ธรรมชาติลงโทษ ‘เอลนีโญ’ ธีมใหญ่ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกและไทย ผลกระทบไปไกลถึงไหนบ้าง?

ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก’ สุภาษิตสำนวนไทยนี้คงเป็นตัวสรุปได้อย่างดีกับสถานการณ์ความท้าทาย ณ ปัจจุบัน ในขณะที่โลกกำลังหาทางฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด สงครามรัสเซีย-ยูเครน และปัญหาเอลนีโญรอบใหม่ก็กลับมาอีกครั้งในรอบ 4 ปี

ตามประกาศอย่างเป็นทางการของสหรัฐอเมริกา
แม้ปรากฏการณ์การเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศระหว่างเอลนีโญ-ลานีญา จะเคยเกิดขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วนตามวัฏจักรของมัน แต่ครั้งนี้องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization) แสดงความกังวลเป็นอย่างมากว่า เอลนีโญที่กลับมาในปี 2023 กำลังจะนำมาสู่มูลค่าความเสียหายครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลมา เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวนมากทำให้อุณหภูมิโลกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น
ปัญหาโลกร้อนและเอลนีโญจะส่งผลกระทบกับค่าครองชีพทั่วโลก
โดยทั่วไป เอลนีโญเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่นำมาซึ่งความแห้งแล้งและความร้อนให้กับพื้นที่ประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย ในขณะที่แนวชายฝั่งทวีปอเมริกาใต้มีฝนตกหนัก สำนักข่าว Bloomberg มีการเก็บข้อมูลในอดีตและพบว่า เอลนีโญที่เกิดขึ้นในครั้งก่อนๆ ส่งผลลบต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) เช่น ออสเตรเลีย อินเดีย และอีกหลายประเทศที่อยู่ในเอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้
ภาวะโลกร้อนรวมกับความแห้งแล้งของเอลนีโญ จะทำให้อุณหภูมิที่สูงผิดปกติในหลายพื้นที่ทั่วโลก ก่อให้เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขจากการขาดแคลนพลังงานที่มีความถี่มากขึ้น และผลผลิตทางการเกษตรที่มักจะผลิตได้น้อยกว่าความต้องการ ซึ่งจะส่งผลกับสภาพความเป็นอยู่ของเราแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยด้านอาหาร หรือแนวทางการรับมือกับอากาศที่จะร้อนขึ้นอีกในอนาคต
Bhargavi Sakthivel นักเศรษฐศาสตร์ประจำสำนักข่าว Bloomberg ในอังกฤษให้ความเห็นว่า เอลนีโญครั้งนี้มาได้ผิดที่ผิดเวลามาก เพราะมันจะยิ่งมาซ้ำเติมปัญหาเงินเฟ้อและความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ในช่วงที่ผ่านมานโยบายการแทรกแซงเศรษฐกิจจากภาครัฐมักจะพยายามกำหนดทิศทางของความต้องการบริโภคหรืออุปสงค์ แต่เมื่อเอลนีโญมาถึงมันจะเป็นตัวกำหนดปริมาณสินค้าและบริการที่มีในตลาดหรืออุปทาน ซึ่งหมายความว่า ‘นโยบายธนาคารกลางต่างๆ อาจไม่สามารถช่วยบรรเทาอะไรได้มากนัก’
ประเทศอย่างชิลีที่เป็นแหล่งผลิตทองแดงรายใหญ่ของโลกกว่า 30% อาจได้รับผลกระทบจากเอลนีโญ ที่จะทำให้ปริมาณฝนในบริเวณนั้นเพิ่มสูงขึ้น และเพิ่มความยากลำบากในการเข้าถึงแหล่งผลิต ซึ่งจะส่งผลกับราคาสินค้าที่ต้องพึ่งพาทองแดง เช่น รถยนต์ และคอมพิวเตอร์ให้ปรับตัวสูงขึ้นได้
