ราคาของ Ethereum (ETH) พยายามไต่ทะลุด่านสำคัญที่ 4,800 ดอลลาร์ แต่ไม่สำเร็จในวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดแรงขายกดราคาลงราว 3% สู่ระดับประมาณ 4,500 ดอลลาร์ การย่อตัวครั้งนี้มาพร้อมกับสัญญาณ bearish divergence บนกราฟ 4 ชั่วโมง

ซึ่งมักสะท้อนว่าฝั่งผู้ซื้อเริ่มอ่อนแรง อาจเป็นการยืนยันจุดสูงสุดชั่วคราว หรือเตือนถึงการพักฐานระยะสั้น

สัญญาณผสมจากตลาด Spot และ Futures

ข้อมูล on-chain และ derivatives แสดงภาพที่ขัดแย้งกัน —

• Spot Cumulative Volume Delta (CVD) ลดลงชัดเจน บ่งชี้แรงขายรวมในตลาดสปอตเพิ่มขึ้น

• ขณะเดียวกัน open interest และ futures CVD ยังคงอยู่ในระดับสูง สะท้อนว่านักเทรดที่ใช้เลเวอเรจยังไม่ลดสถานะและรอจังหวะความผันผวน

สถานการณ์นี้ทำให้ตลาดอยู่ในภาวะ "รอจุดชี้ขาด" โดยมีโอกาสที่ liquidity sweep จะเกิดขึ้นบริเวณ 4,400 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนที่คาดว่ามีคำสั่ง stop loss สะสมอยู่จำนวนมาก หากราคาเด้งกลับอย่างแข็งแกร่งจากจุดนั้น อาจยืนยันการกลับตัวและเปิดทางให้แนวโน้มขาขึ้นรอบใหม่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้

แต่หาก ETH หลุดและไม่สามารถยืนเหนือโซน 4,400 ดอลลาร์ ได้ การปรับฐานอาจลากยาวลงไปถึง 4,250–4,100 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นบริเวณที่พบคำสั่งซื้อหนาแน่นบนกรอบเวลา 4 ชั่วโมงและ 1 วัน — จุดที่มักใช้เป็นฐานกลับตัวของนักลงทุนรายใหญ่

“Liquidity Lag” — Ether ช้ากว่าตลาดรวม

รายงานจาก XWIN Research ชี้ว่า แม้ มูลค่าเงิน M2 ของสหรัฐฯ จะขยายขึ้นแตะระดับ 22.2 ล้านล้านดอลลาร์ และ Bitcoin พุ่งขึ้นกว่า 130% ตั้งแต่ปี 2022 แต่ Ether กลับปรับขึ้นเพียงประมาณ 15% เท่านั้น ปรากฏการณ์นี้สะท้อนภาวะ “liquidity lag” หรือการที่ ETH ตามหลังกระแสสภาพคล่องของตลาด

อย่างไรก็ตาม สัญญาณ on-chain ล่าสุดเริ่มบ่งชี้ว่า ETH กำลังไล่ทัน —

• ปริมาณ ETH บนกระดานเทรดลดลงเหลือเพียง 16.1 ล้านเหรียญ ลดลงกว่า 25% จากปี 2022

• กระแสเงินไหลออกสุทธิ (net exchange flows) ยังคงติดลบ สะท้อนว่านักลงทุนทยอยถอนเหรียญไปเก็บเองหรือ stake มากขึ้น ทำให้เหรียญที่พร้อมขายในตลาดลดลงต่อเนื่อง

เทรดเดอร์ชื่อดัง Skew ระบุว่า การดีดขึ้นของ ETH ช่วงที่ผ่านมาเป็น “การแหย่แนวต้าน” 4,700–4,800 ดอลลาร์ ถึง 4 ครั้ง หากสามารถยืนเหนือโซนนี้ได้สำเร็จ จะเป็น “สัญญาณกลับใจของตลาด” ที่ชัดเจน แต่หากมีการปรับฐานลึกจนสร้าง higher low ใหม่ ก็อาจเป็นการวางรากฐานให้กับการขึ้นระลอกถัดไป