'สภาพัฒน์' หั่นกรอบ GDP โตไม่เกิน 3.2% รับสถานการณ์ความขัดแย้ง - โลกแบ่งขั้ว

สศช.เผยจีดีพี ไตรมาส 2 บวก 2.5% ชี้เศรษฐกิจไทยฟื้นต่อเนื่องจากช่วงโควิด จับตาความขัดแย้งต่างประเทศ โลกแบ่งขั้ว การขึ้นดอกเบี้ย ราคาน้ำมันทรงตัวสูง ปรับกรอบจีดีพีจาก 2.5-3.5% เป็น 2.7-3.2% รับปัญหาขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์

แนะธนาคารพาณิชย์ตรึงดอกเบี้ยช่วยรายย่อย ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์กลางมาเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ปรับประมาณการกรอบบนลง โดยในปี 2565 ประมาณการเศรษฐกิจใหม่ปีนี้เป็น 2.7-3.2% ต่างจากประมาณการเดิม 2.5-3.5% ที่แถลงไว้เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2565
ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2565 ขยายตัว 2.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของที่แล้ว เป็นการขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 1 ที่จีดีพีเติบโต 2.3% ทำให้ในครึ่งแรกปีนี้ เศรษฐกิจขยายตัว 2.4%
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไตรมาส 2 ขยายตัวจากหลายส่วน ได้แก่ การอุปโภค บริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 6.9% เนื่องจากการควบคุมสถานการณ์โควิด-19 ได้ดี และการกระตุ้นการใช้จ่ายภาครัฐ นอกจากนั้นภาคการส่งออกบริการเติบโตสูงถึง 54.3% ตามการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวมากขึ้นทำให้ภาคเศรษฐกิจในกลุ่มโรงแรมและภัตตาคารที่ขยายตัวดีตามการฟื้นตัวภาคท่องเที่ยว ส่วนภาคการส่งออกเติบโตได้ 4.6% และการลงทุนรวมลดลง 1% มาจากการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 2.3% แต่การลงทุนภาครัฐลดลง 9.0%
ปรับ“จีดีพี”รับโลกป่วน
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการ สศช.เปิดเผยว่า การปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2565 ครั้งนี้ 2.7-3.2% ยังคงค่ากลางที่ 3% โดยปรับกรอบบนลงเล็กน้อยจาก 3.5% เหลือ 3.2% เพื่อรองรับสถานการณ์โลกที่มีความไม่แน่นอนจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์จากสถานการณ์สงครามระหว่างยูเครนและรัสเซีย รวมทั้งความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งที่ขยายตัวออกนอกภูมิภาคยุโรป อย่างกรณีไต้หวันที่เพิ่งเกิดขึ้นซึ่งจะกระทบต่อบรรยากาศและการค้าของโลกซึ่งอาจกระทบกับภาคการส่งออกของไทยได้
“สถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นและเริ่มขยายวงออกจากภูมิภาคยุโรปมาพื้นที่อื่น เช่น ทะเลจีนตะวันออก จะเกิดผลกระทบต่อซัพพลายเชน และบางอุตสาหกรรมจะได้รับผลกระทบมาก เช่น การขาดแคลนชิปที่จะกระทบอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ไฟฟ้า แต่เป็นโอกาสของไทยที่จะดึงอุตสาหกรรมเหล่านี้เข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น”
ทั้งนี้ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังส่งผลต่อระดับราคาพลังงานทั้งก๊าซธรรมชาติ และราคาน้ำมันอาจเพิ่มขึ้นได้เนื่องจากหากมีการคว่ำบาตรเพิ่มเติมทำให้ราคาผันผวนและราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจทำให้ราคากลับมาเพิ่มสูงได้ในบางช่วงเวลาโดย สศช.คงประมาณการราคาน้ำมันเฉลี่ยปีนี้บาร์เรลละ 95-105 ดอลลาร์
ห่วง“สหรัฐ-จีน”ขัดแย้งมากขึ้น
นอกจากนี้ สศช.ได้ประเมินผลกระทบความขัดแย้งระหว่างสหรัฐ-จีนต่อไทย ซึ่งจีนประกาศซ้อมรบต่อ 1 เดือน ระหว่างวันที่ 8 ส.ค.-8 ก.ย.2565 อาจกระทบขนส่งทางเรือเข้า-ออกไต้หวัน
รวมทั้งจีนประกาศคว่ำบาตรทางการค้ากับไต้หวัน โดยส่วนหนึ่งของมาตรการได้ห้ามส่งออกทรายธรรมชาติที่เป็นวัตถุดิบของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไต้หวันที่มีส่วนแบ่งในตลาดโลกมากกว่า 70% และจีนเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่สัดส่วน 46% ของการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั้งหมดของไต้หวัน
สำหรับการประเมินผลต่อเศรษฐกิจไทยครั้งนี้ สศช.มองผลกระทบ 4 ด้าน ดังนี้
1.การขนส่งสินค้าและระบบโลจิสติกส์ ในกรณีปิดล้อมน่านน้ำไต้หวันกระทบการส่งออกไทยไต้หวัน ซึ่งมูลค่าการส่งออกปี 2564 อยู่ที่ 4,673 ล้านดอลลาร์ สัดส่วน 1.7% ของการส่งออกสินค้าไทยทั้งหมด และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 10 ของไทย
