รายงานล่าสุดเผยว่า "เหล็กจีน" กำลังเข้ายึดครองตลาดไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากบริษัทจีน "ซินเคอหยวน" ที่ลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตในไทยอีก 12 ล้านตัน ทำให้ความกังวลเรื่องการแข่งขันในตลาดภายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)
ซึ่งได้ร้องเรียนไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อขอให้มีการควบคุมการตั้งโรงงานใหม่ เนื่องจากปัจจุบันโรงงานผลิตเหล็กในประเทศไทยมีจำนวนเพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการภายในประเทศที่ประมาณ 16 ล้านตันแล้ว
ความกังวลสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมา คือ การนำเข้าเหล็กโครงสร้างสำเร็จรูปจากจีนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีการหลีกเลี่ยงมาตรฐาน มอก. (มาตรฐานอุตสาหกรรม) ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพและความปลอดภัยในภาคก่อสร้าง โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา การนำเข้าเหล็กจากจีนมีมูลค่าถึง 18,000 ล้านบาท สร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการไทยเกี่ยวกับการแข่งขันที่ไม่เท่าเทียมและผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศ
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อุตสาหกรรมเหล็กไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการทุ่มตลาดของเหล็กจีนที่เข้าสู่อาเซียนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการระบายกำลังการผลิตส่วนเกินของจีนออกนอกประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียนที่กลายเป็นแหล่งระบายสินค้าเหล็กหลักของจีน ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก
ผู้ประกอบการเหล็กไทยได้ยื่นเรื่องไปยังกระทรวงพาณิชย์เพื่อขอให้มีการออกมาตรการเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping) เพื่อสกัดกั้นสินค้าเหล็กจากจีน แต่ผู้ส่งออกจีนได้ปรับวิธีการด้วยการปรับคุณลักษณะของสินค้าเหล็กเพื่อเปลี่ยนพิกัดศุลกากร ทำให้ไม่ถูกเก็บภาษี การนำเข้าเหล็กจากจีนที่ยังคงมีปริมาณสูง ส่งผลให้อัตราการใช้กำลังการผลิตของโรงงานเหล็กในไทยอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี
ผลกระทบดังกล่าวส่งผลให้ผู้ผลิตเหล็กไทยบางรายจำเป็นต้องหยุดการผลิตชั่วคราว เช่น บริษัท มิลล์คอน บูรพา จำกัด สาขาระยอง ที่ได้ประกาศหยุดกิจการชั่วคราว โดยให้เหตุผลว่าภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันจากเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อธุรกิจ โดยบริษัทได้หยุดการผลิตและปิดสำนักงานบางส่วนตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคมถึง 13 กันยายน 2567 พร้อมกับจ่ายค่าจ้าง 75% สำหรับวันที่ไม่ได้มาทำงาน และจ่ายค่าจ้างเต็มจำนวนสำหรับวันที่มาทำงาน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้กล่าวว่า อัตราการใช้กำลังผลิตของอุตสาหกรรมเหล็กไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 อยู่ที่เพียง 29.3% ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี ลดลงจากปี 2566 ที่มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเพียง 31.2% และปี 2565 ที่อยู่ที่ 33.4% นอกจากนี้ ยังพบว่ามีบริษัทเหล็กจากจีนเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานในไทยด้วยกำลังการผลิตรวมกว่า 12.42 ล้านตัน ในขณะที่ความต้องการใช้เหล็กในประเทศไทยอยู่ที่ 16 ล้านตันเท่านั้น ซึ่งสถานการณ์นี้เพิ่มแรงกดดันต่อผู้ผลิตเหล็กในประเทศอย่างมาก
อุตสาหกรรมเหล็กของไทยได้รับผลกระทบอย่างมากจากการที่เหล็กจากจีนเข้ามาในตลาดอาเซียนอย่างต่อเนื่องในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ผู้ผลิตเหล็กในจีนได้ส่งออกกำลังการผลิตส่วนเกินของตน โดยอาเซียนกลายเป็นตลาดสำคัญสำหรับการส่งออกเหล่านี้ สถานการณ์นี้ได้สร้างความท้าทายให้กับผู้ผลิตเหล็กในประเทศไทย รวมถึงการใช้กำลังการผลิตที่ต่ำ โดยมีบางบริษัทถึงกับต้องหยุดการดำเนินงานชั่วคราว
ตัวอย่างเช่น บริษัท มิลล์คอน บูรพา จำกัด ในจังหวัดระยอง ได้ประกาศหยุดดำเนินงานชั่วคราว เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการเข้ามาของเหล็กจากต่างประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อผู้ผลิตเหล็กในประเทศ บริษัทได้วางแผนหยุดดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม ถึง 13 กันยายน 2567 โดยให้ค่าจ้าง 75% สำหรับวันที่ไม่ได้ทำงานและจ่ายเต็มจำนวนสำหรับวันที่มาทำงาน
นอกจากนี้ยังมีบริษัทจีนสองแห่ง คือ บริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล จำกัด และบริษัท หย่งจิน เมทัล เทคโนโลยี จำกัด ที่ได้ลงทุนอย่างหนักในประเทศไทย โดยบริษัท ซิน เคอ หยวน สตีล มีความสามารถในการผลิตสูงถึง 12.09 ล้านตันต่อปีในจังหวัดระยอง ในขณะที่บริษัท หย่งจิน เมทัล เทคโนโลยี กำลังตั้งโรงงานผลิตเหล็กกล้าไร้สนิมในจังหวัดชลบุรี โดยมีกำลังการผลิต 0.332 ล้านตันต่อปี การพัฒนานี้ได้สร้างความกังวลให้กับผู้ผลิตในประเทศ เนื่องจากความสามารถในการผลิตในประเทศไทยในปัจจุบันก็เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศแล้ว โดยคาดว่าความต้องการใช้เหล็กในปี 2567 จะอยู่ที่ 16 ล้านตัน
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ได้เรียกร้องให้กระทรวงอุตสาหกรรมควบคุมการตั้งโรงงานเหล็กใหม่เพื่อปกป้องผู้ผลิตในประเทศ นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการนำเข้าเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะเหล็กโครงสร้างสำเร็จรูปซึ่งขาดการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และอาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย รัฐบาลได้ตอบสนองด้วยการเพิ่มความเข้มงวดในกฎระเบียบ โดยมีการคาดหมายว่ากฎกระทรวงใหม่จะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนพฤษภาคม 2568
Cr.กรุงเทพธุรกิจ
----------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4yo