ถอดบทเรียน JKN จากมุมนักวิชาการ ชี้ปัญหาหลัก ‘ลงทุนหนัก เงินสดขาดมือ เลือกกู้ระยะสั้น’

เรื่องราวการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้มูลค่าราว 600 ล้านบาท ของ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN) ยังคงมีพัฒนาการออกให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ในระหว่างที่บริษัทและผู้บริหารอย่าง แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ กำลังเร่งหาทางออกและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

เพื่อเป็นบทเรียนและกรณีศึกษาให้กับนักลงทุน นักธุรกิจ และผู้ที่กำลังติดตาม THE STANDARD WEALTH อยากพาทุกคนมาร่วมวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นผ่านมุมมองของนักวิชาการด้านบัญชีและการเงิน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
รองศาสตราจารย์ ดร.สมชาย สุภัทรกุล คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า กรณีการผิดนัดชำระหนี้ของ JKN หากวิเคราะห์ดูงบการเงินจะพบว่า ผลการดำเนินงานก็ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะในปี 2562-2566 ยังมีกำไรอย่างต่อเนื่อง
แกะงบกระแสเงินสดต้นตอวิกฤตสภาพคล่อง
ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจงบกระแสเงินสดตามหลักการบัญชีในเบื้องต้นกันก่อน ซึ่งถูกจัดแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
งบกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน (Cash Flow from Operating Activites: CFO) คือ กระแสเงินสดที่เกิดจากกิจกรรมหลักที่ก่อให้เกิดรายได้และค่าใช้จ่ายของกิจการ เช่น ซื้อหรือขายสินค้าที่เป็นการดำเนินธุรกิจปกติประจำวัน
งบกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน (Cash Flow from Investing Activities: CFI) คือ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุน เช่น การซื้อหรือลงทุนขยายอาคารสำนักงาน การลงทุนขยายโรงงาน หรือการได้มาและขายสินทรัพย์ระยะยาวและเงินลงทุนอื่นๆ
งบกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินทุน (Cash Flow from Financing Activities: CFF) คือ กระแสเงินสดที่เกิดจากการจัดหาเงินทุนจากผู้ลงทุนและเจ้าหนี้ตัวอย่าง ในฝั่งรายรับ เช่น ออกจำหน่ายหุ้นกู้ หุ้นกู้ และการกู้ยืมเงินระยะยาว ส่วนในฝั่งรายจ่าย เช่น จ่ายชำระหนี้ระยะยาว และการจ่ายเงินปันผล
ทั้งนี้ เมื่อดูจากงบกระแสเงินสดของ JKN ในช่วงปี 2562 ถึงไตรมาส 2 ปี 2566 ซึ่งมีการลงทุนจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณสะท้อนว่าบริษัทกำลังอยู่ในช่วงการสร้างการเติบโต ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีในการดำเนินธุรกิจ จะเห็นได้จากงบกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนในช่วงดังกล่าวที่ติดลบ
แต่จากการลงทุนที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ส่งผลให้บริษัทมีเงินสดที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานไม่เพียงพอสำหรับรองรับการลงทุนของบริษัท ซึ่งจะเห็นว่าในไตรมาส 2/66 บริษัทมีการใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ส่งผลให้งบกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนติดลบ 1,589 ล้านบาท ขณะที่งบกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานจะเป็นบวกที่ 1,100 ล้านบาท ซึ่งยังไม่เพียงพอสำหรับใช้รองรับการลงทุนในไตรมาส 2/66
