหาร Validator หรือจัดการความเสี่ยงด้านเทคนิคด้วยตนเอง
iShares Staked Ethereum Trust ETF คืออะไร?
จากเอกสาร S-1 ระบุว่า ETHB จะเป็นกองทรัสต์ที่ถือ Ether เป็นสินทรัพย์หลัก และนำ 70–90% ของ ETH ที่ถืออยู่ไป Stake เพื่อรับรางวัลจากเครือข่าย Ethereum โดยยังคงบริหารสภาพคล่องให้เพียงพอต่อการไถ่ถอนในตลาดรอง
จุดเด่นของ ETHB
-
เปิดทางให้นักลงทุนสถาบันเข้าถึงผลตอบแทนจากการ Stake ผ่านโครงสร้างกองทุน ETF
-
ลดความซับซ้อนด้านเทคนิค เช่น การรัน Node, การบริหารคีย์ หรือ Slashing Risk
-
บริหารจัดการโดยผู้ดูแลสินทรัพย์ (custodian) และผู้ให้บริการ staking ภายใต้กรอบกฎหมายสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม การยื่น S-1 เป็นเพียงจุดเริ่มต้น และยังต้องรอการตรวจสอบจาก SEC ก่อนตัดสินใจอนุมัติ
Staked Crypto ETF เริ่มร้อนแรง แต่ยังมีไม่มาก
หลังการอนุมัติ Spot Ether ETF ในปี 2024 ตลาดสินทรัพย์ฝั่ง Ethereum ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้น แต่กองทุนที่มีโครงสร้าง staking ยังถือว่าหายาก ตัวอย่างเช่น:
-
Grayscale เพิ่มฟังก์ชัน staking ให้ Spot ETH Trust
-
Bitwise และ Grayscale ออกผลิตภัณฑ์ staking ที่อิง Solana
-
Canary Capital ยื่นกองทุน staking สำหรับเหรียญ Injective
การที่ BlackRock เจ้าของ iShares Bitcoin Trust (IBIT) ซึ่งเป็น Bitcoin ETF ใหญ่ที่สุดในโลก ก้าวเข้ามาลุยตลาด Staked ETH ETF จึงถูกมองว่าเป็น ยุทธศาสตร์สำคัญของการแข่งขันฝั่งสถาบัน
Larry Fink เปลี่ยนมุมมองต่อคริปโตอย่างมีนัยสำคัญ
Larry Fink ซีอีโอ BlackRock เคยวิจารณ์ Bitcoin ก่อนปี 2017 ว่าสะท้อน “ดีมานด์ของการฟอกเงิน” แต่เมื่อโครงสร้างตลาดเริ่มพัฒนา เขาได้ปรับท่าที โดย…
-
ผลักดัน iShares Bitcoin Trust (IBIT) จนกลายเป็น Bitcoin ETF ใหญ่ที่สุด
-
เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ฝั่ง Ethereum ทั้ง Spot ETH ETF (ETHA) และล่าสุด ETHB
เขาระบุบนเวที DealBook Summit ว่า Bitcoin คือ “สินทรัพย์แห่งความกลัว (asset of fear)” ที่ผู้คนเลือกถือในช่วงเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์ไม่แน่นอน แต่เตือนว่าหากใช้เพื่อเก็งกำไรระยะสั้น ต้องยอมรับความผันผวนสูง
ความหมายของ Staked ETH ETF ต่อ Ethereum และตลาดคริปโต
หาก ETHB ได้ไฟเขียวจาก SEC ผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ได้แก่:
1. Demand ต่อ Ether เพิ่มขึ้น
เพราะกองทุนจำเป็นต้องถือ ETH จริงเพื่อ Stake ส่งผลให้เงินทุนจากฝั่งสถาบันไหลเข้าตลาดมากขึ้น
2. ยกระดับภาพลักษณ์ของ Staking ให้สถาบันยอมรับ
จากกิจกรรมที่เคยเป็นของนักลงทุนสายเทคนิค กลายเป็นสินทรัพย์ที่มี custodian, auditor และ disclosure ครบถ้วน
3. แข่งขันโดยตรงกับผลิตภัณฑ์ Yield ในตลาดดั้งเดิม
ผลตอบแทนจากการ Stake ETH อาจถูกนำไปเทียบกับพันธบัตร กองทุนตลาดเงิน และตราสารหนี้ต่าง ๆ ในระบบ TradFi
Cr.cointelegraph
-----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you























