อย่าเล่นกับไฟ อย่าไฟต์กับธนาคารกลาง

อาจกล่าวได้ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ของการ “สำแดงฤทธิ์” ของธนาคารกลางสำคัญทั่วโลก ทั้งของสหรัฐและยุโรปที่ส่งส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ย สวนทางกับธนาคารกลางของจีนและญี่ปุ่น
เริ่่มที่ฝั่งของสหรัฐ แม้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะคงดอกเบี้ยที่ 5-5.25%

แต่ก็ส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้ง ท่ามกลางเงินเฟ้อที่หลายฝ่ายมองว่าอยู่ในระดับสูง (ที่ประมาณ 4-5%)
ในฝั่งของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ขึ้นดอกเบี้ย 50 bps หรือ 0.5% ตามคาด แต่ประธาน ECB ก็ส่งสัญญาณว่าเงินเฟ้อยังคงเป็นความเสี่ยงและคงยังไม่หยุดขึ้นดอกเบี้ยในระยะสั้น
กล่าวโดยสรุป คือ ธนาคารกลางสำคัญ คือ สหรัฐและยุโรป ยังคงส่งสัญญาณ “สายเหยี่ยว” หรือ Hawkish คือพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อ
สวนทางกับธนาคารกลางสำคัญ 2 แห่งคือ ธนาคารกลางจีน (PBOC) ที่เพิ่งลดดอกเบี้ยเงินฝาก 7 วัน และดอกเบี้ยเงินกู้ 1 ปี ไป 0.1% หลังจากที่ได้ขอความร่วมมือให้ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ลดดอกเบี้ยเงินฝากไปก่อน
ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงส่งสัญญาณนโยบายการเงินผ่อนคลาย โดยดอกเบี้ยอยู่ที่ -0.1% รวมถึงอัดฉีดสภาพคล่องผ่านมาตรการ QE และทำนโยบายคุมเส้นผลตอบแทนพันธบัตรให้อยู่ระดับต่ำต่อไป
ส่วนตัวผู้เขียนเองนั้น แม้เชื่อคำว่า Don't fight the Fed (รวมถึงธนาคารกลางอื่นๆ) หาก Fed ต้องการจะขึ้นดอกเบี้ยก็คงจะขึ้นได้ แต่ผู้เขียนเชื่อว่าหากธนาคารกลางต่างๆ โดยเฉพาะ Fed ยังคงยืนกรานขึ้นดอกเบี้ยในระยะถัดไป นโยบายการเงินที่ตึงตัวเช่นนี้จะทำให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย จากเหตุผล 3 ประการ
1.ภาวะเศรษฐกิจโดยภาพรวมกำลังเริ่มชะลอลง ในภาพปัจจุบัน เราเริ่มเห็นสัญญาณเศรษฐกิจโลกที่ชะลอมากขึ้นโดยเฉพาะภาคการผลิต ขณะที่เงินเฟ้อก็ชะลอลง แต่อาจจะยังสูงถ้าเทียบกับมาตรฐานของธนาคารกลาง ทำให้ธนาคารกลางทั้งหลายยังคงผลักดันดอกเบี้ยให้อยู่ระดับสูง
อย่าเล่นกับไฟ อย่าไฟต์กับธนาคารกลาง | ปิยศักดิ์ มานะสันต์
2.สภาพคล่องกำลังจะตึงตัวมากขึ้น หากพิจารณาตั้งแต่เดือน พ.ค. เราจะเห็นว่าผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นกว่า 40-50 bps เมื่อเทียบกับช่วงต้นเดือน พ.ค. ตั้งแต่มีประเด็นการเพิ่มเพดานหนี้ และยังไม่ลดลง บ่งชี้สภาพคล่องที่ตึงตัวมากขึ้น
สอดคล้องกับนิตยสาร The Economist ที่ออกบทวิเคราะห์ระบุว่า Fed ควรเริ่มยุติมาตรการถอนสภาพคล่อง หรือ QT ได้แล้ว มิฉะนั้นจะเกิดภาวะสภาพคล่องตึงตัวรุนแรง
ที่ผ่านมา นอกจาก Fed จะขึ้นดอกเบี้ยถึงกว่า 5% ยังถอนสภาพคล่องผ่านการลดงบดุลกว่าเดือนละ 9.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้สภาพคล่องตึงตัวขึ้น ซึ่ง The Economist เรียกร้องให้หยุด เนื่องจาก
(1) การขึ้นดอกเบี้ยของ Fed กำลังใกล้จะสิ้นสุด และจะต้องมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในไม่ช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ดังนั้น หากทำการลดดอกเบี้ยแต่ยังทำ QT ก็เหมือนกับการกระตุ้นเศรษฐกิจและดูดสภาพคล่องไปพร้อมกัน
(2) ความเสี่ยงในด้านเสถียรภาพการเงินในปัจจุบันมีมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นที่อาจปรับตัวลดลงในอนาคต และหากเกิดการปรับฐานรุนแรงก็จะทำให้เสถียรภาพทางการเงินมีปัญหา ขณะที่ภาวะสภาพคล่องที่ตึงตัวอยู่แล้ว (จากสินเชื่อที่ชะลอลง) หลังจากความล้มเหลวของธนาคารหลายแห่งและการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น มีแนวโน้มที่จะรุนแรงมากขึ้นในระยะต่อไป
