ประเทศจีนกับปัญหาเรื่องปริมาณหนี้ น่ากลัวสุดๆ จริงหรือไม่ ??

ก่อนอื่น เรามาลองดูโครงสร้างปริมาณหนี้สินของประเทศจีนกันคร่าวๆ ประเทศจีนมีหนี้รวมทั้งหมด 260% ต่อ จีดีพี โดยมีตัวเลขคร่าวๆ คือ มีหนี้รัฐบาลประมาณ 50% มีหนี้ภาคเอกชนประมาณ 168% ต่อจีดีพี

และมีหนี้ภาคครัวเรือนประมาณ 48% ต่อจีดีพี ดังนั้น หนี้ที่มีปัญหาคือหนี้ภาคเอกชนที่มีสูงถึง 168% ต่อจีดีพี ในขณะที่หนี้สินตัวอื่นๆ ยังอยู่ในสภาวะปลอดภัย

พฤติกรรมการใช้จ่ายเงินและการลงทุนของคนจีน กับหนี้ครัวเรือน 48% ต่อจีดีพี

แม้ตัวเลขหนี้ของประเทศจีนโดยรวมจะสูงจนอยู่ในระดับที่น่ากลัว แต่ตัวเลขอีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือตัวเลขของจำนวนเงินที่ถูกเก็บอยู่ในบัญชีธนาคารของทั้งประเทศจีน ที่มีตัวเลขเงินเก็บอยู่ถึง 23 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ หากเทียบกับจีดีพีของประเทศจีนที่มีปริมาณ 11 ล้านล้านเหรียญแล้ว ถือได้ว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีเงินฝากธนาคารสูงถึง 200% ต่อจีดีพี 

การที่มีเงินเก็บในธนาคาร แปลว่านั่นเป็นเงินที่เหลือจากการใช้จ่าย ที่ผ่านมา การบริโภคภายในประเทศจีนเติบโตอย่างมหาศาล อุตสาหกรรมต่างๆ เติบโต 10 - 30% นั่นแปลว่าบริษัทจีนภาพรวมมีรายได้เพิ่มขึ้น เมื่อมีรายได้เพิ่มขึ้น จึงมีความสามารถที่จะก่อหนี้มากขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว ดังนั้น หนี้ครัวเรือนที่ 48% ต่อจีดีพีจึงไม่ใช่ตัวเลขที่ก่อให้เกิดปัญหาแต่อย่างใด

นอกจากนี้ การเก็บเงินของคนจีนไม่ได้เก็บเงินเฉพาะในบัญชีธนาคารเท่านั้น แต่ด้วยค่านิยมของคนจีนที่นิยมทำมาค้าขาย และเห็นที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นความมั่นคงอย่างหนึ่งของชีวิต คนจีนจึงนิยมซื้อบ้าน ซื้อตึกแถว โดยเชื่อว่าในอนาคตมันจะมีราคาสูงขึ้น รวมไปถึงซื้อมาเพื่อขยายธุรกิจ หรือให้ลูกเอาไว้เป็นสินทรัพย์สำหรับแต่งงานอีกด้วย เพราะเหตุนี้ เมื่อเงินในประเทศจีนมีเยอะเต็มไปหมดเช่นนี้ ความต้องการซื้อในอุตสาหกรรมอสังหาจึงเติบโตเร็วมาก เราจึงเห็นตึกที่ทำการก่อสร้างแต่ยังไม่มีคนอยู่อาศัยเต็มไปหมด ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการเก็บเงินในอสังหาแทนการเก็บเงินในบัญชีธนาคารนั่นเอง

ธุรกิจ เทคโนโลยี และการจัดการทางการเงินยุคใหม่ในประเทศจีน

ด้วยนโยบายของประเทศจีนที่ต้องการขับเคลื่อนประเทศด้วยเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการเงิน สังคมไร้เงินสด พ่วงด้วยการเติบโตของธุรกิจโทรศัพท์มือถือและอินเตอร์เน็ตในประเทศจีน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับการใช้ชีวิตของคนจีนไปอย่างสิ้นเชิง 

