สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันที่ 10 ตุลาคม เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า หลังจากที่สหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อและตลาดแรงงานที่ชะลอตัว การคาดการณ์ดังกล่าวช่วยกระตุ้นให้มีการเข้าซื้อทองคำ

ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

• สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 13.30 ดอลลาร์ หรือ 0.51% ปิดที่ 2,639.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 1.86% ปิดที่ 31.24 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 18.90 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 976.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 29.30 ดอลลาร์ หรือ 2.81% ปิดที่ 1,072.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนกันยายนปรับตัวขึ้น 2.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 2.3% ส่วนการปรับขึ้นเมื่อเทียบรายเดือนอยู่ที่ 0.2% สูงกว่าที่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนถึงภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงมีอยู่ แม้ว่าจะไม่เกินความคาดหมายของตลาดมากนัก

นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 33,000 ราย สู่ระดับ 258,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 และสูงกว่าการคาดการณ์ที่ 230,000 ราย การเพิ่มขึ้นของตัวเลขว่างงานนี้บ่งบอกถึงภาวะชะลอตัวในตลาดแรงงาน

จากข้อมูลดังกล่าว นักวิเคราะห์อย่างอเล็กซ์ เอ็บคาเรียน ผู้บริหารของ Allegiance Gold ระบุว่า ดัชนี CPI ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดมากนัก ขณะที่ตัวเลขว่างงานที่สูงขึ้นทำให้ตลาดมองว่าเฟดอาจจะมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งส่งผลบวกต่อราคาทองคำที่มักได้รับแรงหนุนในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ข้อมูลจาก CME’s FedWatch ยังแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 80% ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนพฤศจิกายนนี้