จีนเดินหน้าผลักดันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เต็มกำลัง มีแนวโน้มก้าวขึ้นแท่นผู้นำด้านการผลิตชิปของโลกภายในปี 2030 แซงหน้าไต้หวันที่ครองตลาดมายาวนาน แม้อยู่ท่ามกลางข้อจำกัดจากมาตรการควบคุมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ และไต้หวันเอง
จีนขยายกำลังผลิตชิปต่อเนื่อง โตสวนกระแสแรงต้านจากตะวันตก
จากรายงานล่าสุดของ Yole Group ระบุว่า จีนกำลังเพิ่มส่วนแบ่งกำลังการผลิตชิปในตลาดโลกอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าภายในปี 2030 จีนจะถือครองกำลังการผลิตถึง 30% ของโลก เพิ่มขึ้นจาก 21% ในปี 2024 และแซงหน้าไต้หวันที่มีส่วนแบ่งปัจจุบันอยู่ที่ 23% ขณะที่เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ตามมาเป็นลำดับ
เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือการอัดฉีดงบมหาศาลจากรัฐบาลจีนผ่านกองทุนอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แห่งชาติ หรือ “Big Fund” ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนบริษัทภายในประเทศ เช่น SMIC และ Hua Hong Semiconductor ที่กลายเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนา
ในปี 2024 เพียงปีเดียว จีนสามารถเพิ่มกำลังการผลิตแผ่นเวเฟอร์ได้ถึง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีโรงงานใหม่ ๆ อย่างโรงงานขนาด 12 นิ้วของ Hua Hong ในเมืองอู๋ซี (Wuxi) เข้ามาเสริมศักยภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง
จีนเร่งพึ่งพาตนเอง หลังสหรัฐฯ-ไต้หวันคุมเข้มเทคโนโลยี
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะเมื่อไต้หวันประกาศควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีชิปขั้นสูงไปยังบริษัทจีนหลายแห่ง รวมถึง Huawei และ SMIC สอดรับกับมาตรการกีดกันของสหรัฐฯ ที่พยายามสกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน
ตามกฎใหม่ของไต้หวัน การส่งออกเทคโนโลยีระดับสูงไปยังบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำจะต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลก่อน ส่งผลให้จีนต้องพึ่งพาการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศอย่างจริงจัง เพื่อหลุดพ้นจากการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ
สั่นสะเทือนวงการ AI และคริปโตทั่วโลก
การพัฒนาขีดความสามารถด้านเซมิคอนดักเตอร์ของจีนไม่ได้ส่งผลเพียงด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังสะเทือนถึงวงการเทคโนโลยีขั้นสูงทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นปัญญาประดิษฐ์ (AI), Blockchain ไปจนถึงการขุด Bitcoin
หากจีนสามารถผลิตชิป AI และชิปสำหรับขุดคริปโตได้เองอย่างมีคุณภาพและต้นทุนต่ำ จะช่วยลดการพึ่งพาซัพพลายจากต่างประเทศ เสริมความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานในประเทศ และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันระดับโลก โดยเฉพาะในภาคคริปโตที่การควบคุมต้นทุนและพลังประมวลผลคือปัจจัยสำคัญในการอยู่รอด
แม้การขาดเทคโนโลยีชั้นนำจากไต้หวันจะเป็นความท้าทาย แต่บริษัทจีนอย่าง Huawei และ SMIC ก็เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง โดยเฉพาะชิป AI และเซมิคอนดักเตอร์ประสิทธิภาพสูง เพื่อสร้างอิสรภาพทางเทคโนโลยีและยกระดับประเทศสู่การเป็น “เจ้าตลาด” แห่งอนาคต
หากแนวโน้มยังเป็นเช่นนี้ต่อไป จีนอาจผงาดขึ้นเป็นขั้วอำนาจใหม่ในอุตสาหกรรมชิปของโลก ภายในเวลาไม่ถึงทศวรรษ
Cr.cryptoslate
-----------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you