เมื่อวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,896.53 จุด เพิ่มขึ้น 236.77 จุด หรือ +0.58% ส่วนดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,608.25 จุด เพิ่มขึ้น 54.00 จุด หรือ +0.97% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 17,876.77 จุด เพิ่มขึ้น 245.05 จุด หรือ +1.39%

การปรับตัวขึ้นนี้เป็นการต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ในการประชุมที่เมืองแจ็กสัน โฮล ซึ่งเป็นการประชุมสำคัญที่อาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินในอนาคต นอกจากนี้ นักลงทุนยังให้ความสนใจกับการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเมืองและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในระยะยาว

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง โดยดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ซึ่งเป็นสถิติยาวนานที่สุดในปี 2567 สำหรับการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ ทั้งดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq ต่างก็มีการปรับตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในปีนี้ โดยมีปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ และมีความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนกันยายน

นักลงทุนกำลังจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 22-24 สิงหาคมนี้ ซึ่งนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดจะกล่าววิสัยทัศน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในวันที่ 23 สิงหาคม โดยนักลงทุนคาดหวังว่านายพาวเวลจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

พอล นอลเต้ นักกลยุทธ์ด้านการตลาดจากบริษัท Murphy & Sylvest ในรัฐอิลลินอยส์ คาดการณ์ว่านายพาวเวลอาจเน้นถึงมุมมองที่ว่าเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟด ซึ่งจะทำให้ตลาดตีความว่าเฟดพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายน

ผลสำรวจนักวิเคราะห์โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% ภายในสิ้นปี 2567 และสหรัฐจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้เนื่องจากเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง นอกจากนี้ ทีมนักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์ยังได้ปรับลดความเป็นไปได้ที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้าเหลือ 20% จากเดิมที่ 25% หลังจากยอดค้าปลีกและตัวเลขผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลง

ดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี แสดงถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ในส่วนของการซื้อขายหุ้น หุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มบริการด้านการสื่อสารที่พุ่งขึ้น 1.44% และ 1.43% ตามลำดับ หุ้นของแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (AMD) พุ่งขึ้น 4.5% หลังจากประกาศแผนเข้าซื้อกิจการ ZT Systems เพื่อขยายพอร์ตโฟลิโอในธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเสริมความสามารถในการแข่งขันกับอินวิเดีย (Nvidia)

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมใหญ่ของพรรคเดโมแครตในสัปดาห์นี้ โดยประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะกล่าวปราศรัยครั้งสุดท้ายและส่งต่อบทบาทให้แก่นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีในการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตเพื่อตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐในการเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายนนี้

คลิก

Cr.สำนักข่าวอินโฟเควสท์ 

----------------------------------------------------------

เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo