ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น นอกจากนี้ ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนยังคงหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง เนื่องจากวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการภาษี
ใหม่ของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 542.10 จุด ลดลง 4.21 จุด หรือ -0.77% โดยตลอดสัปดาห์ ดัชนีลดลง 1.4% ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงรายสัปดาห์ที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา
ดัชนีหลักอื่น ๆ ในยุโรปปรับตัวลงเช่นกัน:
-
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,916.08 จุด ลดลง 74.03 จุด หรือ -0.93%
-
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 22,461.52 จุด ลดลง 217.22 จุด หรือ -0.96%
-
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 8,658.85 จุด ลดลง 7.27 จุด หรือ -0.08%
เงินเฟ้อสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อตลาด
นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เปิดเผยในวันศุกร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
ดัชนี STOXX 600 ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดี (27 มีนาคม) หลังจากที่ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในต่างประเทศ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับเส้นตายในวันที่ 2 เมษายน ซึ่งอาจมีมาตรการตอบโต้ทางภาษีจากประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ
ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปสะท้อนภาพเศรษฐกิจที่ซบเซา
ในเยอรมนี ข้อมูลเศรษฐกิจระบุว่าอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นในเดือนมีนาคม แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 ซึ่งสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา แม้ว่าจะยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานในระยะยาวก็ตาม
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในเดือนมีนาคมของสเปนและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสองประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของยูโรโซน ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ทำให้ตลาดเพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนเมษายน
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นของเยอรมนี ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยของ ECB ลดลง 0.04% มาอยู่ที่ 2.027% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม
กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และสาธารณูปโภคสวนทางตลาด
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้ประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง ปรับตัวขึ้น 1.5% ในวันศุกร์ สวนทางกับตลาดโดยรวม ขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภค ซึ่งมักถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยผันผวน ปรับตัวขึ้น 1.6%
หุ้นดอยซ์แบงก์ร่วงหนักจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้นำ
หุ้นดอยซ์แบงก์ (Deutsche Bank) ร่วงลง 2.9% หลังจากธนาคารประกาศขยายสัญญาการทำงานของคริสเตียน เซวิง ซีอีโอ ขณะที่รองซีอีโอและผู้บริหารระดับสูงอีกคนจะลาออกจากตำแหน่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างผู้นำของธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี
Cr.สำนักข่าวอินโฟเควสท์
----------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo