Larry Fink ประธานและซีอีโอของ BlackRock ผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดเผยในงาน The New York Times DealBook Summit ว่ามุมมองของเขาที่มีต่อ Bitcoin ได้ “เปลี่ยนไปอย่างมาก” ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา จากสินทรัพย์ที่เคยมองว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน
สู่การเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์การลงทุนสำคัญภายใต้บริษัทของเขา
จากภาพลบสู่การสร้าง Spot Bitcoin ETF รายใหญ่ของโลก
ย้อนกลับไปปี 2017 Fink เคยให้สัมภาษณ์ว่าการเติบโตของ Bitcoin “สะท้อนความต้องการฟอกเงินในโลกนี้” ทำให้ภาพจำของเขาต่อคริปโตในเวลานั้นเป็นเชิงลบอย่างชัดเจน
แต่ท่าทีดังกล่าวเปลี่ยนไปหลัง BlackRock เริ่มศึกษาเทคโนโลยีสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างจริงจัง จนปี 2024 บริษัทได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต. สหรัฐ ให้เปิดตัว Spot Bitcoin ETF ในนาม
iShares Bitcoin Trust (IBIT)
ซึ่งเคยมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) สูงถึงราว 70,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นหนึ่งในกองทุน Bitcoin ETF ที่ใหญ่ที่สุดของโลก
Fink ระบุบนเวทีว่า มุมมองของเขาต่อ Bitcoin “วิวัฒนาการมาตลอดเวลา” และการที่ BlackRock เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดคริปโต สะท้อนชัดว่าบริษัทไม่ได้มอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์เชิงอาชญากรรมอีกต่อไป
Bitcoin: “สินทรัพย์แห่งความกลัว”
แม้ท่าทีโดยรวมจะเป็นบวกขึ้น แต่ Fink ย้ำว่า Bitcoin ไม่ใช่สินทรัพย์ที่ควรมองแบบขาวหรือดำ เขาเรียก Bitcoin ว่าเป็น
“asset of fear” หรือ สินทรัพย์แห่งความกลัว
หมายถึงสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปถือในช่วงที่:
-
วิตกต่อสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์
-
ไม่มั่นใจในเศรษฐกิจโลก
-
กังวลเรื่องเงินเฟ้อและการพิมพ์เงิน
Fink ชี้ว่า Bitcoin มักปรับขึ้นในช่วงข่าวลบทั่วโลก และอ่อนลงเมื่อมีความหวังด้านภูมิรัฐศาสตร์ เช่น การเจรจาการค้าสหรัฐ–จีน หรือโอกาสยุติสงครามยูเครน ส่งผลให้ Bitcoin ยังคงถูกใช้เป็นสินทรัพย์หลบความเสี่ยงมากกว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่เสถียรในทุกสภาวะตลาด
เขายังเตือนนักลงทุนที่มอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์เก็งกำไรระยะสั้นว่า
ราคาผันผวนสูงมาก และต้อง “แม่นจังหวะตลาด” ซึ่งเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำได้ยาก
จากคำพูดเมื่อปี 2017 ถึงยุค IBIT แตะ 7 หมื่นล้านดอลลาร์
การที่ BlackRock วันนี้กลายเป็นผู้นำในตลาด Bitcoin ETF เป็นหลักฐานชัดเจนถึงการเปลี่ยนท่าทีของสถาบันการเงินสาย Traditional Finance ที่เคยสงสัยในคริปโต
-
นักลงทุนสถาบันเริ่มเข้าถึง Bitcoin ผ่านผลิตภัณฑ์ภายใต้กรอบกำกับดูแล
-
Bitcoin ถูกนำเสนอในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงมากขึ้น
-
ภาพลักษณ์ที่เคยถูกโจมตีในอดีตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
แม้ IBIT เจอแรงไหลออก BlackRock ยังเชื่อในบทบาทระยะยาว
อย่างไรก็ดี ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา IBIT เผชิญแรงไหลออกสุทธิราว 2.3 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการถอนเงินก้อนใหญ่ เช่น
-
วันที่ 14 พฤศจิกายน ประมาณ 463 ล้านดอลลาร์
-
วันที่ 18 พฤศจิกายน ประมาณ 523 ล้านดอลลาร์
แต่ผู้บริหาร BlackRock ยืนยันว่า การหมุนเวียนเงินเข้าออกเป็นเรื่องปกติในช่วงที่ตลาดผันผวน โดยเฉพาะสินทรัพย์เสี่ยง และย้ำว่า ETF ยังคงเป็นเครื่องมือการลงทุนที่ทรงพลัง มีสภาพคล่องสูง และมีบทบาทสำคัญต่อการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาว
Cr.cointelegraph
-----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you