หรือในประเทศจีนที่อากาศร้อนจัดได้คร่าชีวิตปศุสัตว์ (Livestocks) ไปจำนวนหนึ่ง และยังกดทับกำลังการผลิตพลังงานไฟฟ้าด้วย ความแห้งแล้งปี 2022 ทำให้หลายโรงงานผลิตสินค้าโดนตัดพลังงานไปกว่าสองสัปดาห์ ส่งผลให้สายการผลิตชิ้นส่วนของบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Tesla ถูกกระทบไปด้วย เหตุผลของการระงับการจ่ายพลังงานนั้นเป็นไปเพื่อไม่ให้โรงผลิตไฟฟ้าทำงานหนักมากเกินควร และในปีนี้ทางการจีนก็คาดว่าการขาดแคลนพลังงานน่าจะเกิดซ้ำอีก
แม้กระทั่งกาแฟก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน เนื่องจากประเทศผู้ผลิตเมล็ดกาแฟหลักอย่าง บราซิล และเวียดนามก็ถูกพิษเอลนีโญเล่นงานให้การผลิตทำออกมาได้ต่ำกว่าเป้า ทำให้ราคาเมล็ดกาแฟพันธุ์โรบัสต้าพุ่งทะยานไปสู่ระดับราคา 2,790 ดอลลาร์ต่อตัน สูงสุดในรอบ 15 ปี หรือราคาโกโก้ที่อยู่ในระดับสูงสุดรอบ 7 ปีที่ประมาณ 3,200 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน
ความแห้งแล้งกับผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรของไทย
นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยดาร์ตมัธ ในสหรัฐฯ ทำการประเมินว่าเอลนีโญที่เกิดในปี 1997-1998 ทำให้ GDP ในอีก 5 ปีให้หลังสูญเสียมูลค่าไปกว่า 5.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งภายในสิ้นศตวรรษนี้ (ภายในปี 2100) พวกเขาประเมินว่าวิกฤตทางสภาพอากาศนี้จะสร้างความเสียหายให้กับ GDP ได้ถึง 84 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบเท่า GDP ของปี 2020 ทั้งปี
สำนักข่าว Bloomberg ยังทำการคาดการณ์ผ่านโมเดลเศรษฐกิจของพวกเขาถึงผลกระทบจากเอลนีโญต่อ GDP และอัตราเงินเฟ้อในประเทศต่างๆ แล้วพบว่าประเทศไทยอาจเห็น GDP ตัวเองหดตัวไป -0.2% และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นที่ประมาณ 0.7% เพราะเอลนีโญครั้งนี้
หนึ่งในสินค้าส่งออกหลักของไทยอย่างข้าวก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน โดย ชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า “ผมคิดว่าปริมาณข้าวที่ผลิตได้จะลดลงอย่างแน่นอน แต่ก็ไม่ถึงกับขาดแคลน ฉะนั้นผมคิดว่าปีนี้จะเป็นปีที่ผู้ขายมีอำนาจต่อรองทางการค้าที่มากขึ้น” เนื่องจากมีการคาดการณ์ว่าข้าวที่ผลิตได้ทั่วโลกจะมีปริมาณลดลงจากปีก่อนถึง 5% ทำให้หลายประเทศเร่งกักตุนข้าวเพิ่มขึ้น
อีกทั้งข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เผยว่า การส่งออกข้าวของไทยเพิ่มขึ้น 18% ทั้งนี้ ประเทศอย่างเวียดนามก็มีสัดส่วนการส่งออกไปสู่จีนและอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 70% และเกือบ 2,500% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม การมาของเอลนีโญที่มีแนวโน้มสูงให้ฝนตกได้น้อยลงในหลายพื้นที่ รวมถึงประเทศผู้ส่งออกข้าวหลักของโลกอย่าง อินเดีย ไทย และเวียดนาม ที่ผลผลิตนั้นขึ้นอยู่กับปริมาณฝนที่จะตกลงมาเป็นปัจจัยสำคัญ โดยเฉพาะอินเดียที่เป็นผู้ส่งออกเบอร์ 1 โดยพวกเขาส่งออกข้าวมากกว่าอันดับ 2 อย่างไทยถึง 2.6 เท่า (ข้อมูลสถิติจาก Statista) ที่เริ่มแสดงให้เห็นสัญญาณชะลอการส่งออกจากความกังวลเรื่องความมั่นคงทางอาหารจากภาพด้านล่างที่ยอดการส่งออกข้าวทั่วโลกลดลง
