ก็เหมือนกับทุกท่านที่มีกล่อง กระปุก หรือถ้วยใส่เศษสตางค์ที่บ้านแหละครับ เราออกจากบ้านพกแบงค์ใส่กระเป๋าเงินออกไปใช้จ่ายในขีวิตประจำวัน พอตกเย็นกลับมาบ้านเราเอาเศษเหรียญที่เหลือจากการใช้จ่ายกลับมาหยอดกระปุกที่บ้าน
พอถึงเวลาเราก็ไปธนาคารเอาเงินจำนวนนี้ไปฝากถือเป็นเงินออมเรา ในยุค technology เราใช้จ่ายกันออนไลน์รวมถึงเครดิต เดบิตการ์ตซึ่งเงินไปได้ทอนกลับมาเป็นเหรียญสตางค์ จึงมีคนคิดว่า เอ้ะ แล้วแบบนี้ทำไมไม่ทำให้ Digital money พวกนี้ออมเงินได้หละ จึงเกิดศาสตร์ที่เรียกว่า Micro investing ขึ้น ขั้นตอนก็คือ เราไปลงทะเบียนไว้กับแอพในมือถืออย่างเช่น Acorn ใส่เลข Debit Credit card ลงไป จากนั้นทุกครั้งที่เราใช้เงิน ระบบจะเจียดเงินส่วนนึงที่เราใช้มาใส่ในพอร์ทลงทุนให้เราอัตโนมัติ เช่นเราเข้า starbuck ทุกวันทำงาน เดือนนึง 20 วัน ระบบก็จะเจียดเงิน 5-10บาทจากกาแฟที่เราซื้อ แล้วนำไปลงทุนให้เรา
การลงทุนก็ไม่ยาก มีให้เลือกว่าเราอยากลงทุนเสี่ยงขนาดไหน 5 ระดับ แล้วนำไปลงทุนใน ETF (กองทุนที่ราคาดูได้ realltime เหมือนหุ้น) อย่าง ishare หรือ Vanguard โดยมึ Asset class ให้เลือกอย่างเช่น อสังหา หุ้นบริษัทใหญ่ หุ้นบริษัทเล็ก หุ้นตลาดเกิดใหม่ และตราสารหนี้รัฐและเอกชน ซึ่งทุกอย่างเป็นออโตเมติก ค่าใช้จ่ายก็น้อยนิดตกที่ 30 บาทต่อเดือน ซึ่งผมว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจ เหมาะกับคนที่ไม่ได้มีเงินเยอะๆไปลงทุนเอง คนที่ไม่มีความรู้ด่านลงทุน รวมถึงเด็กและวัยรุ่น
เพราะคนกลุ่มนี้รอบตัวมีเยอะมาก ถ้าหันมาออม สุขภาพทางการเงินพวกเขาน่าจะดีขึ้นเยอะ การลงใน ETF ก็ปลอดภัยกว่าหุ้นเยอะ อีกอย่างถ้ามองดีๆเศษเงินในชีวิตประจำวันถ้านับต่อปีผมคิดว่าไม่ใช่น้อยๆ เดี่ยวทำตกหล่นบ้าง เอาไปซื้อของไรสาระบ้าง วิธีนี้น่าจะช่วยให้เราเอาเงินไปใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น
อีกแอพที่คล้ายๆกันคือ stash เป็นอีกหนึ่งทางเลือก หวังว่า fintech ในไทยจะมีแอพรูปแบบนี้มาช่วยคนไทยเก็บเงินบ้าง
บอม
>
https://www.investopedia.com/terms/m/microinvesting-platform.asp
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
