บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ IBM (NYSE: IBM) ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในโลก Quantum Computing ภายในงาน Quantum Developer Conference ที่นครนิวยอร์ก พร้อมตั้งเป้าบรรลุ Quantum Advantage หรือ “จุดที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมเหนือกว่า
ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วไป” ภายในปี 2026 และพัฒนาระบบ Fault-Tolerant Quantum Computer ที่สามารถตรวจจับและแก้ไขข้อผิดพลาดอัตโนมัติได้จริง ภายในปี 2029
Quantum Advantage คืออะไร?
Quantum Advantage คือจุดที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถแก้ปัญหาที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทั่วไปไม่สามารถทำได้ หรือทำได้แต่ช้ากว่ามาก ซึ่งถือเป็น “เส้นชัยแรก” ของการแข่งขันเทคโนโลยีควอนตัมในยุคใหม่ โดย IBM มั่นใจว่าชิปใหม่ของบริษัทจะเป็นหัวใจหลักของการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้
เปิดตัวชิป “Nighthawk” และ “Loon”
IBM เผยโฉมชิป “Nighthawk” ซึ่งได้รับการออกแบบให้รันวงจรที่ซับซ้อนได้มากขึ้นกว่าเดิมกว่า 30% ขณะยังคงอัตราความผิดพลาดในระดับต่ำ ส่วนชิปต้นแบบรุ่นใหม่ “Loon” ถือเป็นก้าวแรกสู่การสร้าง Fault-Tolerant Quantum Computer ที่สามารถตรวจจับและแก้ไขข้อผิดพลาดแบบ real-time ได้จริง
บริษัทระบุว่า ระบบตรวจจับข้อผิดพลาดรุ่นล่าสุดมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน และสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้เร็วกว่ากำหนดถึง 1 ปีเต็ม นอกจากนี้ IBM ยังย้ายสายการผลิตไปยังโรงงาน 300 มิลลิเมตรที่นิวยอร์ก เพื่อเร่งความเร็วการพัฒนา Quantum Chip ให้ได้มากขึ้นเป็นเท่าตัว
Quantum Computing กับภัยคุกคามต่อ Bitcoin
แม้เทคโนโลยีควอนตัมยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่วงการคริปโตเริ่มแสดงความกังวลว่า คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจ “ถอดรหัส” ระบบความปลอดภัยของ Bitcoin และ Blockchain ได้ในอนาคต โดยเฉพาะระบบที่ใช้กลไก Proof-of-Work (PoW)
Amit Mehra นักลงทุนจาก Borderless Capital เตือนว่า ภายในสิ้นทศวรรษนี้ Quantum Computing อาจเริ่มส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของ Bitcoin และนี่คือเหตุผลที่บริษัทของเขาลงทุนในสตาร์ทอัพด้าน Quantum-Resistant Encryption หรือ “การเข้ารหัสต้านควอนตัม”
ขณะเดียวกัน Charles Edwards ผู้ก่อตั้งกองทุน Carpriole กล่าวผ่าน X (Twitter เดิม) ว่า
“ถ้า Bitcoin ยังไม่แก้ปัญหา Quantum ภายในปีหน้า ทองคำ (Gold) จะยังคงชนะไปตลอดกาล”
ส่วน Gianluca Di Bella นักวิจัยด้านสัญญาอัจฉริยะ ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า อุตสาหกรรมควรเร่งเปลี่ยนมาใช้ระบบ Post-Quantum Encryption ตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อป้องกันการโจมตีแบบ “Harvest Now, Decrypt Later” — การขโมยข้อมูลในวันนี้เพื่อรอถอดรหัสเมื่อ Quantum Computer พร้อมใช้งานจริง
นักวิเคราะห์ชื่อดัง Willy Woo ยังแนะนำผู้ถือ Bitcoin ให้ป้องกันความเสี่ยงเบื้องต้นโดย
“ย้ายเหรียญไปยังที่อยู่แบบ SegWit-Compatible Address และถือไว้จนกว่าจะมีมาตรการป้องกัน Quantum อย่างเป็นทางการ”
มุมมองต่ออนาคต: โอกาสและความเสี่ยง
ความก้าวหน้าของ IBM ครั้งนี้ถือเป็น “สัญญาณเริ่มต้นของยุคควอนตัม” อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะพลิกโฉมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ทั่วโลก แต่อีกด้านหนึ่งก็สร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับวงการ Crypto และ Blockchain ที่ต้องเร่งปรับตัว เพราะหาก Quantum Computing สามารถถอดรหัสได้จริง ระบบความปลอดภัยของ Bitcoin, Ethereum และเครือข่ายอื่น ๆ อาจต้องถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เชื่อว่า เทคโนโลยี Quantum-Resistant อย่าง Lattice-Based Cryptography กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และจะพร้อมรับมือก่อนที่ Quantum Computer จะทรงพลังถึงขั้นคุกคามเครือข่ายคริปโตได้จริง ซึ่งหมายความว่า Bitcoin ยังมีเวลาอีกหลายปีในการปรับระบบให้ปลอดภัยจากยุคควอนตัมที่กำลังจะมาถึง.
Cr.cointelegraph
-----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you























