ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Bitcoin (BTC) ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 25% จนแตะระดับสูงสุดในประวัติการณ์ที่ 73,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญคือความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยอีกสองครั้งในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมนี้ นอกจากนี้ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ในวันที่ 5 พฤศจิกายนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น BTC และ Ethereum (ETH) เนื่องจากนโยบายของผู้สมัครแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะพรรค Republican ที่มีแนวโน้มสนับสนุนการพัฒนาในวงการคริปโทฯ มากกว่า หากทรัมป์ชนะเลือกตั้ง มีแนวโน้มว่านโยบายนี้จะช่วยผลักดันราคาของ BTC และคริปโทฯ โดยรวมขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ

นายวรเมธ จันทร์เสน ที่ปรึกษาการลงทุนจาก Merkle Capital กล่าวว่า ทั้งสองปัจจัยคือความคาดหวังเรื่องดอกเบี้ยและการเลือกตั้งจะส่งผลให้คริปโทฯ มีการเติบโตในเดือนพฤศจิกายน โดยเฉพาะเมื่อมีการไหลเข้าของเงินทุนจากนักลงทุนสถาบันกว่า 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นราคาของ BTC ให้สามารถไปถึงจุดสูงสุดใหม่ได้อีกครั้ง

ในส่วนของ Ethereum ซึ่งมีการเติบโตในเดือนที่ผ่านมาราว 13% ได้รับแรงสนับสนุนเพิ่มเติมจากการลงทุนใน Ethereum spot ETF ซึ่งมียอดซื้อเพิ่มขึ้นกว่า 30% ของยอดขายทั้งหมด แสดงถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบัน นายมานะ คานิโยว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านพัฒนาธุรกิจและพาณิชย์ Merkle Capital ยังเสริมว่า หากราคาปิดบวกต่อเนื่องจากเดือนกันยายนและตุลาคมไปจนถึงสิ้นปีนี้ อาจเห็นผลตอบแทนที่ดีในตลาดคริปโทฯ และเป็นสัญญาณให้ตลาดคริปโทฯ ดึงดูดนักลงทุนใหม่ ๆ ได้อีก