เช็คอาการภาคการผลิต 5 เดือนแรก ปีนี้ ปิดโรงงาน 485 แห่ง เลิกจ้าง 1.2 หมื่นคน

เศรษฐกิจทรุดกว่า 2 ปี โรงงานปิดกิจการกว่า 3,418 แห่ง กระทบเงินลงทุน 2.3 แสนล้าน คนตกงานกว่า 8 หมื่นคน ในขณะที่เพียง 5 เดือน พบปิดโรงงานแล้วกว่า 485 แห่ง สูญเงินลงทุนกว่า 1.3 หมื่นล้าน “พิมพ์ภัทรา” เล็งหารือ “ส.อ.ท” ร่วมแก้ปัญหา


จากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม MPI เดือนเมษายน 2567 ขยายตัว 3.43% อยู่ที่ระดับ 90.34 เป็นการขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 18 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ภาคการผลิต MPI หดตัวมาตลอด 18 เดือนติดต่อกัน
โดย GDP สาขาการผลิตลดตัวติดต่อกัน 6 ไตรมาส ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2565 โดยล่าสุดไตรมาส 1 ปี 2567 ซึ่ง GDP สาขาการผลิตหดตัว -3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม พบว่า ยอดปิดโรงงานย้อนหลังตั้งแต่ ม.ค.2565-มิ.ย.2567 รวม 2 ปี 5 เดือน พบโรงงานปิดกิจการทั้งสิ้น 3,418 แห่ง ส่งผลให้สูญเสียเงินลงทุนรวม 231,245 และพนักงานถูกเลิกจ้างมากถึง 88,675 คน
รวมทั้งหากแยกเฉพาะเดือน ม.ค.-พ.ค.2567 รวม 5 เดือน มีโรงงานปิดกิจการทั้งสิ้น 485 แห่ง ส่งผลให้สูญเสียเงินลงทุนรวม 13,990.61 ล้านบาท และพนักงานถูกเลิกจ้างมากถึง 12,472 คน
โดยกลุ่มการผลิตเครื่องหนัง การผลิตยาง อุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมไม้ และการผลิตเครื่องจักร เป็นกลุ่มที่มีการเพิ่มขึ้นของการปิดตัวโรงงานมากที่สุด
ในขณะที่เดือนพ.ค. 2567 เพียงเดือนเดียว มีจำนวนโรงงานที่เลิกประกอบกิจการ จำนวน 69 แห่ง เงินลงทุน 2,236.34 ล้านบาท จำนวนการเลิกจ้างงาน 1,907 คน โดยโรงงานที่เลิกประกอบกิจการในเดือนพ.ค. 2567 มีจำนวนโรงงานมากกว่าเดือนพ.ค. 2566 ที่ 19.05% จำนวนการเลิกจ้างงานมากกว่า 4.91% และ เงินลงทุนมากกว่า 12.15%
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการมากที่สุด 3 อันดับ คือ
1. กลุ่มผลิตภัณฑ์พลาสติก จำนวน 12 โรงงาน
2. กลุ่มผลิตภัณฑ์โลหะ จำนวน 11 โรงงาน
3. กลุ่มแปรรูปไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ จำนวน 8 โรงงาน
ในขณะที่กลุ่มอุตสาหกรรมที่เลิกประกอบกิจการที่มีเงินลงทุนมากที่สุด 3 อันดับ คือ
1. กลุ่มผลิตเครื่องใช้ฟฟ้าและอุปกรณ์ เป็นเงินลงทุน 638.00 ล้านบาท
2. กลุ่มผลิตยานพาหนะและอุปกรณ์รวมทั้งการซ่อมยานพาหนะและอุปกรณ์ รวมเงินลงทุน 478.54 ล้านบาท
3. กลุมเคมีภัณฑ์และผลิตภัณฑ์เคมี เงินลงทุน 281.00 ล้านบาท
สำหรับสาเหตุหลักของการตัดสินใจปิดโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย เกิดจากสินค้าส่งออกของไทยได้รับความนิยมลดลง เนื่องจากไม่มีสินค้าใหม่ๆ ออกสู่ตลาด โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าไฮเทคที่กำลังเป็นเทรนด์ของโลก ประกอบกับการขยายตัวของคู่แข่งในภูมิภาคที่สามารถผลิตสินค้าในกลุ่มเดียวกับไทยได้ เช่น รถยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ อาหาร ฯลฯ
นอกจากนี้ ยังมาจากโครงสร้างอุตสาหกรรมที่ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมเก่า และเป็นการผลิตขั้นกลางหรือเป็นผู้รับจ้างผลิตOEM ทำให้อุตสาหกรรมไทยขาดเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ที่จะเข้ามาช่วยในการพัฒนากระบวนการผลิตและการพัฒนาสินค้าใหม่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาด
รวมถึงปัญหาต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากค่าไฟฟ้า ราคาวัตถุดิบ ค่าแรงงาน ดอกเบี้ยเงินกู้และค่าโลจิสติกส์ ทำให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการไทยไม่สามารถแข่งขันได้