(3) ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังของสหรัฐก็พร้อมที่จะดูดซับสภาพคล่องที่มากขึ้น โดยต้องออกพันธบัตรมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 3 เดือนข้างหน้าเพื่อเติมเงินคงคลัง มาตรการดังกล่าวจะทำให้ความเสี่ยงของตลาดมีมากขึ้น
ในส่วนผู้เขียนเองมองว่า แม้ความเสี่ยงการเงินตึงตัวจะมีมากขึ้น แต่เฟดคงยังไม่หยุดมาตรการ QT ในเร็วๆ นี้ เนื่องจากการยุติ QT อาจเป็นการส่งสัญญาณผิดให้กับนักลงทุนว่า เฟดเริ่มมีแนวคิดที่จะลดดอกเบี้ยลงอีกครั้ง ซึ่งจะกระตุ้นความคาดหวังเงินเฟ้อได้
แต่ด้วยการที่เฟดยังคงมาตรการ QT พร้อมด้วยการดูดสภาพคล่องผ่านออกพันธบัตร เพื่อเติมเงินคงคลังของกระทรวงการคลังสหรัฐ (ซึ่งรุนแรงกว่า QT มาก เพราะการดูดเงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ใน 3 เดือน เท่ากับดูดเดือนละกว่า 3 แสนล้าน หรือกว่า 3 เท่าของปริมาณเงินของมาตรการ QT)
จะทำให้สภาพคล่องที่ตึงตัวอยู่แล้วยิ่งตึงรวดเร็วมากขึ้น และนำไปสู่ความเสี่ยงสถาบันการเงิน และ/หรือภาคเอกชนที่มีหนี้สินเป็นดอกเบี้ยลอยตัวเป็นจำนวนมาก มีความเสี่ยงที่จะล้มละลายได้มากขึ้น และจะเป็นผลต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้างต่อไป
อย่าเล่นกับไฟ อย่าไฟต์กับธนาคารกลาง | ปิยศักดิ์ มานะสันต์
3.เศรษฐกิจจีนกำลังมีปัญหา ในปัจจุบัน เศรษฐกิจจีนขยายตัวต่ำกว่าคาดมาก จากความกังวลรายได้ เศรษฐกิจโลกอ่อนแอ และสินค้าคงคลังที่ล้นเกิน โดยหลายฝ่ายมองว่าจีนอาจเผชิญกับเศรษฐกิจตกต่ำซ้ำสอง (Double-dip recession)
หากติดตามตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือน พ.ค. พบว่าขยายตัวต่ำกว่าคาดทุกดัชนี ขณะที่การส่งออกจีนกลับมาหดตัวอีกครั้ง ขณะที่เงินเฟ้อผู้ผลิตก็ติดลบ
บ่งชี้ความเสี่ยงเงินฝืด ทำให้ธนาคารกลางจีนต้องลดดอกเบี้ยนโยบายลง รวมถึงมีการส่งสัญญาณว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการคลังขนานใหญ่ โดยหลายฝ่ายมองว่าเป็นไปได้ที่รัฐบาลกลางอาจออกพันธบัตรเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษวงเงินกว่า 5 แสนล้าน-1 ล้านล้านหยวน เช่นเดียวกับในปี 2563 เพื่อใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนวิเคราะห์ว่ามาตรการกระตุ้นภาคการคลังของจีนจะกระทำได้อย่างจำกัด จาก (1) หนี้ประชาชาติโดยรวมของจีนที่อยู่ในระดับสูง โดยล่าสุดอยู่ถึง 297.2% GDP ทำให้จีนไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ได้
(2) รัฐบาลท้องถิ่นต่างๆ ไม่กล้าที่จะเบิกจ่ายมาตรการกระตุ้นมาก เนื่องจากรัฐบาลกลางเข้มงวดเรื่องคอร์รัปชัน และ (3) รายได้จากการขายที่ดินของรัฐบาลท้องถิ่นลดลงเนื่องจากมาตรการคุมภาคอสังหาฯ ในช่วงที่ผ่านมาทำให้ผู้พัฒนาโครงการไม่กล้าลงทุนใหม่ ซึ่งเมื่อรายได้ลดลง ก็ทำให้รัฐบาลท้องถิ่นมีเงินไปจ่ายภาระดอกเบี้ยลดลง
ภาพเศรษฐกิจจีนที่ชะลอแรงขึ้น ผสมผสานกับสภาพคล่องโลกที่จะตึงตัวมากขึ้น จะทำให้เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากขึ้นในระยะต่อไป
ภาพต่างๆ เหล่านี้จะทำให้เศรษฐกิจโลกและไทยในครึ่งปีหลังมีความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ค่าเงินและกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายก็จะมีความผันผวนขึ้น ตามนโยบายการเงินที่แตกต่างกันระหว่างจีนและญี่ปุ่นกับชาติตะวันตก ทำให้ค่าเงินเอเชียรวมถึงไทยที่วิ่งไปกับค่าเงินหยวนและเยนอาจจะอ่อนค่ามากขึ้น
เมื่อธนาคารกลางจะเบรกเศรษฐกิจ นักธุรกิจและนักลงทุน ก็อย่าได้คิดเล่นกับไฟ
By ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ | Global Vision
บทความนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัดอยู่
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"