ธนาคารจะยังคงจำกัดการเปิดรับสินทรัพย์คริปโต ตราบใดที่ความเสี่ยงด้านการฟอกเงินยังคงอยู่ ตามรายงานของธนาคารเพื่อการลงทุน TD Cowen

“เรามองว่าความชัดเจนด้านกฎระเบียบเกี่ยวกับคริปโตที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ธนาคารสนใจ

เป็นผู้รับฝากสินทรัพย์คริปโต (crypto custodians) มากขึ้น แต่ธนาคารยังคงต้องการความชัดเจนทางกฎหมาย เนื่องจากพวกเขาอาจต้องเผชิญความรับผิดชอบร้ายแรง หากไม่สามารถป้องกันการฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่ผู้ก่อการร้าย หรือการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตร” กลุ่มวิจัย Washington Research Group ของ TD Cowen ที่นำโดย จาเร็ต ไซเบิร์ก (Jaret Seiberg) กล่าวในบันทึกเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

รัฐสภาสหรัฐฯ เตรียมหารือประเด็น ‘Debanking’ และกฎระเบียบคริปโต

สภาคองเกรสจะจัดการประชุม 2 ครั้งในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับประเด็น “debanking” (การที่ธนาคารปฏิเสธหรือยุติการให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มหนึ่ง) โดยการประชุมแรกจะจัดขึ้นในคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาในวันพุธ และอีกครั้งโดยคณะกรรมาธิการบริการทางการเงินของสภาผู้แทนราษฎรในวันพฤหัสบดี

ไซเบิร์กกล่าวว่า ในหนึ่งในสองการประชุมนี้ อาจมีการหยิบยกข้อกำหนดเกี่ยวกับการให้บริการทางการเงินแก่ธุรกิจคริปโต โดยเฉพาะกฎระเบียบจากสำนักงานควบคุมเงินตรา (OCC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่กำกับดูแลธนาคารในสหรัฐฯ

ประเด็น “debanking” ในภาคคริปโตกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้งในวอชิงตัน หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายคนเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเรื่องนี้ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ว่าธุรกิจคริปโตต้องเผชิญกับความยากลำบากในการเปิดและรักษาบัญชีธนาคารในสหรัฐฯ

หลังการล่มสลายของ FTX ในช่วงปลายปี 2022 หน่วยงานของรัฐบาลกลางหลายแห่ง รวมถึง ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) และ OCC ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับ “ความเสี่ยงของสินทรัพย์คริปโต”

ไซเบิร์กกล่าวว่า OCC อาจตัดสินใจเพิกถอนข้อกำหนดที่ให้ธนาคารต้องได้รับอนุมัติก่อนทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโต แต่เขากลับมองว่า นั่นจะเป็นความผิดพลาด

       “เรามองว่าธนาคารจะยังคงจำกัดการเปิดรับคริปโต ตราบใดที่ยังมีความเสี่ยงด้านกฎหมายว่าด้วยการฟอกเงิน (AML) และกฎหมายความลับของธนาคาร (BSA) ในการถือครองและซื้อขายสินทรัพย์คริปโต” เขากล่าว “บทลงโทษสำหรับการละเมิดกฎหมาย AML/BSA สูงเกินไปจนทำให้ธนาคารไม่คุ้มที่จะให้บริการแก่ภาคคริปโตโดยไม่มีความชัดเจนด้านกฎหมาย”

Stablecoins อาจเผชิญอุปสรรคจากกฎระเบียบธนาคาร

ความกังวลด้านการฟอกเงินอาจทำให้ธนาคาร ขาดความกระตือรือร้นในการออกเหรียญ Stablecoin เพราะธนาคารอาจต้องรับผิดชอบหากมีการนำ stablecoins ไปใช้โดยกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์

      “นี่เป็นเหตุผลที่เรามองว่า ประเด็น debanking ในอุตสาหกรรมคริปโตไม่น่าจะจบลงเพียงเพราะมีหน่วยงานกำกับดูแลใหม่หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบาย” ไซเบิร์กกล่าว “จะต้องมีการปฏิรูปกฎหมาย AML/BSA อย่างกว้างขวาง เพื่อให้ธนาคารมั่นใจว่าโทเค็นที่พวกเขารับฝากหรือดำเนินการไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย”

และนั่นจะต้องอาศัยการออกกฎหมายโดยสภาคองเกรส เขากล่าวเสริม ซึ่งประเด็นเกี่ยวกับ การตัดขาดอุตสาหกรรมคริปโตจากภาคการธนาคาร เป็นปัญหาที่มีมายาวนาน

เจมี่ ไดมอน (Jamie Dimon) ซีอีโอของ JPMorgan Chase กล่าวในพอดแคสต์ล่าสุดว่า ธนาคารของเขาทำงานร่วมกับบริษัทคริปโตบางแห่ง แต่ก็เสี่ยงต่อการถูกปรับเป็นเงินหลายล้านดอลลาร์ หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น

ขณะเดียวกัน เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า ธนาคารสามารถให้บริการแก่ลูกค้ากลุ่มคริปโตได้ ตราบใดที่พวกเขาสามารถบริหารความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คลิก

Cr.bitcoinaddict

----------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo