นโยบายการเงินสหรัฐ จุดเริ่มต้นของวิกฤติ

ในปัจจุบัน การคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐรวมถึงเศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Recession) มีมากขึ้น โดยมองว่าผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้สินค้าโภคภัณฑ์โดยเฉพาะพลังงานปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มมากขึ้น

ผลักดันให้ต้นทุนการผลิตและค่าครองชีพประชาชนให้สูงขึ้นนำไปสู่ภาวะถดถอยในที่สุด
แต่เรามองว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยได้มากที่สุดไม่ใช่ผลโดยตรงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนเอง แต่เป็นเพราะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากปัญหาการผลิตที่ถูกกระทบจากสงคราม รวมถึงการคว่ำบาตรด้านเศรษฐกิจจากประเทศตะวันตก
รัสเซียเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติอันดับ 1 และน้ำมันอันดับ 2 อลูมิเนียมและทองแดงอันดับ 10 ขณะที่ยูเครนเป็นผู้ส่งออกข้าวสาลีที่สำคัญ โดยมีสัดส่วนรวมกับรัสเซียถึงกว่า 30% ของการส่งออกโลก สงครามทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยราคาน้ำมันแตะระดับ 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ก่อนตกลงแต่ยังทรงตัวในระดับสูง ขณะที่ราคาสินแร่สำคัญอย่างนิกเกิล อลูมิเนียมและทองแดงพุ่งขึ้น โดยบางสินแร่ราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ปัจจัยที่ผลักดันให้โลกเข้าสู่ภาวะถดถอย ได้แก่ นโยบายการเงินทั่วโลกที่เข้มงวดขึ้น โดยเรามองว่า วิกฤติพลังงานและราคาโภคภัณฑ์พุ่งทะยานนี้จะทำให้เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะ stagflation หรือเศรษฐกิจตกต่ำแต่เงินเฟ้อพุ่งสูงในปัจจุบันและต่อเนื่องอีก 3-6 เดือนข้างหน้า ภาพเหล่านี้ทำให้ธนาคารกลางทั่วโลกโดยเฉพาะสหรัฐอาจจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวมากกว่าที่ประกาศไว้ในปัจจุบัน
ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ล่าสุด ส่งสัญญาณที่จะดำเนินการคุมเข้มนโยบายการเงิน (hawkish) โดยมีรายละเอียดสำคัญ 5 ประการ ดังนี้
1. ปรับขึ้น Fed Funds Rate (FFR) จาก 0–0.25% สู่ 0.25-0.5% เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี ขณะที่มีคณะกรรมการท่านหนึ่งลงคะแนนให้ปรับขึ้น 0.50%
2. Fed จะประกาศลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening: QT) ในการประชุมเดือนพ.ค.
3. ปรับการคาดการณ์ดอกเบี้ยในอนาคต (Dot plot) ขึ้น จาก 3 ครั้งในปีนี้ เป็น 7 ครั้ง (และขึ้นในปีหน้าอีก 3-4 ครั้ง)
4. ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจ คงคาดการณ์อัตราการว่างงาน และปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อ
5. ผู้ว่าการฯ Fed ส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยต่อ ท่ามกลางตลาดแรงงานที่ตึงตัวแต่เงินเฟ้อสูง พร้อมทั้งไม่ปิดโอกาสที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ในการประชุมครั้งต่อ ๆ ไป หากเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ตาม แม้ผลการประชุมครั้งนี้จะ Hawkish แต่การที่ประธาน Fed ตอกย้ำถึงภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังแข็งแกร่ง ทำให้ตลาดการเงินเบาใจและกลับมาฟื้นตัว (Risk on) อีกครั้ง
กระนั้นก็ตาม เรากลับกังวลกับผลการประชุมครั้งนี้ โดยเรามีมุมมองต่อการประชุมครั้งนี้ 4 ประการ คือ (1) การที่ Fed ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจมามาก จาก 4.0% เป็น 2.8% ในปีนี้ บ่งชี้ว่าในสมมุติฐานราคาน้ำมันของ Fed น่าจะมีการปรับขึ้นเกินระดับ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จึงจะทำให้เศรษฐกิจชะลอลงแรงได้