2.ผลกระทบห่วงโซ่อุปทาน จากการที่ไต้หวันเป็นผู้ผลิตแผงวงจรไฟฟ้ารายใหญ่ของโลก โดยปี 2564 ไทยนำเข้าจากไต้หวันสัดส่วน 30.5% ของการนำเข้ารวม คิดเป็นมูลค่า 4,616 ล้านดอลลาร์ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะกระทบฐานการผลิตสำคัญในไทย คือ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์
3.ผลกระทบด้านแรงงาน เนื่องจากไต้หวันเป็นปลายทางที่คนไทยเลือกเดินทางไปทำงานสูงสุด โดยมีแรงงานไทย 48,542 คน รองลงมาเป็นอิสราเอล 20,555 คน เกาหลีใต้ 12,950 คน ญี่ปุ่น 7,665 คน และสวีเดน 6,680 คน ซึ่งความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวันอาจส่งผลต่อความเป็นอยู่ของแรงงานไทยในไต้หวัน
4.ผลกระทบด้านการท่องเที่ยว โดยข้อมูลนักท่องเที่ยวจากไต้หวันมาไทยช่วง 6 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 8,060 คน คิดเป็น 0.4% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศทั้งหมดและมีแนวโน้มสูงขึ้นหากไม่เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างจีนและไต้หวัน แต่ถ้าความขัดแย้งส่งผลให้เศรษฐกิจไต้หวันชะลอตัว และการเดินทางจากไต้หวันไม่สะดวกอาจทำให้นักท่องเที่ยวไต้หวันมาไทยช่วงที่เหลือปีนี้ลดลง
ห่วงขึ้นดอกเบี้ยฉุดเศรษฐกิจ
นายดนุชา กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยอาจได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ภายหลังจากเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ซึ่งอาจกระทบผู้มีรายได้น้อยและธุรกิจรายย่อย รวมทั้งกระทบกับภาพรวมของหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหามาตรการช่วยเหลือ รวมทั้งธนาคารพาณิชย์อาจจะต้องช่วยคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมเพื่อช่วยเหลือกลุ่มที่อาจได้รับผลกระทบได้
สำหรับการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปี 2565 ที่สำคัญ ได้แก่ เศรษฐกิจโลกคาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ 3.3% ปริมาณการค้าโลกโดยรวมคาดว่าจะขยายตัวได้ 4.3% ลดลงจากเดิมที่คาดการณ์ว่าจะขยายตัวได้ 4.7% ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวได้ 2.2% เศรษฐกิจยูโรโซนคาดการณ์ขยายตัวได้ 2.6% เศรษฐกิจจีนขยายตัวได้ 3.3%
ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนคาดว่าจะอยู่ที่ 34.5-35.5 บาทต่อดอลลาร์ มูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในรูปเงินดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7.9% การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว 4.4% และการลงทุนของภาคเอกชนขยายตัว 3.1% ส่วนอัตราเงินเฟ้อของไทยคาดว่าอยู่ที่ 6.3-6.8% โดยจะทยอยปรับตัวลดลงในช่วงครึ่งปีหลังแต่ถือว่าสูงกว่าระดับปกติ
นอกจากนี้ สศช.ปรับคาดการณ์จำนวนและรายได้จากภาคการท่องเที่ยวปี 2565 จากเดิมคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทย 7 ล้านคน มีรายได้เข้าประเทศ 5.7 แสนล้านบาท ปรับเพิ่มคาดการณ์เป็นจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าไทยเพิ่มเป็น 9.5 ล้านคน และมีรายได้จากภาคการท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 6.6 แสนล้านบาท
มั่นใจไม่เกิดขาดดุลแฝด
สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยถือว่าแข็งแรงมาก โดยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ 2.2 แสนดอลลาร์ อัตราการว่างงาน 1.7% ขณะที่ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดขาดดุล 1.6% ทำให้ความกังวลกรณีข้อกังวลที่เกี่ยวกับการขาดดุลแฝด (Twin Deficits) หรือการขาดดุลการคลัง และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดควบคู่กันนั้นถือว่าไม่น่ากังวลว่าจะเหมือนวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 เพราะช่วงนั้นขาดดุลแฝดเหมือนกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบันไม่ได้น่ากลัวเหมือนหลายคนกังวล และเชื่อว่าการขาดดุลแฝดครั้งนี้ไม่รุนแรงเหมือนช่วงต้มยำกุ้ง
ทั้งนี้หากพิจารณารายละเอียดของตัวเลขเศรษฐกิจทั้งหมดจะเห็นว่าการส่งออกปี 2565 ไปได้ดีต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลัก ประกอบกับเครื่องชี้อื่นยังขยายตัวได้ดี และมีเพียงบางตัวที่หดตัว แต่ไม่กังวลเพราะเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นขึ้นมาต่อเนื่อง
