เว็บไซต์ smallcaps รายงานวันนี้ (9 ต.ค.) ว่า ธนาคารกลางทั่วโลก แห่ซื้อทองคำแท่งเข้าสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศ เมื่อเดือนส.ค.ผ่านมา มีปริมาณรวมกัน 77 ตัน ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นถึง 38% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก.ค. โดยธนาคารกลางจีน

ซื้อทองคำแท่งมากที่สุดเป็นอันดับ 1 มากถึง 29 ตัน ทำให้ยอดสะสมทองคำของธนาคารกลางจีน อยู่ที่ 2,1656 ตัน
สภาทองคำโลก หรือ WGC เปิดเผยรายงานทองคำโลกประจำเดือนส.ค. ระบุว่า ธนาคารกลางทั่วโลกแห่ซื้อทองคำแท่งสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา มีปริมาณรวมกัน 77 ตัน เพิ่มสูงขึ้นถึง 38% เมื่อเทียบกับเดือนก.ค.
โดยธนาคารกลางจีน เข้าซื้อทองคำแท่งมากถึง 29 ตัน ทำให้ปริมาณทองคำแท่งที่ธนาคารกลางจีนซื้อเก็บเข้าทุนสำรองระหว่างประเทศในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 มีจำนวนเพิ่มขึ้น 217 ตัน
ส่งผลจำนวนทองคำแท่งรวมสะสมทั้งหมดของธนาคารกลางจีน อยู่ที่ 2,165 เมตริกตัน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 4% ของทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนในปัจจุบัน
ด้านธนาคารกลางโปแลนด์ ซื้อทองคำแท่งเพิ่มขึ้นถึง 18 ตันในเดือนส.ค. ทำให้นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนส.ค. 2566 ธนาคารกลางโปแลนด์
ซื้อทองคำแท่งสะสมในทุนสำรองระหว่างประเทศรวม 88 ตัน โดยธนาคารกลางโปแลนด์ มีเป้าหมายซื้อทองคำแท่งให้ครบ 100 ตัน ปัจจุบันธนาคารกลางโปแลนด์ มีทองคำแท่งสะสมรวมทั้งสิ้น 314 เมตริกตัน หรือคิดเป็น 11% ของทุนสำรองระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำแท่งรวมกันเพิ่มถึง 219 ตัน โดยแนวโน้มที่ธนาคารกลางทั่วโลกจะซื้อทองคำแท่งเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ ยังคงเห็นได้อย่างเด่นชัด แม้จะเหลืออีกเพียงไม่ถึง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้
สาเหตุที่ธนาคารกลางทั่วโลก ยังคงเน้นการซื้อเก็บทองคำแท่งอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากบรรดาธนาคารกลาง ต้องเผชิญกับภาวะผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ
และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง ทำให้การบริหารจัดการสกุลเงินท้องถิ่นของแต่ละประเทศยกเว้นสหรัฐฯ อยู่ในภาวะที่ยากลำบากและมีความเสี่ยงที่จะเกิดการผันผวนอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการอ่อนค่าเงินที่รวดเร็วเกินไปของสกุลเงินส่วนใหญ่ทั่วโลกที่เผชิญปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจัยด้านผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่จะส่งผลกระทบต่อราคาทองคำตลาดโลก โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 10 ปี พุ่งแตะระดับ 4.8% ทำสถิติสูงสุดในรอบ 16 ปี
ขณะที่ในสัปดาห์นี้ คาดการณ์ว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 30 ปี จะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 5% เป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา เนื่องจากมีแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Source:สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

Cr.Bank’s Scholarship Students

-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you