(2) การที่ Fed ปรับประมาณการเงินเฟ้อขึ้นจาก 2.7% เป็น 4.1% พร้อมส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายรุนแรงขึ้น บ่งชี้ว่า Fed ต้องการคุมความคาดหวังเงินเฟ้อที่ปัจจุบันอยู่ระดับ 4.9% ให้ลงมาแม้จะยอมให้การเจริญเติบโตลดลง
(3) เรามองว่า การคาดการณ์ของ Fed ที่ยังคงประมาณการอัตราว่างงานที่ 3.5-3.6% ตลอด 3 ปี แม้เศรษฐกิจชะลอลงและเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีความเสี่ยงเศรษฐกิจมากขึ้น (เช่น วิกฤตยูเครน การระบาด COVID ในจีน และการขึ้นดอกเบี้ย) บ่งชี้ว่า Fed เชื่อว่าตลาดแรงงานแข็งแกร่งมาก ในขณะที่เราไม่มั่นใจในสมมุติฐานดังกล่าว และ
(4) การคาดการณ์ Dot plot มีครั้งนี้ค่อนข้างหลากหลายมาก โดยทิศทางดอกเบี้ยต่ำสุดและสูงสุดในแต่ละปีห่างกันถึงกว่า 1.5% ขณะที่ในช่วงก่อนหน้าห่างกันเพียงประมาณ 1% บ่งชี้ว่าคณะกรรมการยังไม่มีมุมมองเอกฉันท์ในทิศทางเศรษฐกิจเท่าใดนัก รวมถึงมีโอกาสที่ยังจะปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงินเป็นไปได้ทั้งสองทาง
เรามองว่าความเสี่ยงการดำเนินนโยบายผิดพลาดหรือ Policy mistake มีมากขึ้นจากการส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการทำนโยบาย QT ด้วย ซึ่งหากทำจริงจะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สูงกว่าการขยายตัว GDP ตั้งแต่ 2Q ปี 2023 เป็นต้นไป ทำให้เป็นไปได้ว่าอาจเกิด Economic or Market recession (ภาวะเศรษฐกิจถดถอยระยะสั้น หรือภาวะตลาดตกต่ำรุนแรง) ในครึ่งหลังของปี 2023
นอกจากนั้น จากการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเงินเฟ้อกับการขยายตัวของปริมาณเงินของ 4 เศรษฐกิจสำคัญ เราพบว่า ปริมาณเงินสหรัฐ (M2) เพิ่มขึ้นเร็วกว่าประเทศอื่น ๆ มาก โดยอัตราการขยายตัวขึ้นสูงไปถึงกว่า 27% ในช่วงเดือน ก.พ. ปี 2021 ก่อนปรับลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 12% ในปัจจุบัน ขณะที่ปริมาณเงินของยูโรโซน จีน และไทย เพิ่มขึ้นสูงสุดที่ประมาณ 11% และกลับมาลดลงอยู่ที่ประมาณ 5-9% ในปัจจุบัน
ตามทฤษฎีนโยบายการเงินแล้ว หากเศรษฐกิจประสบวิกฤติจนทำให้การหมุนของเงิน (Velocity หรือ V) ลดลงแล้ว ธนาคารกลางจะต้องอัดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเพื่อคงไม่ให้เศรษฐกิจตกต่ำและเกิดเงินฝืด แต่หากเศรษฐกิจฟื้นตัว เงินจะเริ่มกลับมาหมุนได้มากขึ้น (V เพิ่มขึ้น) ธนาคารกลางจะต้องลดลงอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เงินเฟ้อขึ้น
แต่การที่ปริมาณเงินสหรัฐยังอยู่ในระดับสูงและยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่าประเทศอื่น ๆ ทั้ง ๆ ที่เงินเฟ้อสูงกว่าที่อื่นมาก บ่งชี้ว่า หาก Fed จะคุมเงินเฟ้อในอนาคต Fed ต้องดำเนินนโยบายการเงินตึงตัวมากกว่าปัจจุบัน (โดยเฉพาะขึ้นดอกเบี้ย และดูดสภาพคล่องหรือทำ QT ที่รุนแรงในอนาคต) ซึ่งนโยบายดังกล่าว จะทำให้ความผันผวนทางการเงินโลกมีมากขึ้น เพราะนโยบายการเงินสหรัฐจะกระทบนโยบายการเงินประเทศอื่นผ่านอัตราแลกเปลี่ยนและการเคลื่อนย้ายเงินทุน
เมื่อนโยบายการเงินต้องตึงตัวมากขึ้นและรุนแรงขึ้นในอนาคต ทำให้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐจะเกิดภาวะถดถอย (Recession) ใน 12 เดือนข้างหน้ามีมากขึ้น โดยล่าสุดมีความน่าจะเป็นประมาณ 30% ขณะที่ในยุโรปมีถึงกว่า 50% ภาพเช่นนี้ จะทำให้นโยบายการเงินของโลกหลังจากนี้ไปจะมีความสำคัญมากว่าจะรักษาสมดุลเศรษฐกิจอย่างไร
ความเสี่ยงวิกฤติเศรษฐกิจโลกมีมากขึ้น ท่านทั้งหลาย โปรดลงทุนด้วยความระมัดระวัง
โดย ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์
Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

