คนส่วนมากมองว่าอังกฤษเป็นแบบอย่างของราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ (Constitutional Monarchy) โดยมีกษัตริย์เป็นประมุข และมีการเลือกตั้งในระบอบการปกครองที่เป็นประชาธิปไตย มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล ทำงานร่วมกับคณะรัฐมนตรี
อังกฤษมีสภา2สภา คือสภาผู้แทนราษฎร (House of Commons) และสภาวุฒิ (House of Lords) โดยที่กษัตริย์ หรือในกรณีปัจจุบันคือสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่2ไม่ทรงยุ่งกับการเมือง สื่อหรือประชาชนมีเสรีภาพที่จะวิพากษ์วิจารณ์ราชวงศ์ได้ อย่างเสรี บทบาทของควีนส่วนมากเป็นเรื่องสัญลักษณ์ และงานพระราชพิธีต่างๆ แม้ว่าจะเป็นประมุขของประเทศอังกฤษ แต่ควีนต้องอยู่ภายใต้กฎรัฐธรรมนูญ ที่สำคัญที่สุด บทบาทของควีนคือการมุ่งเน้นในการสร้างเอกภาพของชาติ (national unity)
นอกจากนี้ สมเด็จพระราชินีอังกฤษยังทำหน้าเป็นควีนของอาณานิคมของอังกฤษ16ประเทศ รวมทั้งออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์ ควีนเป็นผู้นำของกลุ่มประเทศCommonwealth หรือองค์กรของประเทศสมาชิกที่เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิอังกฤษ
ควีนมีพระราชอำนาจอะไรบ้าง? ควีนมีพระราชอำนาจที่จะปกครอง คนอังกฤษไม่ได้เป็นประชาชน (citizens) แต่เป็นพสกนิกร (subjects) ของควีน พนักงานรัฐส่วนมากต้องสาบานตนว่าจะทำงานรับใช้ควีนอย่างซื่อสัตย์
ถึงแม้ว่าควีนจะทรงวางตัวเป็นกลางทางการเมือง พระองค์มีพระราชอำนาจที่จะได้รับการปรึกษาจากรัฐบาล และมีพระราชอำนาจที่จะให้คำแนะนำ หรือตักเตือนคณะรัฐมนตรีได้ ส่วนพระราชอำนาจอื่นๆ รัฐบาลรับหน้าที่ไปปฏิบัติแทน ไม่ว่าจะเป็นการออกกฎหมาย การเซ็นสนธิสัญญาต่างๆ และการประกาศสงคราม
https://www.theguardian.com/world/2002/may/16/qanda.jubilee
เราจะเห็นได้ว่า อังกฤษยังคงปกครองโดยระบอบราชาธิปไตยอยู่ โดยที่ควีนยังคงมีพระราชอำนาจมากไม่เสื่อมคลาย พระองค์ทรงปกครองอังกฤษอยู่เบื้องหลัง (Deep State) องค์กรที่เป็นDeep State ของอังกฤษคือBank of England, MI 5, MI6, Scotland Yard ฯลฯเพื่อดูแลความมั่นคง หรืออำนาจที่เป็นหัวใจของอังกฤษอีกชั้นหนึ่ง จะเห็นได้ว่าDeep Stateของอังกฤษมีเอกภาพมาก ทุกคนทำงานเพื่อควีน ด้วยเหตุนี้อังกฤษยังคงสามารถครองโลกอยู่ได้
ทุกๆประเทศมีDeep State หรือรัฐบาลเงาทั้งนั้น หรือรัฐบาลที่ซ้อนรัฐบาลอยู่ ในกรณีของสหรัฐ รัฐบาลเงาคือผู้ที่กุมอำนาจหรืออยู่เบื้องหลังUS Federal Reserve, Central Intelligence Agency, National Security Agency, Pentagon, Federal Bureau of Investigation, Wall Street ส่วนรัฐบาลที่ออกหน้าคือทำเนียบขาว โดยทำงานร่วมกับฝ่ายนิติบัญญัติ (The Congress) และฝ่ายตุลาการ (Supreme Court)
ในแง่นี้ โดนัลด์ ทรัมป์เป็นเพียงหุ่นเชิดของพวกDeep State และนักการเมืองสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเดโมแครท หรือรีพับรีกันต่างก็เป็นตุ๊กตาของDeep Stateด้วยกันทั้งนั้น ความขัดแย้งในการเมืองอเมริกันที่เป็นเห็นๆกันอยู่เป็นเพียงละครฉากใหญ่ โดยมีDeep Stateเป็นผู้กำกับเพื่อหลอกคนอเมริกัน และชาวโลก
ประชาธิปไตยของอังกฤษ จึงเป็นประชาธิปไตยที่อยู่ในเงื่อนไขของราชาธิปไตย หรือควีนของอังกฤษ ส่วนประชาธิปไตยของสหรัฐที่ถือว่าเป็นแม่แบบของโลกเป็นประชาธิปไตยที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขของDeep State
ด้วยเหตุนี้ ประชาธิปไตยจึงไม่มีในโลกแห่งความเป็นจริงตั้งแต่ต้น
ถ้าประชาธิปไตยมีจริง ทรัมป์ หรือผู้นำคนอื่นๆที่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชนตั้งมีอำนาจ100%ในการบริหารงาน แต่เราเห็นได้ชัดเจนว่า ทรัมป์ตอนนี้โดนเพนตากอนและฝ่ายความมั่นคงคุมแจ สภาก็ผ่านกฎหมายให้งบทหาร$700,000ล้าน ทั้งๆที่เม็ดเงินจำนวนนี้ควรเอาไปใช้ในการพัฒนาประเทศ หรือลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อกระนุ้นเศรษฐกิจและช่วยในการจ้างงาน
Deep Stateของสหรัฐเป็นรัฐทหาร เหมือนกับจักรวรรดิโรมัน ที่ต้องก่อสงครามไม่มีวันจบสิ้น เพื่อครองโลกอย่างเบ็ดเสร็จ โดยจะทำลายทุกๆประเทศให้หมดความเป็นประเทศและกลายเป็นมณฑลบริวารในที่สุด
ย้อนกลับมาดูประชาธิปไตย/ราชาธิปไตยของอังกฤษอีกครั้ง ในเดือนตุลาคม ปี2015 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงและภรรยาเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการ (State Visit)โดยเป็นแขกของควีน ผู้นำจีนได้รับการต้อนรับจากควีนและราชวงศ์อังกฤษอย่างสมเกียรติ และได้พำนักในพระราชวังบัคกิ้งแฮม งานเลี้ยงอาหารค่ำ (State Dinner)ดูแล้วหรูหรา เป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจมาก
ควีนให้ความสำคัญกับจีนจึงได้เชิญประธานาธิบดีสีไปเยือนอย่างเป็นทางการ เพราะว่าอังกฤษกับรัสเซียเป็นศัตรูคู่แค้นที่สักวันหนึ่งต้องมีการชำระบัญชี การเชิญสีมาอังกฤษมองได้ว่าเป็นความพยายามของควีนที่จะดึงเอาจีนมาอยู่ฝ่ายอังกฤษ เพื่อที่จะถ่วงดุลกับรัสเซีย ในขณะเดียวกัน อังกฤษรู้ดีว่าบทบาทของเงินหยวนจะยิ่งใหญ่ในอนาคต จึงมีความพยายามที่จะให้ลอนดอนเป็นศูนย์กลางของการเทรดเงินหยวน หรือการชำระบัญชี (*Settlements)เงินหยวน แต่ที่สำคัญ เศรษฐกิจจีนจะผงาดในอนาคต อังกฤษวางแผนออกจากอียูมานานแล้ว เพื่อให้มีความคล่องตัว การได้จีนมาเป็นพวกอีกแรงจะช่วยประคองอังกฤษได้
หลังจากที่ต้อนรับผู้นำจีนอย่างหรูหราสมเกียรติในประราชวังบัคกิ้งแฮมแล้ว อันดับต่อไปนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ นายเดวิด คาเมรอนทำให้ที่เลี้ยงดูปูเสื่อสี ดูภาพเอาก็แล้วกันว่ามันแตกต่างกันอย่างกับฟ้ากับดิน ระหว่างสีดื่มเบียร์ กินฟิช&ชิปกับคาเมรอนในพับในกรุงลอนดอน และสีเข้าร่วมState Dinnerกับควีน
2ภาพนี้ฟ้องชัดเจนว่า นายกรัฐมนตรีคาเมรอนเป็นเพียงลูกกระจ๊อกในการเมืองอังกฤษ ที่ระบอบราชาธิปไตยยังคงอยู่ยงคงกระพัน
อังกฤษยิ่งใหญ่ เพราะราชาธิปไตย ไม่ใช่เพราะประชาธิปไตย
อีกตัวอย่างหนึ่งที่ชี้ให้เห็นถึงอำนาจและบารีของควีน คือการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี หลี เค่อเฉียงของจีนในเดือนมิถุนายนปี2014 เพื่อที่จะเปิดตลาดการค้าและการลงทุนระหว่างทั้ง2ประเทศ ในกำหนดการเดินทางเยือน ไม่มีหมายที่จะเข้าเฝ้าควีน แต่หลีต้องการเข้าเฝ้าควีน เพราะว่าระดับมหาอำนาจอย่งจีนแล้วต้องได้รับการต้อนรับจากประมุขของอิงค์แลนด์ ทางอังกฤษมองว่าหลีมีตำแหน่งเป็นเพียงเบอร์2ของจีน ไม่ควรคู่ในการได้รับการต้อนรับจากควีน แต่ทีมงานของหลีไม่ยอม ส่งสัญญานว่า ถ้าหลีไม่ได้เข้าเฝ้าควีน หลีจะยกเลิกการเดินทางเยือนอังกฤษ
ปรากฎว่าอังกฤษยอมถอย เพราะเห็นความสำคัญของจีน หลีมีชัย เพราะว่าได้เข้าเฝ้าควีนตามที่ต้องการ มองดูแล้วนับว่าเป็นการเดินเกมการทูตชั้นยอดของจีน ที่สามารถให้ควีนต้องลงมาต้อนรับระดับเบอร์2ของจีน เพราะว่าปกติแล้ว ควีนจะพบกับผู้นำระดับเบอร์1ของประเทศอื่นๆเท่านั้น
โดนัลด์ ทรัมป์มีกำหนดการเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการปีหน้า ทรัมป์เป็นผู้นำของประเทศมหาอำนาจของโลก ไปถึงไหนต้องมีพรมแดงปูต้อนรับ แต่หนังสือพิมพ์The Independentของอังกฤษรายงานเมื่อเดือนที่แล้วว่า แผนการเยือนอังกฤษของทรัมป์จะถูกลดเกรดลง โดยทรัมป์จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเฝ้าควีน เพราะว่านโยบายทรัมป์ที่ผ่านมาสร้างเรื่องอื้อฉาวมาก เกรงกลัวกันว่าคนอังกฤษจะแห่ประท้วงทรัมป์ ทำให้ภาพดูแล้วไม่งาม
Donald Trump has state visit to UK downgraded "and will not be guest of the queen" (October 11, 2017)
เริ่มเห็นชัดเจนขึ้นแล้วว่า ผู้นำสหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นเบอร์1ของโลก สามารถถูกลดเกรดได้เหมือนกัน การไม่ได้เข้าเฝ้าควีนถือว่าเป็นการถูกลดเกรด ประเด็นคือเมื่อถูกลดเกรด แล้วทำไมทรัมป์ถึงยังดึงดันไปเยือนอังกฤษ
คำตอบเรารู้กันอยู่แล้วว่าDeep Stateเขียนสกริ๊ปให้ทรัมป์ ผู้นำของประชาธิปไตยตัวอย่างของโลกอย่างนี้ ให้ทรัมป์รู้จักที่ต่ำที่สูง เพราะว่าควีนอังกฤษยังคงมีพระราชอำนาจมากท้ังในอังกฤษและโลกใบนี้
เราคงจะมาถึงบทสรุปได้แล้วว่า ประชาธิปไตยไม่มีในโลก ประชาธิปไตยโดยเนื้อแท้แล้วเป็นแค่เปลือก นักเลือกตั้งทั้งหลายเป็นเพียงหุ่นเชิด ทุกอย่างถูกควบคุมจากข้างหลังฉากโดยDeep State
คำถามแล้วทำไมอังกฤษและสหรัฐถึงส่งออกประชาธิปไตยอย่างเป็นล่ำเป็นสัน คำตอบง่ายๆคือ ส่งประชาธิปไตยที่หอมหวานไปทำลายDeep Stateของประเทศต่างๆ เพื่อให้เกิดความอ่อนแอ ความแตกแยก และง่ายต่อการถูกต่างชาติแทรกแซงนั้นเอง
เอวัง ด้วยประการฉะนี้นะโยมทั้งหลาย
cr.thanong
5/11/2017
เพิ่มเพื่อนรับข่าวสารตลาดหุ้น Forex และบทความดีๆ ด้านการเงิน การลงทุน ฟรี!!
http://line.me/ti/p/%40zhq5011b
Line ID:@fxhanuman