“ปัญหาการขาดดุลแฝดจะรุนแรงหรือไม่ จะเหมือนช่วงต้มยำกุ้งอีกหรือไม่ ส่วนตัวมองว่าไม่รุนแรงแบบนั้น เพราะช่วงก่อนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 ไทยเคยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงถึง 8% ติดต่อกัน 2-3 ปี จึงทำให้เกิดวิกฤติขึ้น แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน และเมื่อดูตัวเลขการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดน้อยมาก แถมทุนสำรองระหว่างประเทศปัจจุบันสูง ไม่เหมือนก่อนต้มยำกุ้งที่มีทุนสำรองไม่มากเหมือนตอนนี้ซึ่งมีฐานะการเงินการคลังประเทศยังดีอยู่ เพียงแต่มีปัจจัยเสี่ยงเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ที่ต้องจับตาเท่านั้น”
8โจทย์บริหารเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า ประเด็นการบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาคช่วงที่เหลือของปี 2565 รวม 8 ประเด็น ได้แก่
1.การติดตามและดูแลกลไกตลาดเพื่อให้ราคาสินค้าเคลื่อนไหวสอดคล้องกับต้นทุนการผลิตควบคู่ไปการดูแลผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางต่อการเพิ่มขึ้นราคาสินค้าและภาระดอกเบี้ยแบบมุ่งเป้า
2.การดูแลการผลิตภาคเกษตรและรายได้เกษตรกร โดยให้ความสำคัญกับ การบรรเทาผลกระทบแก่เกษตรกรจากปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบและปัญหาต้นทุนการผลิต การเตรียมการและป้องกันปัญหาจากอุทกภัย และการเพิ่มส่วนแบ่งเกษตรกรในรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตขั้นสุดท้าย
3.การดูแลและแก้ไขปัญหาหนี้สินของลูกหนี้รายย่อยท่ามกลางแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ทั้งภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) รวมทั้งเตรียมมาตรการเพื่อสนับสนุนการปรับตัวภาคธุรกิจ
4.การรักษาแรงขับเคลื่อนจากการส่งออกสินค้า โดยการขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าสำคัญไปตลาดหลักและการสร้างตลาดใหม่ให้สินค้าที่มีศักยภาพ การพัฒนาสินค้าเกษตร อาหารและสินค้าอุตสาหกรรม ให้มีคุณภาพและมาตรฐานตามข้อกำหนดประเทศผู้นำเข้า
รวมถึงใช้ประโยชน์จากกรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ควบคู่การเร่งรัดเจรจาความตกลงการค้า และเตรียมศึกษาเจรจากับประเทศคู่ค้าสำคัญใหม่ และการส่งเสริมภาคธุรกิจบริหารจัดการความเสี่ยงรองรับความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน
5.การสนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและบริการเกี่ยวเนื่อง โดยส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวคุณภาพสูง การพิจารณามาตรการสินเชื่อและมาตรการสนับสนุนอื่นให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวกลับมาประกอบธุรกิจ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่อเนื่อง และการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ
6.การส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน โดยเร่งรัดผู้ประกอบการที่ได้รับอนุมัติและออกบัตรส่งเสริมการลงทุนปี 2562-2564 ให้ลงทุนจริง โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย การแก้ไขปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการลงทุนและการประกอบธุรกิจ รวมทั้งปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคการผลิต การดำเนินมาตรการส่งเสริมการลงทุนเชิงรุกและอำนวยความสะดวกเพื่อดึงดูดนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย การส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่ดำเนินการไปแล้ว
รวมถึงขับเคลื่อนพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษแต่ละภูมิภาค การขับเคลื่อนการลงทุนพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งที่สำคัญและการพัฒนากำลังแรงงานทักษะสูง
7.การขับเคลื่อนการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ
8.การติดตามเฝ้าระวังและเตรียมมาตรการรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจและการเงินโลก และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เป็นปัจจัยที่จับตาใกล้ชิด
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านารเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"