คลิก

Cr.Bank of Thailand Scholarship Students
-------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี !!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b 
Line ID:@fxhanuman
Web : https://www.fxhanuman.com
Web : https://www.eluforex.com/
FB:https://www.facebook.com/review.forex.broker/
เยี่ยมชม partner ของเราที่ Eluforex รีวิวโบรกเกอร์ Forex
#forex #ลงทุน #peppers #xm #fbs #exness #icmarkets #avatrade #fxtm #tickmill #fxpro #fxopen #fxcl #forex4you

    

Broker Name Regulation Max Leverage Lowest Spreads Minimum Deposit Minimal Lot Contact
221124 trive logo 100x33px

Trive

FCA, ASIC, FSC 2000:1

0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard

$20 0.01 lot

View Profile

Visits website

XM

FCA, ASIC,IFSC,
CySec
1000 : 1 1 pips – Micro
1 pips – Standard

0 pips - Ultra low
$5 0.01 lots View Profile
Visit Website

http://forex4you.com

Forex4you

FSC of BVI 1000 : 1

0.1 pips - Cent
0.1 pips - Classic
0.1 pips - STP

$1 

0.0001 lot Cent
0.01 lot Classic
0.01 lot STP

Visit website
View Profile

Doo Prime

SEC, FINRA, FCA, ASIC, FSA, FSC 500 : 1 0.1 pips $100 0.01 lots View Profile
Visit Website

 Exness 

CySEC, FCA Unli : 1  Stand
Unli : 1 Raw   
Unli : Zero
0.3 pips – Stand
0 pips – Raw
0 pips – Zero
$1 0.01 lot  Stand
0.01 lot  Raw
0.01 lot  Zero
View Profile
Visit Website

HFMarkets

SV, CySEC, DFSA, FCA, FSCA, FSA, CMA 2000 : 1  0.0 pips $5 0.01 lot View Profile
Visit Website

GMIEDGE

 FCA, VFSC 2000:1 0.1 Pips  $2.5  0.01 lot View Profile
Visit Website

150702 icmarkets logo

IC Markets

ASIC, FSA, CYSEC 1000:1 0.0 pips -ECN
0.5 pips - Standard
$10 0.01 lot

View Profile

Visit website

BDSwiss

FSC, FSA 1000 : 1 1.5 pips - Classic
1.1 pips - VIP
0.0 pips - RAW
$10 0.01 lots View Profile
Visit Website

Pepperstone

ASIC,SCB,CYSEC,DFSA,

FCA, BaFIN, CMA,

200 : 1 1 pips - Stand
0.1 pips - Razor
1 pips - No Swap
0 Pips - Active Trade
0 0.01 lot View Profile
Visit Website

TICKMILL

FCA 500:1 1.6 pips $25 0.01 lot View Profile
Visit website
290318 atfx logoATFX FCA, CySEC 200 : 1 1.8 pips $100 0.01 lot View Profile
Visit Website
170803 roboforex logoRoboForex CySEC, IFSC 2000:1 0.4 pips $10 0.01 lot View Profile
Visit Websit

www.fxclearing.com
FXCL Markets

IFSC 500 : 1

1 pips - Micro
1 pips - Mini
0.6 pips - ECN Li
0.8 pips - ECN Inta
1 pips - ECN Sca

$1 0.01 lot View Profile
Visit website

 

AxiTrader

FCA, ASIC, FSP, DFSA 400 : 1  0.0 pips $1 0.01 lot all View Profile
Visit website

http://www.fxprimus.com

FXPRIMUS

CySEC 500 : 1 2 pips - Mini
0.8 pips - Stand
0 pips - ECN
$100 0.01 lot all View Profile
Visit Website

FXTM

CySec ,FCA,IFSC 1000 : 1

0.0 pips - ECN

0.1 pips -Stan

$1 0.01 lot View Profile
Visit Website

AETOS.COM

AETOS

FCA, ASIC, VFSC, CIMA up to 800

Genneral 1.8 pip
Advance 1.2 pip
Pro 0.0 pip

$50
$50
$20,000

0.01 lot View Profile
Visit website

EIGHTCAP

ASIC 500 : 1 0.0 pips  $100 0.01 lot

View Profile

Visit website

 

Fullerton

SFP, NZBN 200 : 1 0.5 pips - Live $200 0.01 lot View Profile
Visit Website

FxPro

CySEC, FCA
FSB, MiFID
500 : 1
Max
0.6 pips  $100 0.01 lot View Profile
Visit Website

INFINOX

 FCA, SCB 400 : 1 0.0 pips $10 0.01 lot  View Profila
Visit Website

VT markets

CIMA, ASIC 500 : 1 0.0 pips $200 0.01 lot  View Profila
Visit Website

TMGM

ASIC 500 : 1 0.0 pips $100 0.01 lot  View Profila
Visit Website

020422 zfx logo

ZFX

FCA, FSA 2000 : 1 0.0 pips

$15

0.01 lot  View Profila
Visit Website

 

ดูตารางเปรียบเทียบโบรกเกอร์ทั้งหมด คลิก

 

 

 

 

 

"การแจ้งเตือนเรื่องความเสี่ยง: การเทรด Forex หรือ CFD และตราสารอนุพันธ์อื่นๆ นั้นผันผวนสูงและมีความเสี่ยงสูง คุณควรพิจารณาอย่างรอบคอบถึงวัตถุประสงค์การซื้อขาย ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น มีความเป็นไปได้ที่ความสูญเสียจะสูงเกินกว่าเงินลงทุนของคุณ คุณควรลงทุนในระดับที่สามารถรับความสูญเสียได้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจความเสี่ยงทั้งหมดและใช้ความระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยงของคุณ"