ราคาทองคำในตลาดนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นจำนวน 3.80 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ระดับ 2,507.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในวันที่ 13 สิงหาคม 2024 สาเหตุหลักที่ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นคือ การคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯ
ออกมาต่ำกว่าที่คาด นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐและการลดลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งทำให้ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนมากขึ้นในสภาวะตลาดเช่นนี้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 2.2% ในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.3% และลดลงจากระดับ 2.7% ในเดือนมิถุนายน การที่ดัชนี PPI ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์นี้ สะท้อนถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลง ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนกันยายน
ดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) ของสหรัฐฯ ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4% ในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 2.7% และลดลงจากระดับ 3.0% ในเดือนมิถุนายน การลดลงของ Core PPI นี้เสริมให้มีความคาดหวังเพิ่มขึ้นว่าสถานการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะเริ่มผ่อนคลายลง
เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group แสดงให้เห็นว่าขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 55% ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายน ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำกว่า 50% ก่อนที่ดัชนี PPI จะถูกเปิดเผย สะท้อนถึงความคาดหวังของตลาดที่เพิ่มขึ้นว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
ตลาดทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ โดยดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ซึ่งเป็นดัชนีที่วัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.56% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ลดลงสู่ระดับ 3.862% เมื่อคืนที่ผ่านมา การอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้ทองคำมีราคาถูกลงเมื่อคิดเป็นสกุลเงินอื่น ๆ ส่งผลให้ความต้องการทองคำเพิ่มขึ้น ในขณะเดียวกัน การร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทำให้ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนดอกเบี้ย มีความน่าสนใจมากขึ้นในสายตาของนักลงทุน
นักลงทุนกำลังจับตาดูการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนกรกฎาคมของสหรัฐในวันนี้ (14 ส.ค.) อย่างใกล้ชิด เพื่อหาสัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูรายงานยอดค้าปลีกประจำเดือนกรกฎาคมที่จะออกมาในวันพฤหัสบดี (15 ส.ค.) เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค จะเพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือนกรกฎาคมเมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในเดือนมิถุนายน ส่วนดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ที่ไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 3.2% ในเดือนกรกฎาคม เมื่อเทียบรายปี ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 3.3% ในเดือนมิถุนายน หากตัวเลขเหล่านี้ออกมาตามคาด อาจจะสนับสนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่าเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี
Cr.กรุงเทพธุรกิจ
----------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo