วิกฤต “รัฐบาลปิดทำการ” (shutdown) ของสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อมาถึงสัปดาห์ที่สอง ไม่เพียงกระทบหน่วยงานราชการหลายแห่งเท่านั้น แต่ยังส่งแรงสั่นสะเทือนต่อกระบวนการร่าง “กฎหมายตลาดโครงสร้างคริปโต” ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาในสภาคองเกรส
แหล่งข่าวภายในระบุว่า การหยุดทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ (furlough) ทำให้กระบวนการให้คำแนะนำทางเทคนิคแก่สมาชิกรัฐสภาในการร่างกฎหมายต้องหยุดชะงัก ขณะที่คณะกรรมาธิการธนาคารวุฒิสภากำลังจัดทำร่างกฎหมายเพื่อกำหนดอำนาจกำกับดูแลคริปโตระหว่าง SEC และ CFTC อย่างชัดเจน ส่วนคณะกรรมาธิการเกษตรที่ดูแล CFTC ยังไม่เผยร่างฉบับของตนออกมา
“ตอนนี้นี่อาจเป็นอุปสรรคที่ร้ายแรงที่สุด เพราะเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานในภาระหน้าที่ได้”
— Kristin Smith, ประธาน Solana Policy Institute
แม้สถานการณ์จะสะดุด แต่ Smith เชื่อว่าสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภายังเดินหน้าหารือต่อเนื่อง แม้ในช่วง shutdown
ด้าน Ron Hammond หัวหน้าฝ่ายนโยบายของ Wintermute กล่าวว่าการลงมติของวุฒิสภาอาจต้องเลื่อนออกไป “shutdown ส่งผลต่อกรอบเวลาแน่นอน” เขาประเมินโอกาสผ่านกฎหมายภายในสิ้นปีนี้ไว้ที่ราว 60% และเตือนว่าหากสถานการณ์ยืดเยื้อเป็นเดือน ความน่าจะเป็นนั้นอาจลดลง
ทั้งนี้ กฎหมายฉบับของวุฒิสภาจะต้องรวมกับ Clarity Act ที่สภาผู้แทนฯ ผ่านไปเมื่อช่วงฤดูร้อน ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนต่างกัน Hammond ประเมินว่า หากวุฒิสภาสามารถจัดทำร่างได้ก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมปี 2026 โอกาสที่กฎหมายจะถูกประกาศใช้จะอยู่ที่ 80–90% แต่หากล่าช้าเกินฤดูใบไม้ผลิ โอกาสนั้นจะลดลงอย่างมาก
การเมืองกับผลกระทบต่อกฎหมายคริปโต
เมื่อการเลือกตั้งกลางเทอมปี 2026 ใกล้เข้ามา การคำนวณทางการเมืองอาจเปลี่ยน สมาชิกสภาอาจหันไปโฟกัสที่การหาเสียงมากกว่าการออกกฎหมาย
Rebecca Liao ผู้ร่วมก่อตั้ง Saga มองว่า shutdown ไม่น่าจะเปลี่ยนนโยบายคริปโตภายใต้รัฐบาลทรัมป์ เพราะเป็นเรื่องสำคัญเกินกว่าจะละเลย อย่างไรก็ตาม หากการปิดหน่วยงานยืดเยื้อ ก็อาจส่งผลกระทบต่อความคืบหน้าของกฎหมาย
ด้านพรรคเดโมแครตเริ่มกังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์กับวงการคริปโต โดย Bloomberg ประเมินว่า ครอบครัวทรัมป์ได้กำไรจากธุรกิจคริปโตราว 620 ล้านดอลลาร์ และถือหุ้น 20% ในบริษัทขุด Bitcoin ซึ่งอาจกลายเป็นประเด็นหาเสียงที่พรรคเดโมแครตหยิบมาใช้โจมตีได้
ประเด็นถกเถียงและอุปสรรคที่เหลือ
ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การออกกฎหมายตลาดโครงสร้างคริปโตมีความซับซ้อนมากกว่าการผ่านกฎหมาย stablecoin (GENIUS Act) เมื่อปีที่แล้ว
หนึ่งในประเด็นถกเถียงคือคำจำกัดความของ “ancillary assets” ในร่างวุฒิสภาที่หลายฝ่ายมองว่ายังคลุมเครือ ขณะที่ภาคการเงินดั้งเดิม (TradFi) กำลังผลักดันให้ธนาคารสามารถให้บริการผลตอบแทน (yield) บน stablecoin ได้ ซึ่งไม่ถูกบรรจุใน GENIUS Act และกำลังถูกต่อต้านจากภาคคริปโต
Summer Mersinger ซีอีโอของ Blockchain Association กล่าวทิ้งท้ายว่า
“สิ่งสำคัญคือกฎหมายนี้ต้องถูกต้องและได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค เพราะสหรัฐฯ จำเป็นต้องมีกรอบกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต หากต้องการรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโลก”
Cr.theblock.
-----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you