ซึ่งหากอุปทานข้าวไม่เพียงพอต่อความต้องการบริโภคของโลก ปัญหาก็จะไปผุดอยู่ในราคาข้าวที่แพงขึ้นประมาณ 15-20% ในปีหน้าจากการคาดการณ์ของ Sam Mohanty นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ (IRRI) ระบุว่า ถึงแม้ในระยะสั้นไทยจะส่งออกได้เพิ่มขึ้น แต่คำถามสำคัญคือ เอลนีโญครั้งนี้จะรุนแรงแค่ไหน? เพราะนั่นหมายถึงอนาคตการส่งออกข้าวและปากท้องของคนไทยเราด้วย
SCB EIC ประเมินความเสียหายในภาคการเกษตรจากภาวะฝนแล้งที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ว่า จะมีมูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณน้ำที่คาดว่าจะกักเก็บได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ความสามารถในการผลิตสินค้าเกษตรอย่างข้าวนาปรังปี 2024 ที่ต้องพึ่งพาน้ำฝนของปีนี้มีแนวโน้มลดลง
ปัญหาเรื่องการบริหารน้ำก็สอดคล้องกับมุมมองของ วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานกรรมการหอการค้าไทย ให้สัมภาษณ์กับ Bangkok Post ว่า การขาดแคลนน้ำจะกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตรไทยทั้งในด้านของปริมาณที่ผลิตได้และต้นทุน รวมไปถึงสินค้ากลุ่มปศุสัตว์ที่จะเจอต้นทุนอาหารสัตว์ที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้การปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าอาหารเป็นเรื่องที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพราะสินค้าเหล่านี้ต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากผลิตผลทางการเกษตรสูง ทั้งนี้ ผลกระทบของเอลนีโญยังส่งผลต่อภาคการบริการน้ำประปาที่อาจไม่เพียงพอต่อความต้องการด้วย
ทรัพยากรน้ำ หนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อชะตากรรมเศรษฐกิจไทย
จากความกังวลเรื่องน้ำขาดแคลนนี้ Bangkok Post รายงานว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ที่ประกอบไปด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ยื่นเสนอจดหมายต่อนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม เพื่อเร่งหาแนวทางบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้มีประสิทธิภาพทั้งในระยะสั้นและยาว
ทาง กกร. เสนอให้ภาครัฐมีการวางแผนเพื่อให้มั่นใจว่าจะมีปริมาณน้ำใช้เพียงพอเพื่อการผลิตและส่งออกสินค้าสำคัญของไทย เช่น ข้าว น้ำตาล น้ำมันปาล์ม สับปะรด และข้าวโพด เป็นต้น การขาดแคลนน้ำจะทำให้ไทยมีต้นทุนค่าเสียโอกาสที่มาก หากเป็นเช่นนั้นสินค้าอาจมีราคาสูงขึ้นประมาณ 5-10% โดยเฉลี่ย ซึ่งจะทำให้ไทยสูญเสียความได้เปรียบทางการแข่งขันในภาคการส่งออกกับประเทศคู่แข่ง ส่วนในระยะยาว กกร. ยังชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่ประเทศจะได้รับจากการลงทุนเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืน
ในส่วนของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่กำลังหาทางรับมือกับเอลนีโญ มีการหารือกันถึงประเด็นเรื่องความเสี่ยงของการขาดแคลนน้ำ การพัฒนาวิธีบริหารแหล่งที่มาและแหล่งเก็บน้ำ รวมไปถึงแผนการจัดการน้ำแบบองค์รวม เพื่อให้มั่นใจว่าไทยจะมีทรัพยากรที่จำเป็นให้ใช้เพียงพอและพร้อมรับมือกับเอลนีโญที่มาถึงแล้ว และมันกำลังค่อยๆ นำความแห้งแล้งมาสู่หลายๆ ประเทศรวมถึงไทยเราเช่นกัน
โดย สรสิช ลีลานุกิจ
Source: Standard Wealth

คลิก

Cr.Bank’s Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"