คนจีนปัจจุบันนี้ เคยชินกับการซื้อของออนไลน์ คาดหวังกับการซื้อของและได้รับสินค้าภายใน 1 วัน เวลาชำระเงินก็ไม่ชำระเงินสด แต่ใช้ WeChat หรือ Alipay ในการจ่ายแทน จะทำธุรกรรมอะไรก็ไม่ต้องใช้เงินสดทั้งนั้น ทุกอย่างสามารถเชื่อมโยงกับการจ่ายเงินผ่าน WeChat และ Alipay ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะ Alipay นั้น คนจีนไม่ได้มองว่า Alipay เป็นแอปพลิเคชันสำหรับการชำระเงินอีกต่อไป แต่มองว่าเป็นแอปพลิเคชันที่ตอบสนองการใช้ชีวิตไปแล้ว 

เมื่อปัจจัยด้านเทคโนโลยี เชื่อมโยงเข้ากับพฤติกรรมการซื้อของออนไลน์และชำระเงินอันง่ายดาย ทั้งหมดนั้นก่อให้เกิดจำนวนครั้งที่ใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นโดยผู้ซื้อบางทีก็ไม่รู้ตัว เมื่อการหมุนของเงินในระบบหมุนเร็วขึ้นควบคู่กับการเติบโตของยอดขาย ทั้งหมดนั้นส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตแบบมัลติพลายมากขึ้น

หนี้ภาครัฐบาล

หนี้ภาครัฐบาลจีนอยู่ที่ประมาณ 50% ต่อจีดีพี และธนาคารกลางของจีน ยังไม่เคยใช้นโยบาย QE มาก่อน ในขณะที่หนี้ภาครัฐบาลของสหรัฐอยู่ที่ 105% ต่อจีดีพี หนี้ภาครัฐบาลญี่ปุ่น 253% ต่อจีดีพี หนี้ภาครัฐบาลของเขตยูโรโซน 86% ต่อจีดีพี และทั้งหมดในกลุ่ม G3 นี้ ต่างก็ทำ QE มาแล้วเป็นจำนวนมหาศาล 

ดังนั้น หากดูตัวเลขหนี้ภาครัฐบาลของจีนเมื่อเทียบกับกลุ่ม G3 ซึ่งล้วนแล้วแต่อยู่ในตะกร้าเงิน ซึ่งเป็น Reserve Currency ของโลกใบนี้ เราจะพบว่าสถานะทางการเงินของธนาคารกลางจีนนั้นยังห่างไกลจากคำว่าวิกฤตยิ่งนัก ยังไม่นับว่าประเทศจีนเป็นประเทศที่มีการสะสมทองคำมาตลอด จากการรายงานของ Bullionstar สิงคโปร์ รายงานการคาดการณ์เอาไว้ในปี 2017 ว่า ประเทศจีนในเวลานี้ น่าจะมีทองคำสะสมเอาไว้มากกว่า 20,000 ตันแล้ว

ด้วยเหตุนี้ หากเกิดเหตุการณ์ที่เศรษฐกิจจีนมีปัญหาในภาคเอกชน ธนาคารจีนนั้นมีศักยภาพเหลือเฟือที่จะเข้าช่วยเหลือ หรือแม้แต่หากประเทศใดเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ ประเทศจีนเองก็เป็นประเทศหนึ่งที่มีศักยภาพสูงมากที่จะเข้าให้ความช่วยเหลือแทนที่ IMF

หนี้ภาคเอกชน

ตอนนี้ความกังวลเกี่ยวกับหนี้นั้นพุ่งตรงเข้าสู่หนี้ภาคธุรกิจจีน ที่มีปริมาณสูงถึง 168% ต่อจีดีพี ถ้าถามว่าเรื่องนี้ถือว่ามีปัญหาไหม ก็ต้องตอบว่าเป็นปัญหาหนึ่งของรัฐบาลจีนในขณะนี้ นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประเทศจีนประกาศการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ เพื่อกลับมาตรวจสอบธุรกิจที่มีปัญหาในเรื่องของโครงสร้างหนี้ที่มีการกู้ยืมมากเกินไป 

เราได้เห็นการจัดการกับบริษัทที่รายได้ไม่ตอบสนองภาระหนี้ของรัฐบาลจีนที่ปล่อยให้บริษัทนั้นล้ม หรือบางบริษัทที่มีความสำคัญและมีศักยภาพ รัฐบาลจีนจะใช้วิธีการให้บริษัทใหญ่ เช่น บริษัท Tencent / Alibaba หรือ JD เป็นต้น เข้ามาให้ความช่วยเหลือทั้งในเรื่องของโครงสร้างการบริหารและโครงสร้างทางการเงิน 

อีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจคือ บริษัทใหญ่จำนวนมากของจีน จะมีรัฐบาล หรือรัฐบาลท้องถิ่น เข้าไปมีส่วนร่วมในการถือหุ้นด้วย ดังนั้นจึงสามารถพูดได้ว่า ประเทศจีน เป็นประเทศที่มี เจ้าหนี้ (ธนาคาร) และ ลูกหนี้ (บริษัท) เป็นคนกลุ่มเดียวกัน คือ รัฐบาลจีน ดังนั้น ในหลายๆ ครั้ง การจัดการหนี้สินเป็นเรื่องของการเคลื่อนย้ายเงินจากกระเป๋าซ้ายไปกระเป๋าขวา อย่างที่ครั้งหนึ่ง รัฐบาลจีนเคยแยกหนี้เสียออกมาจากหลายๆ บริษัทมารวมกัน และตั้งบริษัทมาดูแลหนี้เสียเหล่านี้ หลังจากระยะเวลาผ่านไป พอสถานการณ์ดีขึ้น บริษัทที่เคยมีปัญหาเหล่านี้ก็เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และหนี้ที่เคยเป็นหนี้เสียก็สามารถนำมาขายกลับเป็นหนี้ดีได้อีกครั้ง 

เพราะเหตุนี้ หนี้สินภาคเอกชนอาจจะเป็นปัญหาก็จริง ยิ่งในช่วงของดอกเบี้ยขาขึ้นเช่นนี้ หากปล่อยปละละเลยก็จะทำให้กลายเป็นผลเสียกับเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ในเมื่อรัฐบาลจีนได้ตระหนักถึงปัญหานี้และเข้ามาดูแลจัดการ รวมทั้งเมื่อพิจารณาถึงศักยภาพของธนาคารกลางจีนด้วยแล้ว หนี้ภาคเอกชนมีแนวโน้มที่จะได้รับการแก้ไขให้ปัญหาเบาบางลง มากกว่าที่ปัญหานี้จะก่อให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจในภายภาคหน้า 

สรุป

ถ้ามองตัวเลขปริมาณหนี้ในภาคส่วนต่างๆ เราจะเห็นได้ว่าส่วนที่มีปัญหามากที่สุดคือหนี้สินภาคเอกชน ซึ่งหากรัฐบาลจีนมองข้าม ละเลย ปัญหานี้ มันก็จะเป็นความเสี่ยงที่น่ากลัวของเศรษฐกิจจีน อย่างไรก็ตาม จากท่าทีของรัฐบาลจีนที่ประกาศครั้งแล้วครั้งเล่าว่าปัญหาเรื่องหนี้สินและความไม่มั่นคงทางการเงินของภาคเอกชนเป็นปัญหาที่รัฐบาลรับรู้ อยู่ในสายตา และกำลังแก้ไขปัญหานี้อยู่ หนี้สินที่สูงขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีน ดังนั้นเราจึงได้เห็นในสองสามปีที่ผ่านมานี้ รัฐบาลจีนประกาศว่าต้องการลดตัวเลขการเติบโตของ GDP ส่วนหนึ่งเพื่อควบคุมปริมาณหนี้สิน อีกส่วนหนึ่งก็เพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจกลายเป็นฟองสบู่ 

ดังนั้น เกี่ยวกับเรื่องหนี้สินของจีน หลายฝ่ายมองตรงกันว่ามันมีปัญหาในระบบเศรษฐกิจของจีน แต่เป็นปัญหาที่สามารถบริหารจัดการได้ และไม่ใช่ปัญหาที่น่ากลัวเหมือนอย่างที่สื่อฟากตะวันตกนำเสนอแต่อย่างใด

Mei

Credit : https://youtu.be/AzNjHYoCVKc

#China #Debt #MacroEconomics #Dinotech

Cr.DinoTech5.0

บทความสนับสนุนโดย FXPro
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b  
Line ID:@fxhanuman

170225DGS 5208 FX Hanuman Media Buying Banners 843150 TH    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

121224 ebc forex logo 100x33EBC

FCA ,ASIC, CYAMAN 1000 : 1 1.1 pips - STD
0 pips - Pro
$50 0.01 lots View Profile
Visit Website
020125 eightcap 100x33eightcap  ASIC, FCA, SCB, CySec  500 : 1
1.0 Pips -STD
0.0 Pips - Raw
1.0 Pips - TradingView
$20   0.01 lots

View Profile

Visits website

 

180225 logo fpmarkets 100x33

Fpmarkets

ASIC, CySec  500 : 1

ECN 0.0 Pips
Standard 1.0 Pips

$100 0.01 lots

View Profile

Visits website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"