ดังนั้น ทำให้บริษัทมีความจำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินทุนจากภายนอกเพื่อนำมาใช้ในการขยายธุรกิจด้วย ขณะที่งบกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินทุนในไตรมาส 2/66 ได้ค่อนข้างน้อยเพียง 264 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาส 2/66 เงินสดของ JKN ลดลงไปมากพอสมควร จึงส่งผลกระทบให้มีเงินสดไม่เพียงพอที่จะชำระคืนเงินต้นและดอกเบี้ยของหุ้นกู้มูลค่า 609.98 ล้านบาท ที่ครบกำหนดไถ่ถอนวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา
งบการเงิน JKN ปี 2562 – ไตรมาส 2/66
วิเคราะห์ปัญหาเหตุเบี้ยวหุ้นกู้
ในมุมของรองศาสตราจารย์ ดร.สมชาย มองว่าปัญหาแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่
JKN ไม่สามารถออกหุ้นกู้ชุดใหม่เพื่อต่ออายุหุ้นกู้เดิม (Rollover) ซึ่งปกติการ Rollover หุ้นกู้สามารถทำได้ตามแผนการจัดเงินโดยทั่วไป แต่เนื่องจากผลกระทบจากการขาดความเชื่อมั่นของภาพรวมตลาดหุ้นกู้ และตลาดหุ้นกู้ซบเซาจากกรณีปัญหาของ บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) ส่งผลกระทบให้ Rollover หุ้นกู้ในรอบนี้ไม่สำเร็จ
ปัญหาเรื่องการเรียกชำระเงินจากลูกหนี้ เนื่องจากงบกระแสเงินสดของ JKN พบว่ามียอดลูกหนี้การค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมียอดลูกหนี้ค้างหนี้สุทธิ ณ สิ้นไตรมาส 2/66 ถึง 2,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 1,620 ล้านบาท และข้อมูลของหมายเหตุประกอบงบการเงินยังพบว่า มียอดหนี้กว่า 1,600 ล้านบาทที่เกินกำหนดชำระหนี้ (Overdue) ไปแล้ว ส่งผลให้ JKN มีเงินสดเข้ามายังบริษัทช้ากว่าที่ควรจะเป็น
ณ สิ้นไตรมาส 2/66 JKN มีอัตราหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) อยู่ที่ระดับ 1.58 เท่า ซึ่งถือว่าสูง และเกิดเหตุผิดนัดชำระหนี้กู้ไปแล้ว จึงส่งผลให้การขอกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์สามารถทำได้ยาก
“โดยปกติบริษัทขนาดใหญ่จะมีงบกระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุนที่มักจะติดลบเสมอ บ่งชี้ว่าบริษัทกำลังเติบโต ไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย แต่ถ้าหมุนเงินจากกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานหรือกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินทุนมาได้ไม่เพียงพอเท่าทันการเติบโต ก็จะเกิดการติดขัดได้ดังเช่นกรณีของ JKN แต่จากงบการเงินของ JKN ไม่ได้บ่งบอกว่าจะมีปัญหาในเรื่องของการดำเนินงาน” รรองศาสตราจารย์ ดร.สมชาย กล่าว
ความเสี่ยงของการเลือกกู้ระยะสั้น
ด้าน รองศาสตราจารย์ ดร.คณิสร์ แสงโชติ อาจารย์ประจำภาควิชาการธนาคารและการเงิน คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์ว่า บริษัทที่มีกำไรไม่ได้แปลว่าบริษัทมีสภาพคล่องหรือมีกระแสเงินสดเพียงพอเสมอ อย่าง JKN จะเห็นว่าบริษัททำกำไรได้ต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันจะเห็นว่าบริษัทลงทุนมากกว่ากำไรที่หาได้ ทำให้กระแสเงินสดอิสระติดลบในแต่ละปีที่ผ่านมา
“ซึ่งเรื่องนี้ (กระแสเงินสดอิสระติดลบ) ไม่ใช่เรื่องที่ผิด ถ้าเกิดคิดว่าบริษัทกำลังต้องการเติบโตและขยายตัว แต่คำถามสำคัญคือ เราเอาเงินจากไหนมาขยาย คล้ายกับบริษัทสตาร์ทอัพส่วนใหญ่ที่เป็นเช่นนี้ แต่ใช้วิธีการระดมทุนไปต่อเนื่อง” รองศาสตราจารย์ ดร.คณิสร์ กล่าว
ก่อนอื่นมีคำศัพท์ 4 คำที่ต้องรู้
ระยะเวลาในการชำระหนี้ (Matuarity) ว่าจะต้องชำระคืนหนี้เมื่อใดหลังจากกู้ยืมมาแล้ว ซึ่งระยะเวลาการกู้ยืมผ่านหุ้นกู้ส่วนมากแล้วจะสั้นกว่าการกู้ยืมผ่านธนาคาร