“อีกสิ่งที่กังวลคือ สินค้าราคาถูกที่เข้ามาทุ่มตลาดในประเทศและตลาดหลักในภูมิภาคที่เป็นคู่ค้ากับไทย ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าไทยหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัญหาขาดแคลนแรงงานทักษะสูงที่เป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ ปัญหาขาดแคลนแรงงานจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ รวมทั้ง ผลิตภาพแรงงานไม่เพิ่มขึ้นตามค่าแรงที่เพิ่มขึ้น” นายเกรียงไกร กล่าว
นอกจากนี้ จากปัจจัยกดดันทางเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว โดยเฉพาะ GDP ที่ขยายตัวช้ากว่าคู่แข่งเพื่อนบ้าน ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงถึง 91.3% ต่อ GDP ประเทศ การจัดทำงบประมาณปี 2567 ที่ล่าช้า รวมถึงปัญหาการเมืองที่ไม่แน่นอน และปัญหาการคอร์รัปชั่นที่ยังคงฉุดรั้งการพัฒนาประเทศ ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นและเสรษฐกิจประเทศฟื้นกลับมาได้ช้าลง
ทั้งนี้ ส.อ.ท. ได้เผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤษภาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 88.5 ปรับตัวลดลงจาก 90.3 ในเดือน เม.ย.2567 เมื่อพิจารณาองค์ประกอบของดัชนีฯ พบว่า ปรับตัวลดลงทุกองค์ประกอบ ทั้งยอดขายโดยรวม ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม ปริมาณการผลิต ต้นทุนประกอบการและผลประกอบการ
โดยความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลงเป็นผลมาจากกำลังซื้อในประเทศที่ยังเปราะบาง เนื่องจากเศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนรวมถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูงและสัดส่วนหนี้เสีย (NPLs) ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้การบริโภคสินค้าชะลอลง
ขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิต รวมถึงอัตราค่าระวางเรือที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนเรือขนส่งสินค้าและตู้คอนเทนเนอร์ที่หมุนเวียนไม่ทัน
ทั้งนี้ เนื่องจากระยะเวลาขนส่งที่นานขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ตลอดจนผู้ประกอบการยังได้รับผลกระทบจากสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศที่เข้ามาแข่งขันในไทยและอาเซียนมากขึ้น ทำให้สินค้าไทยแข่งขันได้ยาก รวมถึงสภาพอากาศที่แปรปรวนจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่งผลกระทบต่อสินค้าเกษตร
อย่างไรก็ตาม ในเดือนพฤษภาคม ยังมีปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการสินค้าในช่วงเปิดภาคเรียนปีการศึกษา 2567 อาทิ เครื่องนุ่งห่ม รองเท้า หนังและผลิตภัณฑ์หนัง
รวมทั้งการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์ ขณะเดียวกันวิกฤตความมั่นคงทางด้านอาหารในหลายประเทศ ส่งผลดีต่อการส่งออกสินค้าอาหารของไทย นอกจากนี้ผู้ประกอบการส่งออกยังได้รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ที่ 36-37 บาทต่อดอลลาร์
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้ นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับทราบปัญหามาระยะหนึ่งแล้ว และอยู่ระหว่างประสานมายังสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เพื่อรับฟังและหาแนวทางการแก้ปัญหาร่วมกัน
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact

230424 icm 100x33

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"