กระแสเงินสดอิสระ (Free Cash Flow) เงินสดที่บริษัทสามารถนำมาใช้จ่ายได้จริง โดยไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน หาได้จากการนำกำไรหักออกด้วยงบในการลงทุน
สภาพคล่องของกิจการ โดยมากแล้วมักจะเกี่ยวข้องกับความสามารถในการชำระหนี้
สภาพคล่องของสินทรัพย์ อย่างเงินสดเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสุด แต่สินทรัพย์บางอย่างก็มีสภาพคล่องต่ำ เช่น สิทธิในการถ่ายทอด
กรณีของ JKN จากรายงานประจำปีของบริษัท ณ สิ้นปี 2565 มีการกู้ยืมสถาบันการเงิน 537 ล้านบาท และมีหุ้นกู้ที่ระยะเวลาการชำระหนี้ประมาณ 2 ปี สองส่วนนี้รวมกันกว่า 3 พันล้านบาท และก็ยังมีหุ้นกู้แปลงสภาพอีกด้วย
คำถามที่ตามมาคือ ทำไมบริษัทถึงตัดสินใจกู้ระยะสั้นแทนที่จะกู้ระยะยาว ซึ่งอาจเป็นเพราะต้นทุนทางการเงินของการกู้ระยะสั้นต่ำกว่า แต่ความเสี่ยงที่มาคู่กันกับการกู้ระยะสั้นคือระยะเวลาจ่ายคืนหนี้ที่มาถึงเร็วกว่า
นอกจากนี้ หากไปดูตัวเลขลูกหนี้การค้าของ JKN ณ สิ้นปี 2565 ราว 1.6 พันล้านบาท เป็นลูกหนี้ที่เกินกำหนดชำระราวครึ่งหนึ่ง ซึ่งในส่วนนี้เป็นลูกหนี้ที่เกินกำหนดชำระถึง 6 เดือน ราว 24% ของลูกหนี้การค้าทั้งหมด
“ส่วนนี้บ่งชี้ว่าธุรกิจของ JKN ขยายตัวค่อนข้างเร็ว แต่ยอมให้จ่ายเงินช้าได้ โดยสรุปแล้วสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ JKN คือ สภาพคล่องที่เตรียมไว้ไม่ได้เพียงพอต่อจำนวนที่จำเป็นต้องใช้ชำระหนี้ และบริษัทไม่มีความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดได้เพียงพอกับการชำระหนี้ทั้งหมด แต่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเป็นปัญหาเพราะสามารถดึงสภาพคล่องส่วนอื่นมาใช้ได้ นั่นคือการกู้ยืมเพิ่มเติม” รองศาสตราจารย์ ดร.คณิสร์ กล่าว
สรุปแนวทางแก้ปัญหา JKN ผ่านมุม 2 นักวิชาการ
การเร่งเก็บหนี้จากลูกหนี้การค้า โดยเฉพาะส่วนที่ Overdue ไปแล้วจำนวนประมาณ 1,600 ล้านบาท เพื่อให้มีเงินสดเข้ามายังบริษัท ใช้แก้ปัญหาสภาพคล่องที่กำลังเผชิญได้
เจรจากับเจ้าหนี้เพื่อยืดอายุและไม่ให้ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายหนี้ส่วนอื่นที่เป็นการ Cross Default
เจรจาเพื่อขอจ่ายเป็นหุ้นแทนเงินสด หรือหาผู้ลงทุนมาร่วมลงทุน ซึ่งจะแลกมาด้วยอำนาจในการบริหารที่ลดลงของผู้ถือหุ้นเดิม
ขายสินทรัพย์เพื่อนำมาชำระหนี้ ซึ่งต้องประเมินดูว่าบริษัทจำเป็นจะต้องขายสินทรัพย์มากน้อยเพียงใด และมีสินทรัพย์เพียงพอหรือไม่
จับ 3 ข้อสังเกต บริษัทเสี่ยงเบี้ยวหนี้หุ้นกู้
สำหรับวิธีหรือข้อสังเกตเกี่ยวกับการพิจารณาความเสี่ยงของหุ้นกู้ของบริษัทขนาดกลางหรือขนาดเล็กแห่งอื่นๆ ที่มีความเสี่ยงจะประสบปัญหาการผิดชำระหนี้ มีข้อสังเกตดังนี้
ยังมีความสามารถในการทำกำไรจากการดำเนินงานได้ต่อเนื่องหรือไม่ หากมีผลขาดทุน เริ่มเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเริ่มมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
พิจารณาดูระดับหนี้ โดยดูได้จากอัตราหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E Ratio) เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน หากมี D/E Ratio สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเดียวกันจะมีความเสี่ยงสูงขึ้นที่จะกระทบกับความสามารถในการชำระหนี้
พิจารณาว่าหุ้นกู้ที่ถืออยู่ใกล้ครบกำหนดชำระแล้วหรือไม่ เพราะหากภาพรวมตลาดหุ้นยังคงซบเซาอาจจะส่งผลให้ Rollover หุ้นกู้ที่ครบอายุไม่ได้
โดย ประลองยุทธ ผงงอย , สกุลชัย เก่งอนันตานนท์
Source: Standard Wealth

คลิก

Cr.Bank’s Scholarship Students

-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"